เธอไม่ชอบทะเลาะกับคนอื่น และไม่ค่อยจริงจังเท่าไร แต่วิธีหน้าเนื้อใจเสือของหวังอี้หลินเมื่อสักครู่นี้ มันทำให้เธอรู้สึกรังเกียจ
“หวังอี้หลิน เธอเล่นละครจบแล้วก็ไป ใจฝ่อเหรอ?” ฉินซูยืนอยู่บนบันได พูดแล้วมองต่ำลงไปด้านล่าง
จางอี้เฟยช่วยพูดสนับสนุน “ใช่ ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นตามอำเภอใจ อย่างน้อยก็ควรจะขอโทษก่อนแล้วค่อยไปสิ!”
“ฉัน…” หวังอี้หลินหันหน้ากลับไปมองคนทั้งสอง แล้วมองฉู่หลินเฉินอย่างรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
คาดไม่ถึงว่าฉู่หลินเฉินจะไม่มีความคิดที่จะพูดออกมา
หวังจะให้ฉู่หลินเฉินช่วยตนเองให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ตรงนี้คงไม่ได้แล้ว
หวังอี้หลินกัดฟัน แต่ทว่าบนใบหน้าปรากฏสีหน้าท่าทางที่จนปัญญา “ฉันเพิ่งจะพูดไปว่าอาจจะเป็นฉันที่เข้าใจผิดไปเอง ถ้าหากพวกเธอคิดว่าฉันจงใจใส่ร้ายจริง ๆ ก็ได้ ฉันขอโทษเธอก็ได้แล้วใช่ไหม? แต่ว่า...”
เธอนิ่งไปครู่หนึ่งและเปลี่ยนเรื่องพูดออกมา “ฉินซู ในตอนนั้นที่เธอสวมรอยเป็นฉัน แล้วแย่งหลินเฉินไป จนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่ได้รับคำขอโทษจากเธอเลย แต่ว่า มันก็ไม่จำเป็นแล้ว”
เสียงของเธอไม่ดังและไม่เบาจนเกินไป พอที่จะให้ลูกค้าชั้นบนและชั้นล่างที่อยู่ใกล้ ๆ สามารถได้ยิน มีเสียงคนกระซิบ
“ฉินซู? คนนั้นที่สวมรอยเป็นคุณนายฉู่?”
“ดูเหมือนจะใช่เธอจริง ๆ…”
หวังอี้หลินประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เธออกไปจากร้านอาหารโดยไม่สนใจความโกรธของฉินซูกับจางอี้เฟย
“นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่คุณชายฉู่ต้องการแต่งงานด้วยคือผู้หญิงคนนั้น บ้าไปแล้วจริง ๆ เธอจงใจแน่ ๆ!” จางอี้เฟยสบถเสียงต่ำ มองเห็นคนจำนวนไม่น้อยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปฉินซู เขาตะโกนอย่างเยือกเย็น “ไม่อนุญาตให้ถ่าย!”
พูดจบก็ยื่นแขนยาวออกไปปกป้องฉินซู และออกจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว
หวังอี้หลินหวนนึกถึงความอับอายของฉินซู ที่ถูกฝูงชนรุมจดจ้องเมื่อสักครู่ ภายในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจ
เธอเดินไปถึงรถ ขณะที่กำลังจะขึ้นรถ เมื่อเงยหน้าก็สบเข้ากับดวงตาที่เย็นเฉียบคมกริบของฉู่หลินเฉิน
ภายในใจเต้นตึกตักอย่างอดไม่ได้ แต่ทว่าบนใบหน้าถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “หลินเฉิน คุณเป็นอะไรไป?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...