ฉินซูมองไปที่ลูกชายด้วยความตกใจ
ทิฟฟานี่พูดอะไรกับลูกเธอไปบ้างเนี่ย!
อย่างไรก็ตาม เธอเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งค่อนข้างเปิดกว้าง และพูดคุยเรื่องระหว่างชายหญิงอย่างอิสระ โดยไม่คำนึงถึงสักนิดว่าลูกของเธอจะยังเป็นพุดดิ้งตัวน้อยอายุ 3 ขวบ
ฉินซูตัดสินใจแล้วว่าเธอต้องรีบดึงความคิดของลูกน้อยกลับมาอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็มีบางสิ่งที่ไม่สามารถให้เขาเข้าใจผิดได้
เธอคุกเข่าลงและกระซิบเบา ๆ ว่า “ลูกรัก หม่ามี๊อยู่กับคุณลุง 183 เพื่อที่จะได้ช่วยรักษาอาการป่วยของเขาได้สะดวก นอกจากนี้เป็นเพราะเราทั้งคู่มีโรคที่แพร่เชื้อให้คนอื่นได้ เราเลยไม่อยากแพร่เชื้อให้คนอื่นด้วย”
เด็กน้อยกระพริบตา เขาดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ พลางพูดอย่างเชื่อฟัง “หม่ามี๊ ผมเข้าใจแล้วครับ ในใจหม่ามี๊มีแต่ป๊าปี๊ เลยไม่อยากจะมองหาใครใช่ไหมครับ? ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่พูดจาแบบนี้อีก”
ฉินซูไม่รู้จะอธิบายอย่างไรต่อไปจริง ๆ
เธอได้แต่พยักหน้า “ใช่แล้ว ในใจหม่ามี๊มีแต่ป๊าปี๊เท่านั้น แม้จะยังไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน บางทีเราอาจจะได้พบกันอีกสักวันหนึ่ง”
“ป๊าปี๊โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังจะหลงทางอีก ซื่อบื้อจริง ๆ ผมอยากให้เขากลับมาเร็ว ๆ จังเลย” เด็กน้อยบ่นอย่างไร้เดียงสา
ใช่แล้ว นับตั้งแต่เสี่ยวเวยเวยเกิด ฉินซูก็เกลี้ยกล่อมเขาว่าพ่อของเขาหายตัวไประหว่างเดินทางไปทำธุระที่ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การพูดโกหกแบบนี้ มักจะกลัวเสมอว่าสักวันหนึ่งมันจะถูกเปิดเผย
ดังนั้นเมื่อเธอได้ยินลูกน้อยของเธอพูดแบบนั้น เธอก็รู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย
เธอเลี่ยงหัวข้อนี้และพูดว่า “ไปกันเถอะ เรารีบไปหาคุณปู่กันเถอะ”
วันนี้มีคนมารับผู้โดยสารที่สนามบินเยอะมาก
ฉินซูเปิดตำแหน่งที่จางอี้เฟยส่งมาทางโทรศัพท์ แล้วเดินตรงไป
มีเสียงดังอยู่ใกล้ ๆ
แฟนคลับกลุ่มหนึ่งกำลังร่วมต้อนรับไอดอลของพวกเขา
ฉินซูเงยหน้าขึ้นและมองไปยังโปสเตอร์ที่กลุ่มแฟนคลับถือไว้สูง แต่ก็ชะงักเมื่อเห็นมัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...