เธอหยิบกล่องของขวัญที่นำมาแล้วเปิดออก จากนั้นก็ชงชาและยื่นให้ด้วยความเคารพ
“คุณท่านคะ ดื่มชาหน่อยนะคะ”
“จ่ะ” ซ่งจิ่นหรงฝืนเก็บความรู้สึกที่ไม่สบายใจเอาไว้และรับชามา
ฉู่หลินเฉินและหลินเฟิงมาถึงแล้ว ลุงหมิงได้บอกเจตนาของหญิงชราที่จะปฏิเสธการเข้าเยี่ยม
หลินเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ตอนนั้นเป็นฉันเองที่สับสนและทำผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้คุณฉู่ท่านได้รับผลกระทบไปด้วย... คุณท่านไม่ยอมให้อภัยฉันมันก็สมเหตุสมผลแล้ว”
หลิวเหลยลู่พูดขึ้นด้วยความสบายใจ “เหล่าหลินคุณอย่าถือสาเลย ไม่ช้าก็เร็วในสักวันท่านก็จะยอมเปิดใจ เรื่องราวมันก็ผ่านมานานแล้ว พวกเราตระกูลฉู่ต่างก็เข้าใจความลำบากใจของคุณในตอนนั้น”
หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น “คุณหญิงฉู่ ขอบคุณที่เข้าใจจริง ๆ แต่ผิดก็คือผิด ฉันมาในวันนี้นอกจากจะมาเยี่ยมคุณท่านแล้ว ยังอยากที่จะมอบเครื่องหอมให้คุณฉู่ท่านด้วย”
หลิวเหลยลู่ชะงักมองไปที่ฉู่หลินเฉิน เห็นได้ชัดว่าเขารู้เรื่องนี้
เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีกและพยักหน้า
“ขอบคุณคุณหญิงฉู่” หลินเฟิงซาบซึ้งจริง ๆ เขาหันไปยื่นกล่องไม้จันทร์ในมือให้ลุงหมิง “ถึงแม้คุณท่านไม่ยอมที่จะพบฉัน แต่นี่คือน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉัน ได้ยินมาว่าคุณท่านนอนหลับไม่สนิท บางทีสิ่งนี้อาจจะทำให้ท่านหลับสบายมากขึ้น”
พูดจบก็เหลือบมองไปยังฉินซูที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
“อาหลินไปกันเถอะ ผมจะพาอาไปสุสานบรรพบุรุษ” ฉู่หลินเฉินพูดจบก็เดินนำไปด้านหน้า
หลินเฟิงเดินไปได้สองก้าวก็หยุดแล้วพูดขึ้นด้วยความงงงวย “คุณหนูไม่ไปด้วยกันเหรอ?”
ดวงตาของฉู่หลินเฉินหรี่ลง “เธอ…”
หลิวเหวยลู่รีบอธิบายขึ้นทันที “คุณแม่ท่านมีธุระกับเธอน่ะ”
ขณะพูดก็ส่งสัญญาณผ่านแววตาไปให้ฉินซู “ใช่ไหม?”
แม้ว่าฉินซูจะไม่เข้าใจว่าคืออะไรแต่เธอก็คล้อยตาม “ใช่ค่ะ”
เห็นเช่นนั้นหลินเฟิงก็ออกไปกับฉู่หลินเฉินโดยที่หลิวเหวยลู่ก็ไปกับพวกเขาด้วย
“ยายของเลียนแบบ เธอคิดว่าใครก็สามารถเข้าไปที่สุสานบรรพบุรุษได้เหรอ?” ฉู่หยุนซีกดเสียงต่ำพูดถากถาง และยกคอขึ้นอย่างเย่อหยิ่งมองตามพวกเขาไป
ฉินซูก้มศีรษะ มุมปากของเธอดึงลง ไม่มีเหตุผลอะไรและเธอก็ไม่ได้อยากไปเคารพหลุมศพใคร
“คุณหนูไปหาคุณท่านกับผมก่อนดีกว่าครับ” ลุงหมิงพูดขึ้น
ฉินซูพยักหน้า “ค่ะ”
ขณะที่เดินตามลุงหมิงเข้าไปยังห้องโถงใหญ่ ซ่งจิ่นหรงกำลังพูดคุยกับหวังอี้หลินอย่างอบอุ่น เรื่องราวของหลินเฟิงเมื่อสักครู่ เป็นเรื่องทุกข์ใจเรื่องเดียวที่แทรกเข้ามา
“คุณท่านครับ นี่เป็นน้ำใจของคุณหลินให้ผมนำมามอบให้คุณท่าน ผมไปจัดเตรียมอาหารกลางวันที่ห้องครัวก่อนนะครับ” ลุงหมิงวางกล่องลงและหมุนตัวเดินออกไป
ภายในห้องโถงใหญ่ไม่มีใครคนอื่นอีก
ฉินซูมองไปยังหวังอี้หลิน ปรากฏความรู้สึกประหลาดใจอยู่ในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นสีหน้าของเธอก็กลับมาเป็นปกติและกล่าวทักทายขึ้น “คุณท่าน”
ซ่งจิ่นหรงพยักหน้าปล่อยให้เธอนั่งลงตามสบาย หลังจากนั้นก็พูดคุยกับหวังอี้หลินต่อไป
ฉินซูหาที่นั่งสำหรับตัวเองแล้วนั่งลงไป
สีหน้าท่าทางของหวังอี้หลินดูไม่ปกติ
เพราะเธอกำลังเล่าเรื่องการเจอกันของตนเองกับคุณชายฉู่ให้หญิงชราฟัง
ในขณะเดียวกันซ่งจิ่นหรงก็ซักไซ้ไล่ถามขึ้นด้วยความอยากรู้ “หลังจากนั้นล่ะ? เธอกับอาเฉินเจอกันบนภูเขา? แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก?”
หัวใจหวังอี้หลินบีบรัดแล้วมองไปยังฉินซู
ฉินซูเอียงศีรษะมองสบตาเธอเข้าพอดี
หวังอี้หลินรู้สึกราวกับว่ามีคนกำลังบีบคอเธอ และเธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียว
ฉินซูก็อยู่ที่นี่ด้วย ถ้าหากตนเองหลุดปากพูดอะไรออกมาให้เธอได้ยิน เธอจะต้องระแคะระคายแน่ ๆ จะยอมให้ทุกอย่างถูกเปิดเผยไม่ได้…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...