ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 620

เสิ่นอี่ว์และเซียงอวี้ที่เฝ้าอยู่นอกตำหนัก เมื่อได้ยินเสียงร้อนใจของกู้โม่หานก็สบสายตากันทันที เสิ่นอี่ว์รู้สึกประหม่าขึ้นมา “พ่ะย่ะค่ะ! ข้าน้อยไปเดี๋ยวนี้!”

เซียงอวี้รู้สึกประหม่าเช่นกัน ฮองเฮาไม่สบายอีกแล้วหรือ?

ไม่รู้ว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า ก่อนที่เหนียงเหนียงจะสลบไสลไป ก็บอกว่าจะแย่แค่ไหนก็จะตรวจอาการให้ตัวเอง แต่พอหลังจากสลบไสลไปแล้วก็อารมณ์แปรปรวน ซ้ำยังเกิดเรื่องราวต่างๆ ซับซ้อน นางจึงไม่กล้าเร่งรัดให้เหนียงเหนียงไปตรวจอาการ

หากหมอหลวงมาตรวจเอง ก็อาจจะสามารถวินิจฉัยสาเหตุได้

เซียงอวี้ขอพรจากสวรรค์อย่างเงียบๆ อวยพรให้เหนียงเหนียงตั้งครรภ์ ต้องเป็เนเช่นนั้น ต้องเป็นเช่นนั้น…

กู้โม่หานต้องการเรียกหมอหลวง?!

ไม่ ไม่ได้!

หัวใจของหนานหว่านเยียนเต็มไปด้วยความกลัว นางไม่อาจปล่อยให้หมอหลวงมาตรวจชีพจรของนางได้

นางพยุงตัวเองกับขอบเตียง เงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก มองแผ่นหลังที่เย็นชาและเคร่งขรึมของกู้โม่หาน พลางกัดริมฝีปากเพื่อข่มความรู้สึกปั่นป่วนในท้อง “ข้าบอกแล้วว่าไม่! ข้ารู้จักร่างกายของตัวเองดีที่สุด…”

ทันทีพูดจบ นางก็อาเจียนอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้ อวัยวะภายในเหมือนถูกคว้าจนว่างเปล่า ร่างกายก็ว่างเปล่าอย่างถึงที่สุด

กู้โม่หานรีบกลับไปที่ข้างกายหนานหว่านเยียน เมื่อเห็นสภาพที่อ่อนแรงของนาง ใบหน้าอันหล่อเหลาก็แย่ลงจนถึงขีดสุด

เขาปลอบโยนนางอย่างอดทน “เจ้าอย่าทำเป็นเก่งอีกเลย ครั้งนี้ให้หมอหลวงตรวจเจ้าให้ถี่ถ้วน หว่านเยียน ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรเด็ดขาด”

สภาพของนางย่ำแย่เช่นนี้ บ่งบอกได้เพียงว่าสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้ไร้ประโยชน์ ป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่ มันไม่ได้ผลเลยสักนิด

ส่วนหนานหว่านเยียนก็ไม่ได้สั่งยาให้ตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองทรมานถึงเพียงนี้ นางจงใจทำให้เขาเจ็บปวดหรือเปล่า

หนานหว่านเยียนต้องการที่จะลุกขึ้นและปฏิเสธ แต่น่าเสียดายที่สภาพร่างกายของตัวเองไม่มีเวลามานึกถึงสถานการณ์ฉุกละหุกเช่นนี้

แค่อาเจียนก็เผาผลาญกำลังวังชาของนางไปเกือบหมดแล้ว…

ประสิทธิภาพการทำงานของเสิ่นอี่ว์นั้นรวดเร็วมาก ไม่นานเขาก็พาหมอหลวงเจียงมาถึงตำหนักหยูซิน

“ฝ่าบาท หมอเจียงมาแล้ว”

พูดจบ ประตูของตำหนักหยูซินก็ถูกเปิดโดยกู้โม่หาน เสิ่นอี่ว์เงยหน้าขึ้นมองและเห็นใบหน้าที่เย็นชาของคมกริบดั่งใบมีดของกู้โม่หาน ใบหน้าแข็งทื่อด้วยความตกใจ ความรู้สึกไม่สบายใจยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจ

หมอหลวงเจียงไม่กล้าล่าช้า รีบเข้าไปทำเคารพ “หม่อมฉันขอเข้าเฝ้า…”

“อย่ามัวพูดไร้สาระ รีบไปตรวจฮองเฮาว่านางเป็นอะไรกันแน่!” กู้โม่หานตวาดด้วยสายตามืดมนน่ากลัว

“พ่ะย่ะค่ะ“ หมอหลวงเจียงพยักหน้าหงึกๆ แล้วรีบก้าวเข้าไปหาหนานหว่านเยียน

ในช่วงกลางดึก เสิ่นอี่ว์ไม่สามารถเข้าไปในตำหนักบรรทมของนางสนมในวังหลังได้ จึงเฝ้าอยู่ข้างนอกต่อไป

ด้านนอกประตู เสิ่นอี่ว์ขมวดคิ้วนั่งไม่ติด ในใจรู้สึกหนักอึ้ง

เซียงอวี้ก็เป็นกังวลและประหม่ามากเช่นกัน แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรอีก

ภายในตำหนัก หมอหลวงเจียงเดินเข้ามาหาหนานหว่านเยียนด้วยความเคารพ แล้วโค้งคำนับนาง “เหนียงเหนียง ได้โปรดยื่นมือออกมา ให้หม่อมฉันทำการตรวจชีพจร”

ตอนนี้หนานหว่านเยียนได้ผ่อนคลายลงมาก แต่ตัวนางยังอ่อนแออยู่

นางเอนตัวลงนอนที่ข้างเตียง เสื้อผ้าเพิ่งถูกจัดระเบียบโดยกู้โม่หาน ไม่ลืมตัวเสียกิริยา

ดวงตาที่เปล่งประกายระยิบระยับของหนานหว่านเยียนมองไปที่หมอหลวงเจียง ใบหน้าซีดเผือด

“ไม่ต้อง ตัวข้าก็เป็นหมอเช่นกัน ไม่ต้องการหมอหลวงใดๆ”

“แต่ว่าเหนียงเหนียง…”

น้ำเสียงของนางเยือกเย็นลงสามระดับทันที “ข้าบอกให้จ้าวออกไป!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้