ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 562

ดูเหมือนว่าเหนียงเหนียงจะละทิ้งความแค้นในช่วงนั้นไม่ได้จริงๆ จึงได้เกิดความไม่ชอบต่อพระชายาในใจ

ทันใดนั้นหยีเฟยก็รู้สึกชีวิตไร้ความหมาย นางอ้าปากอย่างรีบร้อน “ไม่ใช่ คือ อยากพบลูกสะใภ้”

นางนอนไปแค่สิบกว่าปีเอง เหตุใดหวางหมัวมัวถึงไม่เข้าใจความหมายของนางเสียแล้ว? สัญญาลับที่เคยมีมา?!

หวางหมัวมัวได้ยินคำพูดนี้ของหยีเฟย ก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย “ท่านอยากพบพระชายา?”

คงไม่ใช่เรียกพระชายามา ระบายความไม่พอใจดอกกระมัง?

หยีเฟยโล่งอก ภายในใจเบิกบานเพิ่มเป็นทวีคูณ “อืม”

แม้ว่าตอนนี้นางจะอยากเจอลูกของตัวเองมาก แต่นางก็มีเรื่องมากมายที่อยากจะคุยกับหนานหว่านเยียน

โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับ “แก้วรักษาอุณหภูมิ” ข้อนี้……

หวางหมัวมัวคาดเดาความคิดเรียบร้อยแล้ว ก็พยักหน้าอย่างเคารพนอบน้อม “เช่นนั้นบ่าวจะไปรายงานประเดี๋ยวนี้”

พูดจบ นางก็เดินไปยังด้านนอก

แต่เพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตู ก็บังเอิญพบเข้ากับโม่หวิ่นหมิงกับโม่หลีสองคนที่มาเยี่ยมเยือนพอดี

แววตาของหวางหมัวมัวปรากฏความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านน้าของพระชายา ท่านมาทำอะไรหรือ?”

ที่รู้ๆ โม่หวิ่นหมิงไม่เคยมาเยี่ยมหยีเฟยมาก่อน เหตุใดจู่ๆ ถึงได้มาตอนนี้ แถมยังพาบุรุษแปลกหน้ามาด้วยอีก

โม่หวิ่นหมิงมองดูโม่หลี ที่มีสีหน้าสงบนิ่งที่อยู่ข้างๆ แล้วหันไปเอ่ยกับหวางหมัวมัวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

“ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าหยีเฟยฟื้นแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมเลย ช่วงนี้ขาของข้าดีขึ้นมากแล้ว ดังนั้นก็เลยอยากมาดูอาการของกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงสักหน่อย ว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”

คำพูดของโม่หวิ่นหมิงไม่มีช่องโหว่ หวางหมัวมัวหาความผิดปกติไม่เจอเลย

นางมองดูโม่หลี และเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “ท่านมาเยี่ยมหยีเฟยเหนียงเหนียง เชื่อว่าเหนียงเหนียงจักต้องดีใจอย่างยิ่ง แต่โม่เซียนเซิงท่านนี้……เกรงว่า จะไม่ค่อยเหมาะสมนัก”

เพราะอย่างไรเสียก็เป็นเพียงเซียนเซิงที่สอนหนังสือ แม้พระชายาจะวางใจมาก แต่……สุดท้ายก็เป็นคนนอกอยู่ดี

โม่หวิ่นหมิงเอ่ยอย่างสงบเงียบ “โม่เซียนเซิงเคยคลุกคลีกับผู้ป่วยที่คล้ายกันมาก่อน ดังนั้นข้าถึงให้เขามา ดูว่าสามารถช่วยอะไรได้บ้าง หากท่านคิดว่าไม่เหมาะสม ท่านก็ไปขอคำสั่งจากหยีเฟยเหนียงเหนียงจะดีกว่า ว่านางยอมพบพวกข้าหรือไม่?”

หวางหมัวมัวขมวดคิ้วมองดูโม่หวิ่นหมิงที่อยู่เบื้องหน้า ที่เป็นท่านน้าของหนานหว่านเยียน ท่าทางก็ดีเสมอมา ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ

“ท่านรอสักประเดี๋ยว” นางพยักหน้า แล้วรีบกลับเข้าไปกราบทูล

โม่หลีกับโม่หวิ่นหมิงรออยู่หน้าประตู ทั้งสองคนมองหน้ากัน แล้วหลบซ่อนความฮึกเหิมเอาไว้

ไม่นาน หวางหมัวมัวก็ออกมา หันไปทำความเคารพโม่หลีกับโม่หวิ่นหมิง “เหนียงเหนียงอนุญาตแล้ว เชิญท่านทั้งสองเข้ามาด้านในเถิด”

นางกราบทูลหยีเฟย ว่าท่านน้าของหนานหว่านเยียนต้องการพบนาง ยังคิดอยู่เลยว่าหยีเฟยจะโกรธไม่อยากพบผู้ใดจากจวนเฉิงเซี่ยง แต่ไม่คิดเลย ว่าหยีเฟยจะดึงมือนางเอาไว้ “พบ พบ”

เหตุใดหลังเหนียงเหนียงฟื้นขึ้นมา นางก็ยิ่งเดาความคิดของเหนียงเหนียงไม่ได้แล้ว?

โม่หวิ่นหมิงหยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทาย แล้วเข้าไปในห้องพร้อมกับโม่หลี

หวางหมัวมัวมองดูเงาของทั้งสองคน คิดไปคิดมา เลยให้คนมาเฝ้าอยู่ด้านนอก หากมีเรื่องผิดปกติอะไรก็ให้จัดการแทนเหนียงเหนียง เลย ส่วนนางจะออกไปจากเรือนเซียงหลิน ไปหาหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานเอง

เหนียงเหนียงพูดได้แล้ว จักต้องรีบไปรายงานท่านอ๋องกับพระชายา

ภายในห้อง หยีเฟยนอนอยู่บนเตียงไม่สามารถขยับตัวได้ แต่สายตากลับชำเลืองมองหน้าประตูไม่หยุด

ทันใดนั้น บุรุษรูปโฉมงดงาม สวมใส่อาภรณ์สีขาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามา หน้าตาราวกับภาพวาด แฝงไปด้วยความอ่อนโยนอย่างยิ่ง

ดวงตาของนางเปล่งประกายทันที

นี่คือเด็กน้อยที่ติดตามอยู่ข้างกายพี่หวิ่นชิงในครานั้นนี่ โตเป็นบุรุษรูปงามแล้ว แม้ว่าเปรียบเทียบกับลูกชายนางแล้ว จะยังด้อยกว่านิดหน่อยก็เถอะ

โม่หวิ่นหมิงเดินไปถึงข้างเตียงหยีเฟยก่อน มองดูสตรีที่ใบหน้าซูบผอมบนเตียง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แล้วโค้งตัวอย่างเคารพนอบน้อมพลางเอ่ย “โม่หวิ่นหมิงมาเยี่ยมเยือนจวิ้นจู่”

หยีเฟยกำลังจะเอ่ยตอบ ทันใดนั้นก็เห็นโม่หลีที่อยู่ด้านหลังโม่หวิ่นหมิง นัยน์ตาก็สั่นระริกขึ้นมาทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้