ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 809

ความหมายโดยนัยของเขาก็คือเกลี้ยกล่อมหนานหว่านเยียนว่าอย่าอาศัยอำนาจสามีข่มเหงคนอื่น วางมาดว่ามีฮ่องเต้ให้ท้าย ก็จะสามารถพูดวาจาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าทูตขุนนางแคว้นอื่นได้

เขารู้สึกมานานแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้มีผลกระทบในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของฮ่องเต้ ปล่อยเอาไว้ก็จะเป็นหายนะในภายหน้า วันนี้ดูแล้ว ก็ไม่ผิดจริงๆ!

หลิวช่างชูพูดจบ ขุนนางแคว้นซีเหย่ก็ต่างพากันสนับสนุน บ้างก็ปลอบประโลมทูตขุนนางแคว้นต้าเซี่ย บ้างก็ตำหนิสิ่งที่ไม่ถูกต้องของหนานหว่านเยียนอย่างโจ่งแจ้งบ้างเป็นนัยๆบ้าง

และหนานฉีซานที่ยืนกลมกลืนอยู่ในฝูงชนก็ขมวดคิ้วขึ้น มองดูหนานหว่านเยียนและหยุนอี่ว์โหรว แววตาซับซ้อนเป็นที่สุด แต่ในนัยน์ตากลับซ่อนเร้นไปด้วยความตื่นเต้นอยู่รางๆ

ไทเฮาทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ สีหน้าของกู้โม่หานก็ดูไม่ดีขึ้นมา แต่กลับไม่รู้จะพูดอะไร ทูตแคว้นต้าเซี่ยมาเอาคน คนก็ยืนยันแล้วว่าเป็นจวิ้นจู่ แม้ว่าจะมีจุดที่น่าสงสัย แต่หนานหว่านเยียนขัดขวางไว้ คำพูดไม่มีน้ำหนักพอให้เชื่อถือได้จริงๆ

หนานหว่านเยียนจ้องมองคนกลุ่มนี้อย่างเย็นชา ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าอะไรที่เรียกว่ามีเหตุผลแต่ก็พูดให้กระจ่างไม่ได้

กาวม่านหย่วนผู้นี้ จำคนผิดไม่ว่า ตอนนี้ยังแยกแยะผิดถูกไม่ได้อีก ปล่อยให้บรรดาทูตขุนนางแคว้นต้าเซี่ยตะโกนเอะอะโวยวายในท้องพระโรง ชี้หน้าวิจารณ์นางอย่างส่งๆ

ขณะที่นางกำลังจะพูดอะไร สายตาของกู้โม่หานกวาดไปที่ทุกคน แววตาคมกริบซะยิ่งกว่ามีด น้ำเสียงเย็นชาและมีอำนาจ

“ฮองเฮาพูดจากระทำการใด ที่ผ่านมาล้วนมีเหตุผลของนาง วันนี้การเอ่ยถามซ้ำๆเช่นนี้ ก็เพราะเห็นแก่ความปลอดภัย ทำให้ทูตแคว้นต้าเซี่ยของพวกเจ้าได้วิเคราะห์กันให้ดีๆ ข้าคิดว่าก็ไม่ได้มีอะไรที่ไม่เหมาะสม”

“หากหยุนอี่ว์โหรวเป็นจวิ้นจู่ของพวกเจ้าจริง และพวกเจ้าก็เชื่อโดยไร้ข้อกังขา จะมีอะไรทนไม่ได้ จำเป็นต้องตะโกนโวยวาย ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ยืนกรานให้ถึงที่สุด เหมือนดั่งตอนนี้เพียงแค่คำถามสงสัยไม่กี่คำก็ทนไม่ไหวแล้ว กลับทำให้เห็นถึงความไม่มั่นใจเสียอีก”

สีหน้าของพ่อบ้านกาวเปลี่ยนเป็นดุดันทันที จากนั้นก็ได้ยินกู้โม่หานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกเฉียบขาดอีกว่า “ทูตกาว ข้าถามเจ้าอีกครั้ง จุดประสงค์การมาครั้งนี้ของพวกเจ้า นอกจากเจรจาเรื่องแคว้นแล้ว ยังคิดจะรับจวิ้นจู่ของพวกเจ้ากลับไปด้วยใช่หรือไม่?”

พ่อบ้านกาวรีบกุมมือคำนับ “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

บรรดาทูตคนอื่นๆก็ต่างพากันสนับสนุนเช่นกัน

ได้ยินดังนั้น ดวงตาสีดำดั่งหมึกของกู้โม่หานก็ฉาบไปด้วยความเย็นยะเยือกที่แตกเป็นเสี่ยงๆเล็กน้อย แต่ฉับพลันนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

พูดตามตรง เขารู้สึกโชคดีเล็กน้อยที่พวกทูตกลุ่มนี้จำคนผิด

ไม่เช่นนั้นหากว่าหนานหว่านเยียนกลายเป็นจวิ้นจู่ ถูกพวกเขาพาตัวไปจริงๆ เช่นนั้นเขาและนาง ก็อาจจะไม่มีอนาคตแล้วโดยแท้จริง

บุตรสาวภรรยาหลวงของเฉิงเซี่ยงผู้หนึ่งเขายังสามารถควบคุมได้ แต่หากว่าหนานหว่านเยียนเป็นจักรพรรดินี เขายังจะมีสิทธิ์อะไรรั้งนางไว้ได้อีก?

เขายอมรับว่าเขาต่ำช้า แต่ว่า เขาไม่อยากปล่อยนางไปจริงๆ

เมื่อได้ยินกู้โม่หานถามเช่นนี้ หยุนอี่ว์โหรวก็คิดว่าเขาจะยอมปล่อยนางไปแล้ว นัยน์ตาปรากฏความดีใจออกมาทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้