ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 770

กล่าวถึงที่สุดแล้วในตอนนั้น  หลังจากที่หยุนอี่ว์โหรวรุดไปวัดชิงอันเพื่อพบกับหนานชิงชิงคราหนึ่งแล้ว  หนานชิงชิงจึงได้แขวนคอตัวเองกระทำอัตวินิบาตกรรม

เขามักจะรู้สึกว่า  เรื่องนี้มีที่ใดซึ่งแปลกประหลาดอยู่  เพียงแค่นึกหาสาเหตุออกมาไม่ได้เท่านั้น

เมื่อกู้โม่เฟิงพูดเช่นนี้  กู้โม่หานเองก็หยีตาลงครึ่งหนึ่งเปลี่ยนเป็นขบคิดอย่างลึกซึ้งขึ้นมาแล้ว

ความจริงเขาก็รู้สึกสงสัยหยุนอี่ว์โหรวขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกัน  กล่าวถึงที่สุดอาศัยอยู่ด้วยกันกับนางมานานกว่าสิบปี  บัดนี้จึงได้พบว่า  อุบายความคิดของนางนั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการคาดคิดเอาไว้มากมายนัก

หยุนอี่ว์โหรวยังเคยทำอะไรไว้อีกบ้าง  เขามิอาจทราบได้จริงๆ……

เขาพูดปลอบโยนกู้โม่เฟิงขึ้นว่า  “การเสียชีวิตของหนานชิงชิงนั้น  เจ้าหาได้มีส่วนต้องรับผิดชอบไม่  เจ้าก็อย่าได้คิดมากแล้ว”

หัวข้อเรื่องนี้ไม่ค่อยสนุกนัก  ทั้งสองก็หยุดลงไม่สนทนาเรื่องนี้อีกต่อไปแล้วเช่นกัน

กู้โม่เฟิงก็พูดคุยสนทนาเรื่องทั่วไปกับกู้โม่หานอีก  ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเรื่องข้อราชการในราชสำนักล่าสุดส่วนหนึ่ง  เรื่องเกี่ยวกับขนาดเหมาะสมของค่ายเสินเชื่อ

กู้โม่หานนึกถึงกู้โม่เฟิงเคยอยู่เป็นเพื่อนตอนที่หนานชิงชิงคลอดบุตรมาก่อน  ก็เลยถามเกี่ยวกับเรื่องที่ควรให้ความสนใจระหว่างการตั้งครรภ์แล้วหลายข้อ

กู้โม่เฟิงพูดว่า  “สำหรับสถานการณ์ของสตรีตั้งครรภ์นี้แต่ละคนน่าจะแตกต่างกันอยู่บ้าง  ทว่าข้าคิดว่า  การทำให้สตรีตั้งครรภ์รู้สึกสบายมีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจนั้น  เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างแน่นอน”

“ตอนนี้ฮองเฮาก็ตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว  พวกท่านสองคนไม่สมควรแยกจากกันจริงๆ  ต่อให้เจ้ามิรู้จักง้องอนเอาอกเอาใจใจคน  เช่นนั้น——เอาอกเอาใจบนเตียงก็ใช้ได้แล้วล่ะ!”

“สามีภรรยาทะเลาะกันตรงหัวเตียงปลายเตียงสมัครสมาน(หมายถึงให้ใจเย็นๆ สามีภริยาทะเลาะกันไม่นานเดี๋ยวก็คืนดีกันเอง)   ขอเพียงสตรีรู้สึกยินดีมีความสุขบนเตียงแล้ว  ลงจากเตียงแล้วก็จะปฏิบัติดีต่อท่านอยู่บ้างเช่นกัน”

กู้โม่หานฟังสิ่งที่กู้โม่เฟิงพูดด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ  ซัดกระหน่ำตูมใส่กู้โม่เฟิงจนกระเด็นออกไปแล้ว

นี่ช่างเป็นความคิดที่บ้าบอคอแตกอะไรเช่นนี้  ถ้าเขาทำเช่นนี้จริงๆ ละก็  หนานหว่านเยียนยังมิเล่นงานเขาจนดับดิ้นหรอกหรือ?

ทว่าภายในห้วงคำนึง  กลับปรากฏฉากที่มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดผูกพันรักใคร่กันอย่างลึกซึ้งขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ก็ปาน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่ำคืนเทศกาลปีใหม่นั้น  แม้ว่าความทรงจำของเขาจะวุ่นวายสับสน  แต่นางอยู่ภายในอ้อมกอดของเขาอย่างว่านอนสอนง่าย  ดวงตาช่างเย้ายวนมีเสน่ห์ยิ่งนัก  ลักษณะที่หลั่งเหงื่อตลอดทั้งร่าง  เขากลับยังจำได้ดีเหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้นใหม่ๆ ด้วยซ้ำ……

ลูกกระเดือกของกู้โม่หานกลิ้งขึ้นและลง  ดื่มน้ำเย็นลงไปแล้วแก้วหนึ่ง  จึงสามารถฝืนข่มความคิดอันฟุ้งซ่านแทบจะควบคุมไม่ได้อยู่บ้างนั้นลงไป

เพียงแต่ตอนนี้ร่วมสามเดือนแล้ว  ดูเหมือนว่า……ก็คงจะไม่ได้แล้วเช่นกัน

……

ณ ภายในตำหนักหยูซิน

เวลานี้จวนใกล้จะเที่ยงวันแล้ว  เกี๊ยวน้อยถูกเซียงอวี้และเซียงเหลียนนำไปงีบหลับเข้านอนยามบ่ายแล้ว  หนานหว่านเยียนกำลังนั่งอยู่ภายในห้องโถงใหญ่  กำลังเขียนรายการวางแผนของตนเองอยู่

นางตั้งครรภ์ได้นานกว่าสามเดือนแล้ว  เสื้อผ้าอาภรณ์สีแดงหลวมกว้างมากกว่าปกติ  ปกปิดท้องน้อยที่โตขึ้นของนางไว้อย่างมิดชิด  ดูไม่ออกแม้แต่น้อยว่าเป็นสตรีมีครรภ์

ยามนี้เอง  ประตูตำหนักก็ถูกคนเคาะเบาๆ  หนานหว่านเยียนเงยหน้าขึ้นขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย  เก็บจดหมายกดลงไปอยู่ใต้เตียงทันที  “ผู้ใด?”

เฟิงยางเปิดประตูออกนำไท่เฟยที่กำลังถือสิ่งของอยู่เดินเข้ามาแล้ว

“เหนียงเหนียง  ไท่เฟยรุดมาแล้ว”

“เสด็จแม่  ท่านมาแล้ว”  หนานหว่านเยียนเห็นไท่เฟย  ก็ยิ้มแย้มแล้วทันที  เตรียมลุกขึ้นเพื่อไปต้อนรับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้