จางอี้เฟยเหลือบมองเธอ ดวงตาของเขาเป็นประกาย “ไม่มี”
เมื่อเห็นเขาไม่อยากพูด ฉินซูก็ไม่ได้ถามต่อ
จางอี้เฟยขยับริมฝีปาก ก้มหน้ากินแซนด์วิซในมือให้หมดในสองสามคำ
เขาเช็ดปาก มองไปที่ฉินซูอีกครั้ง และทันใดนั้นก็พูดว่า "ฉันจะลาออกหลังจากโครงการนี้จบลง"
เมื่อเห็นความประหลาดใจบนใบหน้าของฉินซู เขาก็ชิงอธิบายก่อน "ช่วงนี้ฉันคิดวิธีใหม่ ๆ เกี่ยวกับอาการป่วยของพ่อฉันได้น่ะ ก็เลยอยากไปหาเขาสักหน่อย”
จางอี้เฟยเคยพูดว่าความตั้งใจเดิมในการศึกษาแพทย์ คือการรักษาอาการเจ็บป่วยของพ่อของเขา
ฉินซูเข้าใจเรื่องนี้โดยง่ายและพูดติดตลกว่า “ดีแล้วล่ะ ฉันนึกว่าเป็นเพราะช่วงนี้งานหนัก โดนกดดันจนอยากลาออกซะอีก”
จางอี้เฟยกระซิบ “เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”
ฉินซูยิ้มโดยไม่พูดอะไร
หลังจากเลิกงาน เธอมองไปที่จางอี้เฟยซึ่งยังคงทำงานล่วงเวลาในห้องทดลองต่อไป ฉินซูจึงซื้อนมและขนมปังให้เขา และวางไว้ก่อนจะจากออกมา
หลังจากโครงการนี้สิ้นสุดลง จางอี้เฟยจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อไปหาพ่อของเขา
เวินหลีรู้เรื่องนี้หรือเปล่า? หลังจากที่ตนบอกเธอในวันนั้น เธอได้สารภาพความรู้สึกต่อจางอี้เฟยหรือยัง?
ฉินซูไม่สามารถหยุดคิดเรื่องนี้ได้ เธอมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่เดินออกมาจากตึกบริษัทแล้ว
น่าแปลก ช่วงนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงเรื่องความรู้สึกของเวินหลีขึ้นมา
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในอดีต เธอคงไม่ได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับมันสักนิด
อาจเป็นเพราะเวินหลีและจางอี้เฟยเป็นเพื่อนที่สำคัญของเธอ เธอจึงหวังว่าทั้งสองจะเข้ากันได้ดีขึ้น
ฉินซูอดยิ้มไม่ได้และเดินออกจากตึกบริษัท
เธอเดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดินเฉกเช่นปกติ
แต่วันนี้เหมือนมีบางอย่างแปลกไป
ฉินซูรู้สึกเหมือนกำลังถูกคนจ้องมอง สายตาที่คอยแอบดูเธออยู่นั้นมาจากด้านหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...