วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 57

ฉู่หลินเฉินเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างไม่พอใจ

วางปากกาหมึกซึมในมือตึงตังด้วยสีหน้าเยือกเย็น จากนั้นหยิบเสื้อสูทตัวนอกแล้วเดินออกไป

เว่ยเหอไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาพูดอะไรผิดไป ได้แต่ลูบจมูกด้วยใบหน้าเหยเก

ยืนอยู่ด้านนอกของบ้านพักตากอากาศ

ทันทีที่ฉู่หลินเฉินนึกถึงเรื่องเมื่อคืน จิตใจของเขาก็ยุ่งเหยิงอุตลุด แต่ในที่สุดก็เดินเข้าไปด้วยความลังเล

ฉินซูเพิ่งจะเตรียมตัวที่จะทานมื้อค่ำ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเธอก็เงยหน้าขึ้น

เพียงแค่เหลือบมองครั้งเดียว เธอก็รีบก้มหน้าลง แล้วทานข้าวโดยไม่หันไปมอง

เมื่อเห็นท่าทีที่เฉยเมยของเธอ ในใจของฉู่หลินเฉินก็ยิ่งรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น

ทำไมเมื่อคืนเขาถึงเกิดความรู้สึกที่รุนแรงแบบนั้นกับเธอ เพียงแค่เพราะยาเหรอ?

เมื่อคิดแบบนี้ ฝีเท้าของเขาก็เดินเข้าไปหาฉินซูโดยไม่ได้ตั้งใจ

ดูเหมือนว่าฉินซูจะก้มหน้าทานข้าวอย่างนิ่งเฉย แต่จริง ๆ แล้วภายในใจกลับลุกลี้ลุกลนและหวาดกลัว

ท่าทางของผู้ชายคนนี้ที่ดุร้ายเหมือนสัตว์ป่าเมื่อคืน ยังคงฝังอยู่ในหัวของเธอ การเข้าใกล้ของเขาทำให้เธอมีปฏิกิริยาเตือนภัยตัวเองไปทั่วทั้งตัว ร่างกายของเธอแข็งทื่อ

ในตอนที่ฉู่หลินเฉินเกือบจะเดินถึงด้านหน้าของเธอ ฉินซูสูดหายใจเข้าลึก ๆ วางตะเกียบลงแล้วเงยหน้าขึ้น

ดูเหมือนว่าเธอจะเชิญชวนแต่ความจริงเธอพูดขึ้นอย่างปฏิเสธ “คุณชายฉู่ ถ้าคุณอยากจะนั่งลงทานข้าว ในหม้อยังมีอยู่”

เพราะจริง ๆ แล้วผู้ชายคนนี้ไม่เคยทานข้าวด้วยกันกับเธอเลย

คิดไม่ถึงว่าเขาจะเปลี่ยนทิศทางเดินไปยังห้องครัว

ผ่านไปไม่นานก็ถือชามข้าวออกมา นั่งลงตรงข้ามกับฉินซู

ฉินซู: ...

“อาหารน่าจะไม่พอ” เธอก้มลงดูเนื้อและผักตรงหน้าแล้วพูดขึ้น

“พอแล้ว ฉันไม่ได้อยากอาหาร”

ฉู่หลินเฉินเหมือนจงใจจะไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร ดูท่าทางเขาอยากจะทานอาหารมื้อนี้กับเธอจริง ๆ!

ฉินซูบังคับตัวเองไม่ให้สนใจเขาอย่างเด็ดขาด เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาทานข้าวอีกครั้ง

ฉู่หลินเฉินก็หยิบตะเกียบขึ้นมา

เขาคีบอาหารเข้าปากไปหนึ่งคำแล้วก็ผงะไปครู่หนึ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทานอาหารที่ฉินซูทำ รสชาติเกินความคาดหมาย... ไม่แย่

เป็นผลให้ชายหนุ่มที่บอกว่า ตัวเองไม่อยากอาหารทานมื้อเย็นหมดไปมากกว่าครึ่ง

ตลอดเวลาที่ทานอาหารฉินซูไม่ได้พูดอะไรขึ้นมา เธอเก็บชามและตะเกียบไปล้าง

ฉู่หลินเฉินก็ลุกขึ้นพร้อมกัน เขาก้าวเดินไปด้านหน้าของฉินซู

เธอข่มความประหม่าในใจแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา

ในขณะนี้ระยะห่างระหว่างทั้งสองเหลือน้อยลง จนเขาได้กลิ่นหอมของพืชพรรณที่เหมือนจะไม่มีอยู่จริง หัวใจของฉู่หลินเฉินกระตุก เขาเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิดเพื่อยืนยัน

ตะเกียบด้ามหนึ่งขัดขวางการเคลื่อนไหวของเขา

ฉินซูใช้ตะเกียบชี้ไปที่หน้าอกของเขา เพื่อเป็นการเตือนด้วยท่าทางที่ใจเย็น เขาดูสับสนวุ่นวาย

“คุณชายฉู่ เคารพตัวเองด้วย!”

ฉู่หลินเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ถ้าฉันไม่เคารพตัวเอง สิ่งนี้มันจะหยุดฉันได้ไหม?”

ฉินซูเม้มปากไม่พูดอะไร มองเขาด้วยความพร้อมที่จะป้องกันตัวเอง

เมื่อเจอกับสายตาของเธอ ฉู่หลินเฉินก็นึกถึงตัวเองที่ยั้งสติไม่อยู่เมื่อคืน จากนั้นเขาก็ระงับการแสดงออกด้วยความรำคาญ

เขาถอนตัวกลับออกมา ใช้น้ำเสียงที่ไม่พอใจและทะนงตัวพูดขึ้นว่า “อย่าคิดว่าฉันจะรู้สึกอะไรกับเธอ เมื่อคืนมันเป็นแค่อุบัติเหตุ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไหล่ที่กระชับแน่นของฉินซูก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ริมฝีปากของเธอขดเล็กน้อยและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ฉันดื่มเหล้าจนเมา แล้วก็ทำพฤติกรรมที่ขาดสติ งั้นเราก็หายกันนะ หวังว่าคุณชายฉู่จะไม่ใส่ใจ”

ฉู่หลินเฉินขยับริมฝีปากแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาหมุนตัวเดินขึ้นชั้นบน

ณ บ้านตระกูลหวัง

จางเหวินได้จัดเตรียมเสื้อผ้า สำหรับไปทานอาหารที่บ้านตระกูลฉู่ในอีกสองวันข้างหน้าสำหรับหวังอี้หลินไว้แต่เนิ่น ๆ

“คุณผู้หญิงฉู่เชิญลูกด้วยตัวเอง แสดงว่าคุณเขายอมรับลูก ไปทานข้าวครั้งนี้เป้าหมายของลูกคือคุณท่านตระกูลฉู่”

จางเหวินเลือกเสื้อผ้าไปด้วย ชี้แนะให้หวังอี้หลินไปด้วย “อย่าไปดูถูกการแก่ตัวของหญิงชราคนนั้น ที่ตระกูลฉู่เธอเป็นคนที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุด!”

หวังอี้หลินแบะปาก “ก็เป็นเพราะยายแก่คนนี้แหละ ที่พาฉินซูเข้าบ้านตระกูลฉู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ หนูก็ได้เป็นคุณหนูของตระกูลฉู่ไปตั้งนานแล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง