ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 314

การชนกันของรถม้าสองคันนั้นมิได้สร้างความวุ่นวายมากนัก ในมิช้ารถม้าก็แล่นไปตามถนนหนทางอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังพระราชวังหลวง

กู้โม่หานเอนหลัง พิงไปยังที่นั่งด้วยใบหน้าเย็นชา แววตาดูเยือกเย็นผิดปกติ

หนานหว่านเยียนก็เอนกายไปยังที่พิงของนางเงียบๆ มิได้ไปยั่วยุเขาอีก

เพราะถึงอย่างไรกู้โม่หานกับจวนเฉิงเซี่ยงก็มีความแค้นต่อกัน

นางมิอยากจะเถียงกับเขาเสียตอนนี้

จวบจนกระทั่งมาถึงประตูพระราชวัง หนานหว่านเยียนก็รู้สึกมีความสุขยิ้มขึ้นลงจากรถม้า

นางมิสนใจกู้โม่หาน ได้แต่เดินไปข้างหน้าตามลำพัง

ในวันเทศกาลดอกไม้ เป็นวันบูชาเทพเจ้าแห่งดอกไม้ ฮ่องเต้มักจะเสด็จไปทางใต้เพื่อชมดอกไม้มากมาย

แต่เนื่องจากเกิดเหตุจลาจลเมื่อมิกี่วันก่อน อีกทั้งพิจารณาถึงเหตุผลต่างๆ จึงเลือกที่จะจัดงานเลี้ยงใหญ่ในพระราชวัง

หนานหว่านเยียนเห็นทะเลดอกไม้บานสะพรั่งหลากสี มองไปช่างสบายตา

แต่ว่านางมิมีอารมณ์มาชื่นชมดอกไม้ บัดนี้งานเลี้ยงในวังยังมิทันได้เริ่มขึ้น นางอยากจะเดินทางไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ก่อน เพื่อเอ่ยคำร้องขอของนาง

กู้โม่หานเดินตามหลังหนานหว่านเยียนไปด้วยสีหน้าเย็นชา

“ท่านอ๋องและพระชายาช้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ!” ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไป เฟิ่งกงกงก็รีบเร่งเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้ารอยยิ้มอันอบอุ่น

หนานหว่านเยียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยทันที “เฟิ่งกงกง ท่านมาได้อย่างไร?”

เฟิ่งจงฉวนมองไปทางหนานหว่านเยียน รอยยิ้มของเขาดูเข้มข้นขึ้น แววตาเปล่งประกายเฉียบแหลม

“ทูลพระชายา ฝ่าบาท เชิญให้ท่านเสด็จไปเข้าเฝ้า ณ ห้องทรงพระอักษร”

แววตาของหนานหว่านเยียนเป็นประกาย

นางยังมิทันเดินทางไปหา ฮ่องเต้ก็มาตามนางเองแล้ว เป็นสิ่งที่นางต้องการเสียเหลือเกิน

“เช่นนั้นเฟิ่งกงกงเชิญนำทางเถิด”

ใบหน้าอันหล่อเหลาของกู้โม่หานดูสงบลง น้ำเสียงแกมบีบบังคับว่า “เสด็จพ่อมิได้เรียกให้ข้าเข้าเฝ้าหรือ”

เฟิ่งกงกงหันไปมองทางกู้โม่หานแล้วเสแสร้งทำเป็นมิรู้มิชี้ กล่าวว่า “เอ่อ เรื่องนี้กระหม่อมเองก็มิแน่ชัด ฝ่าบาทกล่าวว่าเชิญพระราชชายาอ๋องอี้ให้เข้าเฝ้าเท่านั้น”

“อืม” ดวงตาของกู้โม่หานดูแหลมคม เย็นเฉียบเป็นประกาย เขามองออกเพียงแต่มิได้กล่าวเท่านั้น

เฟิ่งจงฉวนเหลือบมองไปทางกู้โม่หาน ยิ้มแล้วกล่าวว่า “สีหน้าของอ๋องอี้ดูดีกว่าเมื่อก่อนยิ่งนัก กระหม่อมดีใจเหลือล้น หากท่านอ๋องยังมิหายดีละก็ เมืองหลวงนี้คงจะแย่แน่”

กู้โม่หานมองไปด้วยแววตาสงบ “งั้นหรือ เฟิ่งกงกงเป็นห่วงเป็นใยข้าเช่นนี้เชียว?”

หนานหว่านเยียนเหลือบมองไปทางกู้โม่หาน จากนั้นหันมามองที่เฟิ่งกงกง รู้สึกว่าคนในพระราชวังล้วนเป็นนักแสดงที่ตีบทแตกจริงๆ แต่ละคนแสดงได้มิแพ้กัน

เฟิ่งจงฉวนเพียงต้องการลองเชิงกู้โม่หาน แต่เมื่อเห็นว่าเขามิตอบต่อ จึงมิได้ใส่ใจแล้วยิ้มกลับ

“ท่านอ๋องคือเทพเจ้าแห่งสงคราม และยังเป็นอ๋องอี้แห่งซีเหย่ แน่นอนว่ากระหม่อมย่อมเป็นกังวล”

“โอ้ ดูสมองอันแก่ชราของกระหม่อมสิ เอ่ยวาจามากความ ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงรอพระชายาอยู่ กระหม่อมขอตัวพาพระชายาเสด็จไปก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

กล่าวจบเขาก็โค้งคำนับไปทางกู้โม่หานแล้วหันหลังจากไป

หนานหว่านเยียนละสายตาจากกู้โม่หานแล้วก้าวเท้าเดินตามออกไปเช่นกัน

แววตาที่ยังนับว่าค่อนข้างอ่อนโยนของกู้โม่หานจับจ้องไปทางร่างของหนานหว่านเยียนอยู่สักพัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้