“คุณย่าคะ วันนี้หนูผิดไปแล้ว หนูยอมรับผิด คุณย่าอย่าโกรธหนูได้ไหม? คุณย่าช่วยไปพูดกับพี่ให้หนูกลับไปซิงโหยวหน่อยนะคะ” ฉู่หยุนซีพูดขอโทษอย่างต่อเนื่อง ริมฝีปากพูดจนหมดเปลือก
“เรื่องนี้อย่าหวังว่าย่าจะช่วยหลาน และอย่ามาเกาะติดอยู่กับย่า กลับไปห้องของหลานแล้วพิจารณาตัวเองดี ๆ” ซ่งจิ่นหรงไล่เธออย่างหมดความอดทน
ในเวลานี้ เรื่องที่เธอคิดอยู่ในใจอย่างหนักคือเรื่องปฏิกิริยาของฉินซูเมื่อสักครู่ ไม่ผิดแน่...
ฉู่หยุนซีเห็นท่าทีที่แข็งกร้าวและเยือกเย็นของซ่งจิ่นหรง ก็จำใจต้องฝืนจากไป
หลังจากเธอไปแล้ว ซ่งจิ่นหรงก็เรียกลุงหมิงมากำชับทันที “นายโทรไปหาอาเฉิน บอกให้เขามาทานอาหารเย็นที่นี่”
มีเรื่องที่เธอต้องยืนยันต่อหน้า
แสงยามโพล้เพล้ย่างกรายมาถึง
ในห้องโถงด้านหน้า คนในตระกูลฉู่เตรียมทานอาหารเย็น แต่ทว่ากลับไม่เห็นเงาของซ่งจิ่นหรง
ฉู่สวี่ถามด้วยความสงสัย “ทำไมคุณแม่ยังไม่มา? ท่านไม่มาทานข้าวเหรอ?”
ฉู่หยุนซีได้ฟังคำพูดนี้ก็ก้มศีรษะลงด้วยความสำนึก
ตนเองต้องทำให้คุณย่าโกรธมากอย่างแน่นอน แม้กระทั่งไม่ยอมมาทานข้าว
ขณะกำลังคิด ก็ได้ยินหลิวเหวยลู่พูด “ไม่ วันนี้คุณแม่จะทานอาหารเอง และเรียกหลินเฉินกลับมาเป็นเพื่อนท่าน”
ฉู่สวี่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ท่านเรียกหลินเฉินเพราะมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
หลิวเหวยลู่ยิ้มอย่างจนปัญญา “ฉันก็ไม่รู้”
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณท่านตระกูลฉู่จะทำอะไร พวกเขาต่างก็ไม่สามารถไปสอบถามได้
แต่เมื่อฉู่หยุนซีได้ยินว่าคุณย่าเรียกพี่ชายของเธอกับมา ภายในใจก็เต้นระรัวด้วยความดีใจขึ้นมาทันที
คุณย่าเรียกพี่กลับมาตามลำพัง เพราะว่าจะช่วยพูดขอร้องแทนเธอหรือเปล่า? คุณย่าคนนี้เป็นคนปากร้ายแต่ใจดีจริง ๆ วันนี้ดุด่าตนเองจนย่อยยับป่นปี้ขนาดนั้น แต่ยังยอมช่วยเธออีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...