ดวงตาสีเข้มของฉู่หลินเฉินฉายแววดูถูก "มันก็ขึ้นอยู่กับว่าหานโม่หยางจะมีความสามารถแค่ไหน"
หลังจากพูดไป เขาไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ดวงตาของเขาเคร่งขรึมลง และมีความครุ่นคิดอยู่ในดวงตาของเขา
เว่ยเหอถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “คุณชายฉู่ครับ กังวลอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เปล่า” คิ้วเข้มขมวดเป็นเชิงปฏิเสธ
เว่ยเหอมองไม่เห็นอะไรเลย ก็คงจะไม่เป็นอะไรจริง ๆ
เขากำลังจะถอยหลังกลับ แต่ได้ยินเสียงของฉู่หลินเฉินลังเลและถามว่า "วันนี้ฉินซูไปที่ตระกูลหาน เพื่อรายงานตัวใช่ไหม"
เว่ยเหอตกตะลึงด้วยสีหน้างุนงง “ผมไม่ทราบครับ”
ทันทีที่เสียงหายไป เขาก็รู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชา
เขาตอบอะไรผิดไปหรือเปล่า?
เว่ยเหอไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงกระแอมอย่างประหม่า “คุณชายฉู่ครับ คุณบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ต้องไปสนใจการเคลื่อนไหวของฉินซูอีก และไม่ต้องรายงานให้คุณทราบด้วยนี่ครับ?”
“ฉันพูดเหรอ?”
“ครับ ที่…” เว่ยเหอตั้งใจที่จะช่วยคุณชายผู้หลงลืมให้ฟื้นความทรงจำของเขาในทันใด
ฉู่หลินเฉินขัดจังหวะอย่างทนไม่ไหว "ฉินซูเข้าร่วมตระกูลหานแล้ว และจากนี้ไปจะเป็นพวกเดียวกันกับหานโม่หยาง นายต้องคอยดูเธออย่างใกล้ชิด! ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะต้องรายงาน "
"... " แม้ว่าฉินซูจะเข้าร่วมตระกูลหาน แต่เธอก็เป็นแค่พนักงานธรรมดา ๆ เธอจะทำอะไรที่เป็นการคุกคามมาถึงตระกูลู่ได้เหรอ?
เว่ยเหอรู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจ แต่เขาไม่กล้าถาม
เมื่อเห็นการแสดงออกที่เย็นชาและเย่อหยิ่งของคุณชายฉู่ เขาจึงพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “รับทราบครับคุณชายฉู่”
จากนั้นสีหน้าของฉู่หลินเฉินก็ผ่อนคลายลง เขาพูดขึ้น "คุณอารองกลับมาแล้วเหรอ?"
“ยังครับ” หลังจากเว่ยเหอพูดจบ เมื่อเห็นคุณชายขมวดคิ้วอีกครั้ง เขาก็เสริมอย่างรวดเร็วว่า “ถ้าคุณท่านรองกลับมา ผมจะรายงานให้คุณชายทราบทันทีนะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...