เด็กน้อยที่เดิมทีเป็นเด็กน่ารักและมีชีวิตชีวา แต่ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างอ่อนแอ โดยมีเครื่องมือและท่อต่าง ๆ สอดเข้าไปในร่างกาย
เมื่อฉินซูที่ยืนอยู่นอกประตูเห็นฉากนี้ หัวใจของเธอก็เต้นปวดเป็นจังหวะ
เธอเคยเห็นลูกรักทนทุกข์ทรมานขนาดนี้เมื่อไหร่กัน?
เธอพยายามควบคุมอารมณ์และอดทนที่จะไม่รีบเข้าไปกอดลูกชายของเธอ เธอถามทิฟฟานี่ที่นอกประตูด้วยเสียงแผ่วเบาว่า“ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
ดวงตาของทิฟฟานี่แดงก่ำ ไม่แน่ใจว่าเธอผ่านการร้องไห้มาหรือเปล่า
เธอถอนหายใจอย่างแรงพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “มันคือภาวะอวัยวะล้มเหลวฉับพลัน ซึ่งยังคงวิเคราะห์หาสาเหตุอยู่ มันกะทันหันมากจนไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
หัวใจของฉินซูดิ่งลงเมื่อได้ยินแบบนี้
เธอกำหมัดแน่นแล้วคลายออก
“ฉันขอไปดูหน่อย” หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เธอก็เดินไปทางเด็กชายตัวน้อยบนเตียงผู่ป่วย
183 เดินตามเธออย่างเงียบ ๆ
เมื่อเขาเห็นเด็กชายตัวน้อย เขาก็แปลกใจเล็กน้อยที่หมอฉินยังหนุ่มคนนี้ถึงกับมีลูกชายโตขนาดนี้แล้ว
“หม่ามี๊...” บางทีอาจเป็นเพราะเขารู้สึกถึงกลิ่นอายของฉินซู ในตอนนี้เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มาก จึงลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก
เมื่อเห็นฉินซู เขาก็อยากจะลุกขึ้นและกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเธอโดยไม่รู้ตัว
แต่เขาอ่อนแอเกินไปที่จะฝืนเคลื่อนไหวร่างกาย
ฉินซูรีบเข้าไปรับเขาด้วยความอ่อนโยน “เด็กดี ไม่ต้องขยับนะ”
เด็กน้อยเอนหลังอย่างโศกเศร้าพร้อมกระพริบตา “หม่ามี๊หายป่วยหรือยังครับ?”
ประโยคนี้เกือบทำให้ฉินซูน้ำตาไหล
ดูซิ เด็กน้อยของเธอเป็นเด็กดีแค่ไหน แม้แต่ในสถานการณ์ยากลำบาก แต่เขากลับเป็นห่วงสุขภาพเธอ
ฉินซู่ส่ายหัวและกลั้นน้ำตาไว้ “หม่ามี๊สบายดี ลูกรักนอนลงเถอะ ตอนนี้หม่ามี๊ขอตรวจสุขภาพของลูกก่อนดีไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...