ฉินซูนำเงิน 800,000 หยวนนั้นบริจาคไปแล้วจริง ๆ และยังบริจาคในนามของเธอ...
800,000 หยวน... เงินของฉัน
เดิมทีวางแผนไว้ว่ารอให้เวลาผ่านไปสักพักจะหาวิธีเอากลับมา มันสามารถซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้หลายใบ
แต่ถูกบริจาคออกไปแล้ว
ฉินซูจงใจแน่ ๆ!
หวังอี้หลินกัดฟันแน่นจนฟันเหมือนจะหัก แต่เพราะว่าฉู่หยุนซีและหลิวเหวยลู่อยู่ที่นี่ด้วย เธอจึงต้องฝืนยิ้มรับมา “ขอบคุณ ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจเธอผิด”
ฉินซูยิ้มเบา ๆ “ไม่ต้องขอบคุณ”
พูดจบก็หันหลังเดินออกไป
ครั้งนี้ฉู่หยุนซีไม่ได้ขวางเธอไว้ แต่มองไปที่หวังอี้หลินและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่เธอก็ไม่ได้เข้าไปพัวพัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างหวังอี้หลินกับฉินซู แต่เธอก็ไม่เข้าข้างของเลียนแบบอย่างฉินซู
ฉู่หยุนซีหยิบใบรับรองการกุศลขึ้นมา ยิ้มและพูดว่า “อี้หลิน จริง ๆ แล้วเธอก็ชอบการกุศลด้วยเหรอ? ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงจิตใจดีขนาดนี้ คุณแม่ของฉันก็เข้าร่วมกิจกรรมการกุศลอยู่บ่อย ๆ หลังจากนี้ทั้งคู่ก็จะไปมาหาสู่กันอย่างมีความสุขมากขึ้นแน่ ๆ! ใช่ไหมคะคุณแม่?”
สายตาของหลิวเหวยลู่หันกลับมาจากการมองดูด้านหลังของฉินซูที่เดินจากไป เธอพยักหน้าและพูดว่า “อี้หลิน วันหลังถ้ามีเวลาก็มาทานอาหารว่างที่บ้านสิ”
หวังอี้หลินรีบตอบด้วยความดีใจ “ขอบคุณค่ะคุณผู้หญิง”
หลิวเหวยลู่เชิญเธอด้วยตัวเอง เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อเธอ
เธอรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย ดูแล้วเงิน 800,000 หยวนแลกกับใบรับรองการกุศลก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน
แต่น่าเสียดาย จากเดิมที่คิดว่าจะทำให้ฉินซูขายหน้า คิดไม่ถึงว่าเธอจะทำตัวสบาย ๆ แล้วจากไป
ฉินซูถึงบ้านของพ่อแม่บุญธรรม
โจวซือฉิน สามีและลูกชายต่างก็อยู่ที่บ้านเพราะฉู่หลินเฉินส่งคนมาเตือนพวกเขาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อฟังเป็นอย่างดี
พวกเขาไม่ได้ทำให้ฉินซูลำบากใจ เพียงแต่มองดูเธอราวกับคนแปลกหน้า ไม่แยแสและรังเกียจ
ฉินซูหยิบเข็มเงินออกมาจากห้อง เธอหยุดฝีเท้าเมื่อผ่านจงจื้อหย่วน
“ทำอะไร? รีบหยิบของแล้วกลับไปปรนนิบัติรับใช้คุณชายตระกูลฉู่ให้ดีเถอะ หลังจากนี้ครอบครัวเรากับเธอไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีกแล้วแม้แต่นิดเดียว!” โจวซือฉินพูดขึ้นอย่างหมดความอดทน
ฉินซูไม่ได้สนใจที่จะมองเธอ เธอพูดกับจงจื้อหย่วนว่า “ฉันอยากรู้ว่าที่คุณพูดถึงสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตฉันก่อนหน้านี้มันคือเรื่องจริงไหม?”
จงจื้อหย่วนสูญเสียภาพลักษณ์ของพ่อผู้มีเมตตาไปนานแล้ว เขาจุดบุหรี่ต่อหน้าฉินซู พ่นควันออกมาและพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เธอเก่งขนาดนี้ก็รักษาคุณย่าของเธอให้หาย แล้วไปถามเอาเอง! เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
คุณย่า?
ฉินซูไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา “เข้าใจแล้ว”
หันหลังแล้วเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว
เธอก็หยุดฝีเท้าแล้วพูดว่า “นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันก้าวเข้ามาเหยียบที่นี่ หลังจากนี้เรื่องของพวกคุณจะไม่เกี่ยวข้องกับฉันอีกแม้แต่นิดเดียว ยกเว้นเรื่องของคุณย่า”
พูดจบก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง “บ้าน” สถานที่ที่ใช้ชีวิตมาห้าปี
จงจื้อหย่วนมองดูประตูที่ว่างเปล่า เขาขมวดคิ้วแล้วเขี่ยบุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุหรี่
ตกกลางคืน
ภายในห้องทำงานของ CEO ฉู่ซื่อ เว่ยเหอมองดูชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป
“คุณชายฉู่ เรื่องราวทั้งหมดก็จัดการเรียบร้อยแล้ว คุณไม่คิดที่จะกลับไปอีกเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...