วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 204

ทันทีที่เสียงพูดของเธอหยุด สีหน้าของหลายคนล้วนเปลี่ยนไป

“แม่ หนูกับหลินเฉินยังไม่ได้แต่งงานกัน แม่เรียกแบบนี้มันไม่เหมาะสมนะ” หวังอี้หลินส่งแววตาเป็นการเตือนให้แม่ของเธอ

จากนั้นก็พูดกับฉู่หลินเฉินอย่างเหนียมอาย “หลินเฉิน คุณอย่าถือสาเลยนะ แม่ฉัน... ท่านแค่อยากให้ฉันแต่งงานกับคุณเร็ว ๆ ในใจท่านก็ถือคุณเป็นคนในครอบครัวไปตั้งนานแล้ว”

จางเหวินก็รู้ตัวว่าตนเองปากไวพูดอะไรที่ไม่ควร จึงยิ้มอย่างเก้อเขิน “ใช่ ใช่แล้ว อย่าถือสา…”

ใบหน้าของฉู่หลินเฉินเคร่งขรึม ส่งเสียงเย็นชา “อืม” ที่ทำให้คนมองไม่ออกว่าชอบหรือโกรธ

จางเหวินทำได้เพียงแต่นั่งลงไปด้านข้างด้วยใบหน้าเหยเก

ฉู่หลินเฉินกวาดสายตามองห้องโถงใหญ่และถามขึ้น “บ้านนี้ที่พวกคุณอยู่เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ดีมากเลย ฉันกับแม่ของฉันพวกเขาต่างก็ชอบมาก” หวังอี้หลินพูด

“ฉินซูเธอ...” เมื่อฉู่หลินเฉินพูดถึงชื่อนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดต่อ “ฉินซูโอนกรรมสิทธิ์บ้านหลังนี้ให้เธอหรือยัง?”

หวังอี้หลินตะลึงไปครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถามถึงฉินซู แต่เธอก็ยังพยักหน้า “โอนแล้ว”

ดวงตาเลือน ๆ ของฉู่หลินเฉินทำให้คนอ่านความคิดเขาไม่ออก

เมื่อจางเหวินได้ยินชื่อฉินซูก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “ฉินซูรู้ว่าพวกเราอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ ก็ไม่กล้าที่จะยึดเอาไว้ในมือโดยไม่รู้สึกละลายใจ เด็กสาวคนนั้นเจ้าเล่ห์มาก!”

เธอทราบเรื่องที่ฉู่หลินเฉินกับฉินซูจะหย่ากันเร็ว ๆ นี้ จึงพูดอย่าง “หวังดี” “หลินเฉินตอนที่เธอหย่ากับฉินซูต้องพิจารณาให้ดี ๆ ก่อนนะ อย่าให้ฉินซูถือโอกาสเรียกร้องให้เธอชดเชยอะไร ถึงแม้จำเป็น แต่เงินสักสตางค์เดียวเธอก็อย่าให้ฉินซู ฉินซูกล้าที่จะรังแกอี้หลินของพวกเรา ไม่ใช่แค่หลอกเพื่อที่จะแต่งงานแล้ว”

ฉู่หลินเฉินได้ฟังก็ขมวดคิ้ว

หวังอี้หลินสังเกตสีหน้าของเขาอย่าระมัดระวังมาโดยตลอด เห็นเช่นนั้นจึงรีบพูดขึ้น “แม่หยุดพูดได้แล้ว ตอนแรกฉินซูก็ไม่ได้ตั้งใจสวมรอยเป็นหนูเหมือนกัน แต่พ่อแม่บุญธรรมของเธอละโมบและวางแผนให้เธอ ตอนนี้เธอกับคุณชายฉู่ก็จะหย่ากันแล้ว อีกทั้งเธอก็เต็มใจที่จะจากไปเอง แสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”

ไม่ใช่ว่าเธออยากจะสร้างความรู้สึกประทับใจให้กับฉินซู แต่จริง ๆ แล้วคำพูดของแม่เธอเมื่อสักครู่มันโง่เกินไป

คุณชายฉู่เป็นคนแบบไหน? เรื่องแบบนี้ต้องให้คนอื่นมาเตือนว่าควรทำอย่างไรเหรอ?

คำพูดเหล่านี้ที่แม่ของเธอพูด จะทำให้คุณชายฉู่รู้สึกว่าครอบครัวเธอนั้นตระหนี่

ไม่แน่ว่าอาจจะยังส่งผลต่อมุมมองที่มีต่อเธอ

ดังนั้นแน่นอนว่าหวังอี้หลินต้องแสดงท่าทางที่ใจกว้างออกมาและพูดว่า “หลินเฉิน จริง ๆ แล้วฉินซูก็เป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกัน ยังต้องดูแลคุณย่าเธออีก ถ้าหลังจากที่พวกเธอหย่ากันแล้วชดเชยให้เธอสักหน่อยดีไหม? หลายแสนก็ดีนะ เป็นค่าตอบแทนที่เธอช่วยแสดงเป็นคุณนายฉู่ในช่วงเวลาหนึ่ง”

คิ้วของฉู่หลินเฉินย่นเล็กน้อยและยืดออกไป จากนั้นพยักหน้า “อืม”

ในใจของหวังอี้หลินโล่งใจ

“ผมไม่รบกวนแล้ว ขอบคุณที่ให้การต้อนรับอย่างดี คราวหน้าผมจะมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้าอย่างเป็นทางการอีก”

ฉู่หลินเฉินลุกขึ้นและกล่าวอย่างเคร่งขรึมทะนงองอาจ

ในที่สุดหวังเจิ้นฮวาที่นั่งตัวตรงแข็งทื่อมาโดยตลอด ก็ผ่อนคลายหลังของเขาและพูด “งั้นคุณชายฉู่เดินทางดี ๆ นะครับ”

หลังจากส่งฉู่หลินเฉินแล้ว เขาก็ปาดเหงื่อที่หน้าผากและพูดว่า “โอ๊ย ออร่าของลูกเขยฉันนี่แข็งแกร่งเกินไป หลังจากอี้หลินแต่งงานเข้าตระกูลฉู่ ฉันไม่อยากอยู่อาศัยด้วยกันกับเขาเลย”

จางเหวินมองค้อนเขาและพูดแสดงความไม่พอใจ “แต่ฉันไม่ต้องการแบบนั้น ถึงตอนนั้นฉันจะต้องไปอยู่กับลูกสาวของฉันที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่ ได้ยินมาว่าคฤหาสน์ตระกูลฉู่ใหญ่พอ ๆ กับภูเขาครึ่งลูก ตระการตาเทียบเท่าสวนหลวง!”

หวังอี้หลินมองพ่อแม่ของเธอและยกมุมปาก “เอาล่ะ รอให้คุณชายฉู่หย่ากับฉินซูก่อนแล้วพวกคุณอยากจะอยู่ที่ไหนก็ได้หมด!”

ออกมาจากบ้านตระกูลหวัง ฉู่หลินเฉินนั่งอยู่ในรถ มองไปยังบ้านพักตากอากาศหลังนี้ที่สว่างไสว ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงตอนนั้น ที่เขาเข้าใจผิดฉินซูเพราะเรื่องบ้านพักตากอากาศหลังนี้

ผลคือเธอเปลี่ยนชื่อบ้านพักตากอากาศไปเป็นชื่อของหวังอี้หลิน ก่อนที่เธอจะหย่าจริง ๆ

“เหอะ” เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วขับรถออกไป

ไม่ว่าฉินซูจะเป็นคนยังไง มีแรงดึงดูดอะไรต่อเขา ความอยากรู้อยากเห็นของเขาที่มีต่อเธอก็ควรจะหยุดตรงนี้

การแต่งงานนี้ จำเป็นต้องหย่าร้าง

ในช่วงเวลากลางคืน แววตาของฉู่หลินเฉินเย็นชาและแน่วแน่ เขาขับรถตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลฉู่

ในเวลาเดียวกัน ฉินซูก็เพิ่งจะมาถึงด้านนอกประตูของคฤหาสน์ตระกูลฉู่

เมื่อมองเห็นสถานการณ์ตรงทางเข้าประตู สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปและลงมาจากรถทันที

พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “พวกคุณกำลังทำอะไรกัน?!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง