ชั่วขณะนั้น สีหน้าของกู้โม่หานก็พลันมืดทะมึนลงทันที รีบเดินนำเข้าไปในห้องหนังสือ
เซียวลี่เดินตามเข้าห้องหนังสือไป ก่อนจะปิดประตูแน่น
เขาประสานมือคารวะ น้ำเสียงขึงขังจริงจังอย่างยิ่ง "ท่านอ๋อง กลุ่มมือสังหารที่หลบหนีเมื่อเช้า กระหม่อมได้พาเหล่าพี่น้องกองทหารไล่ตามไป จนพบว่านอกจากคนของสำนักอู๋หยิ่งแล้ว ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่แสร้งปลอมแปลงตัวตนปะปนเข้ามาด้วย”
นัยน์ตาหงส์ของกู้โม่หานเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที ริมฝีปากบางเผยอขึ้นน้อย ๆ "ว่าต่อไป"
สีหน้าของเซียวลี่ดูเคร่งเครียดจริงจังยิ่งขึ้น ล้วงหยิบป้ายคำสั่งแผ่นหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ แล้วยื่นส่งไปตรงหน้ากู้โม่หาน
"มือสังหารกลุ่มนั้นฝีไม้ลายมือคล่องแคล่วปราดเปรียวมาก หลังจากที่พวกกระหม่อมต่อสู้กับพวกนั้นแล้ว แม้ว่าจะไม่เหลือใครที่รอดชีวิต แต่ในศพที่เหลืออยู่สามสี่ร่าง เราตรวจพบของบางอย่างรวมถึงสิ่งนี้....."
กู้โม่หานรับมาดู สีหน้าของเขาก็พลันมืดทะมึนอย่างน่าสะพรึงกลัว "เป็นป้ายคำสั่งเสวียนอู่จริง ๆ น่ะรึ?!"
กระดูกข้อต่อที่มองเห็นเด่นชัดบีบขยำกระดาษเซวียนจื่อในมือแน่น ราวกับว่าต้องการจะขยี้มันให้แหลกจนกลายเป็นผุยผง
เซียวลี่ถูกปราณอำมหิตที่แผ่ออกมาจากร่างของกู้โม่หานกดดัน จนทำให้เหงื่อเย็น ๆ ไหลอาบไปทั่วร่าง เจ้าตัวถึงกับขมวดคิ้วแน่น
เขาติดตามกู้โม่หานมานานหลายปี เขาย่อมรู้ถึงที่มาของป้ายคำสั่งนี้เป็นธรรมดา
ป้ายคำสั่งเสวียนอู่ เป็นป้ายคำสั่งลับทางการทหาร ซึ่งมีเพียงฮ่องเต้แคว้นซีเหย่เท่านั้นที่จะถือครองได้มาโดยตลอด ดังนั้นคนที่จะสามารถสั่งการให้กองทัพเสวียนอู่กระทำการใด ๆ ได้ ย่อมมีเพียงผู้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกรคนเดียวเท่านั้น
ความโกรธแค้นเกลียดชังอันเย็นเยียบที่หลบเร้นอยู่ในใจของกู้โม่หาน ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นไอสังหาร กระทั่งแฝงความรู้สึกผิดหวังน้อย ๆ ด้วยอีกหลายส่วน "นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ สินะ!"
ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าคนที่เขาพาเที่ยววันนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นองค์ชายและองค์หญิงของแคว้นเทียนเซิ่ง เสด็จพ่อก็ยังลอบส่งกองทัพเสวียนอู่ไปลอบสังหารฉินมู่ไป๋? !
หากฉินมู่ไป๋ตายอย่างน่าอนาถไปเมื่อเช้าจริง ๆ เช่นนั้นแล้วเขาย่อมไม่อาจหนีความรับผิดชอบนี้ไปได้ ขฌ ยิ่งไม่อาจหลีกหนีการถูกประณามจากบรรดาขุนนางในราชสำนัก แต่อาจร้ายแรงจนถึงขั้นถูกบังคับให้รับโทษตายเพื่อเป็นการไถ่โทษอีกด้วย
และทั้งหมดนี้ เป็นแค่ผลลัพธ์ที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะคาดเดาถึงผลเสียได้!
เพื่อป้องกันไม่ให้เขาแข็งแกร่งขึ้น เสด็จพ่อถึงกับยอมเสี่ยงทำให้ทั้งสองแคว้นเข้าสู่สงคราม เรียกได้ว่าบ้าจนกู่ไม่กลับแล้ว!
เซียวลี่เข้าใจความหมายของกู้โม่หาน รีบคุกเข่าลงแล้วถามว่า "ท่านอ๋อง เช่นนั้นแล้วตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดีขอรับ?"
กู้โม่หานหลับตาลงลึก ๆ เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นก็เย็นเฉียบบาดลึกจนเสียวปลาบไปจนถึงกระดูก ทำให้รู้สึกราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
“ในเมื่อทุกย่างก้าวที่เขาเดิน เอาแต่บีบคั้นไม่เคยคิดถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือดเลย เช่นนั้นแล้ว ข้าก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องห่วงกังวลเรื่องอะไรอีกต่อไปแล้ว!”
"เจ้ารีบกลับไปที่ค่ายเสินเชื่อ ออกคำสั่งลับให้จัดเตรียมอาวุธใหม่ล่าสุด นำไปแจกจ่ายให้กับทหารทุกคน จากนั้นให้เริ่มการฝึกซ้อมเป็นการส่วนตัว บอกพวกเหล่าเสิ่นว่าถึงเวลาแล้ว พวกเราไม่อาจนั่งเฉย ๆ รอความตายได้อีกต่อไป"
การค่อยจฌ ๆ ยึดกลืนอำนาจเป็นอะไรที่ช้าเกินไป กู้จิ่งซานทั้งกดดันข่มเหงหาทางทำลายเขาทุกด้าน เขาจะไม่มีวันยอมให้กู้จิ่งซานทำได้สมดังปรารถนาแน่!
นี่... นี่หมายความว่า..... จะก่อกบฏอย่างนั้นรึ?
เซียวลี่ถึงกับตกใจจนผงะ ถึงขั้นหวั่นใจน้อย ๆ แต่เพียงไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่า ถ้าท่านอ๋องไม่ก่อกบฏล่ะก็ เขาจะทำอะไรได้อีกล่ะ นั่งรอความตายอย่างนั้นรึ?
ต้องรู้ก่อนว่าคนที่หมายชีวิตเขา คือฮ่องเต้องค์ปัจจุบันที่เป็นบิดาแท้ ๆ ของท่านอ๋อง ซึ่งตัวท่านอ๋องเองก็คงจะอกไหม้ไส้ขม ทุกข์ระทมใจมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้นานแล้ว ถึงได้กล้าตัดสินใจเช่นนี้
"ขอรับ! ท่านอ๋อง!" เขาพูดพลางลอบมองพินิจกู้โม่หานอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ในดวงตาฉายแววเจ็บปวดใจ "ท่านอ๋อง ทั้งกระหม่อมและพวกรองแม่ทัพ จะซื่อสัตย์ภักดีต่อท่านตลอดไป!"
............
หลังจากเซียวลี่ไปแล้ว กู้โม่หานก็ยืนนิ่งอยู่ข้างหน้าต่าง นิ้วถูป้ายคำสั่งเสวียนอู่ในมือไม่หยุด หวนนึกถึงการลอบสังหารเมื่อเช้า เรื่องสับสนอลหม่านเมื่อคืน รวมถึงเรื่องราวทั้งหลายที่เกิดขึ้นในวังเมื่อวันก่อน หัวใจของเขาวุ่นวายยุ่งเหยิงไปหมด รู้สึกหงุดหงิดไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
โดยไม่มีเหตุผล จู่ ๆ เขาก็รู้สึกอยากเห็นหน้าหนานหว่านเยียนขึ้นมา เป็นความปรารถนาที่แรงกล้าจนไม่อาจควบคุมได้ เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน
ชายหนุ่มเก็บป้ายคำสั่งเสวียนอู่ไว้ในอกเสื้อ มือกำเป็นหมัดแน่น แล้วเดินตรงไปที่เรือนเซียงหลิน
แต่ในเวลานี้ กู้โม่หานยังไม่รู้ว่าอีกครู่เดียว เขาก็จะได้รู้ความลับประการหนึ่งแบบที่ไม่ทันตั้งตัว
เป็นความลับที่เกี่ยวข้องกับเขาและหนานหว่านเยียน ซึ่งมีชะตาที่เกี่ยวโยงกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้นานหลายปีแล้ว เป็นความลับที่ขมวดพันกันจนอิรุงตุงนังยากจะคลี่คลาย......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...