“แต่โม่หานก็ไม่กล้าโกรธ คิดเอาเองว่าเป็นเพราะกู้จิ่งซานคิดว่าเขาอุตสาหะไม่พอ คิดว่าเขาโง่เกินไป จึงดูถูกเขา”
“หมัวมัวบอกว่า ตั้งแต่นั้นมา โม่หานไม่เคยแสดงออกอะไรง่ายๆ แค่ทุ่มเทอยู่เบื้องหลังผู้อื่นอย่างเงียบๆ เก็บซ่อนและข่มอารมณ์ทั้งหมดไว้ ส่วนข้าในฐานะแม่ กลับได้แต่นอนเป็นคนผัก ไม่สามารถปลอบโยนและปกป้องลูกของข้าได้ คนอื่นมีแม่ที่รักและปกป้อง แค่เขาเท่านั้น มีก็เหมือนไม่มี…”
หนานหว่านเยียนฟังคำพูดที่ซาบซึ้งของเท่เฟย พลางขมวดคิ้วโดยไม่ได้ตั้งใจ
นางสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ เหมือนตอนที่นางยังเด็ก ถูกคนอื่นดูหมิ่นดูแคลน รู้สึกโดดเดี่ยวไร้แรงสนับสนุน มันก็เข้าใจได้ ในฐานะแม่คนหนึ่ง มันเจ็บปวดเพียงใดที่ได้ยินข่าวเช่นนี้
แต่หนานหว่านเยียนก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร ทำได้เพียงลูบหลังของเท่เฟยอย่างเงียบๆ
เท่เฟยส่ายหน้า แล้วหันไปจับมือของหนานหว่านเยียน พลางลูบไล้หลังมือเบาๆ น้ำตาคลอเบ้า
“เอาล่ะสะใภ้ของข้า โม่หานมีข้อบกพร่องทางอารมณ์จริงๆ ทั้งหมดเกิดจากผลกระทบจากครอบครัวเดิมของเขา ข้ากับกู้จิ่งซาน ติดหนี้เขามากเหลือเกินจริงๆ”
“แต่การที่ได้เกื้อกูลกันมานาน ข้าเชื่อว่าเจ้าก็มองเห็นแล้ว ยังมีคนชื่นชมและสนับสนุนคอยติดตามอยู่เคียงข้างเขามากมาย”
ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างจริงใจของโม่หาน ถึงได้ผลลัพธ์เช่นนี้มา เพราะทุ่มเทด้วยใจจริง ทุกคนจึงยินดีติดตามเขาเสมอ”
“ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ เขาก็ไม่เลวนะ และข้าก็เห็นว่าตอนนี้เขากลับเนื้อกลับตัวแล้วจริงๆ เขารักเจ้าหัวปักหัวปำ ทำดีกับลูก มีความรับผิดชอบ ต่อไปจะเป็นสามีที่ดีมากในอนาคต คำว่าพ่อ สำหรับเจ้าถือว่าเป็นคนดีแล้ว เจ้าว่าไหม?”
เท่เฟยพูดจบ ก็จ้องเขม็งไปที่หนานหว่านเยียนเพื่อรอคำตอบของนาง
ถึงอย่างไรลูกสะใภ้ที่ดีเช่นนี้ ซ้ำยังตั้งครรภ์อีก นางบอกว่าไม่ต้องการอยู่ต่อ ต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่ ส่วนตัวนางแล้ว นางยังคงหวังว่าหนานหว่านเยียนจะให้โอกาสกู้โม่หานอีกครั้ง
ลูกชายปากเสียเกินไป แน่นอนว่าในฐานะแม่ นางต้องช่วยเหลือสักหน่อย
หนานหว่านเยียนตกตะลึง มองเท่เฟยที่แววตาเป็นประกาย แต่กลับพูดอย่างหนักแน่น
“เสด็จแม่ ข้าเข้าใจว่าท่านหมายถึงอะไร แต่ท่านก็รู้ว่ามีรอยร้าวระหว่างกู้โม่หานกับข้า และรอยร้าวก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ หากยังบังคับฝืนใจอีก ก็มีแต่จะทิ้งร่องรอยเป็นหลุมเป็นบ่อเอาไว้”
“ตอนนี้ข้าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมตัวเองให้ปล่อยวางอดีตและฝืนอยู่ด้วยกันได้อีก ข้าเกรงว่าข้าจะแสดงออกได้ไม่ดี ดังนั้นควรปล่อยมือให้เร็วที่สุดจะดีกว่า สิ่งนี้จะเป็นผลดีต่อเขาและข้า”
เท่เฟยเห็นท่าทางเด็ดเดี่ยวของนางก็พูดไม่ออกกะทันหัน สุดท้ายก็ยิ้มกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว คำพูดเมื่อครู่ เจ้าก็ถือว่าเป็นคำบ่นของแม่ก็แล้วกัน ยังไงข้าก็หวังว่าเจ้ากับลูกๆ จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ในอนาคต”
แต่นางก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ลึกๆ โม่หาน เจ้าเด็กคนนั้นพูดอะไรก็ง่าย รักและปกป้องหว่านเยียนได้ แต่เมื่อพูดว่าต้องปล่อยนางไป เกรงว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
นอกจากนี้เขายังสามารถยืนหยัดอยู่ในแคว้นนี้ได้อย่างมั่นคง หากจะบอกว่าเขาไม่มีแผนการ ทำอะไรอย่างเปิดเผย นางผู้เป็นแม่ไม่เชื่อแล้วหนึ่งคน
แค่หวังว่าตัวเขาเองจะปล่อยวางลงได้ ไม่เช่นนั้น...ก็ปวดหัวแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...