ความหมายโดยนัยของเขาก็คือเกลี้ยกล่อมหนานหว่านเยียนว่าอย่าอาศัยอำนาจสามีข่มเหงคนอื่น วางมาดว่ามีฮ่องเต้ให้ท้าย ก็จะสามารถพูดวาจาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าทูตขุนนางแคว้นอื่นได้
เขารู้สึกมานานแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้มีผลกระทบในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของฮ่องเต้ ปล่อยเอาไว้ก็จะเป็นหายนะในภายหน้า วันนี้ดูแล้ว ก็ไม่ผิดจริงๆ!
หลิวช่างชูพูดจบ ขุนนางแคว้นซีเหย่ก็ต่างพากันสนับสนุน บ้างก็ปลอบประโลมทูตขุนนางแคว้นต้าเซี่ย บ้างก็ตำหนิสิ่งที่ไม่ถูกต้องของหนานหว่านเยียนอย่างโจ่งแจ้งบ้างเป็นนัยๆบ้าง
และหนานฉีซานที่ยืนกลมกลืนอยู่ในฝูงชนก็ขมวดคิ้วขึ้น มองดูหนานหว่านเยียนและหยุนอี่ว์โหรว แววตาซับซ้อนเป็นที่สุด แต่ในนัยน์ตากลับซ่อนเร้นไปด้วยความตื่นเต้นอยู่รางๆ
ไทเฮาทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ สีหน้าของกู้โม่หานก็ดูไม่ดีขึ้นมา แต่กลับไม่รู้จะพูดอะไร ทูตแคว้นต้าเซี่ยมาเอาคน คนก็ยืนยันแล้วว่าเป็นจวิ้นจู่ แม้ว่าจะมีจุดที่น่าสงสัย แต่หนานหว่านเยียนขัดขวางไว้ คำพูดไม่มีน้ำหนักพอให้เชื่อถือได้จริงๆ
หนานหว่านเยียนจ้องมองคนกลุ่มนี้อย่างเย็นชา ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าอะไรที่เรียกว่ามีเหตุผลแต่ก็พูดให้กระจ่างไม่ได้
กาวม่านหย่วนผู้นี้ จำคนผิดไม่ว่า ตอนนี้ยังแยกแยะผิดถูกไม่ได้อีก ปล่อยให้บรรดาทูตขุนนางแคว้นต้าเซี่ยตะโกนเอะอะโวยวายในท้องพระโรง ชี้หน้าวิจารณ์นางอย่างส่งๆ
ขณะที่นางกำลังจะพูดอะไร สายตาของกู้โม่หานกวาดไปที่ทุกคน แววตาคมกริบซะยิ่งกว่ามีด น้ำเสียงเย็นชาและมีอำนาจ
“ฮองเฮาพูดจากระทำการใด ที่ผ่านมาล้วนมีเหตุผลของนาง วันนี้การเอ่ยถามซ้ำๆเช่นนี้ ก็เพราะเห็นแก่ความปลอดภัย ทำให้ทูตแคว้นต้าเซี่ยของพวกเจ้าได้วิเคราะห์กันให้ดีๆ ข้าคิดว่าก็ไม่ได้มีอะไรที่ไม่เหมาะสม”
“หากหยุนอี่ว์โหรวเป็นจวิ้นจู่ของพวกเจ้าจริง และพวกเจ้าก็เชื่อโดยไร้ข้อกังขา จะมีอะไรทนไม่ได้ จำเป็นต้องตะโกนโวยวาย ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ยืนกรานให้ถึงที่สุด เหมือนดั่งตอนนี้เพียงแค่คำถามสงสัยไม่กี่คำก็ทนไม่ไหวแล้ว กลับทำให้เห็นถึงความไม่มั่นใจเสียอีก”
สีหน้าของพ่อบ้านกาวเปลี่ยนเป็นดุดันทันที จากนั้นก็ได้ยินกู้โม่หานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกเฉียบขาดอีกว่า “ทูตกาว ข้าถามเจ้าอีกครั้ง จุดประสงค์การมาครั้งนี้ของพวกเจ้า นอกจากเจรจาเรื่องแคว้นแล้ว ยังคิดจะรับจวิ้นจู่ของพวกเจ้ากลับไปด้วยใช่หรือไม่?”
พ่อบ้านกาวรีบกุมมือคำนับ “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
บรรดาทูตคนอื่นๆก็ต่างพากันสนับสนุนเช่นกัน
ได้ยินดังนั้น ดวงตาสีดำดั่งหมึกของกู้โม่หานก็ฉาบไปด้วยความเย็นยะเยือกที่แตกเป็นเสี่ยงๆเล็กน้อย แต่ฉับพลันนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
พูดตามตรง เขารู้สึกโชคดีเล็กน้อยที่พวกทูตกลุ่มนี้จำคนผิด
ไม่เช่นนั้นหากว่าหนานหว่านเยียนกลายเป็นจวิ้นจู่ ถูกพวกเขาพาตัวไปจริงๆ เช่นนั้นเขาและนาง ก็อาจจะไม่มีอนาคตแล้วโดยแท้จริง
บุตรสาวภรรยาหลวงของเฉิงเซี่ยงผู้หนึ่งเขายังสามารถควบคุมได้ แต่หากว่าหนานหว่านเยียนเป็นจักรพรรดินี เขายังจะมีสิทธิ์อะไรรั้งนางไว้ได้อีก?
เขายอมรับว่าเขาต่ำช้า แต่ว่า เขาไม่อยากปล่อยนางไปจริงๆ
เมื่อได้ยินกู้โม่หานถามเช่นนี้ หยุนอี่ว์โหรวก็คิดว่าเขาจะยอมปล่อยนางไปแล้ว นัยน์ตาปรากฏความดีใจออกมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...