ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 812

สิ้นสุดคำพูด ทุกคนก็ยังคงรู้สึกว่าสิ่งที่ไท่เฟยพูดมีเหตุผล

ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงหาข้อสรุปไม่ได้ ก็ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีผู้ใดที่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักชัดเจนหรอกหรือ และเรื่องตอนยังเด็ก จะมีผู้ใดที่สามารถจำได้อย่างชัดเจนกันล่ะ?

พ่อบ้านกาวมองดูไท่เฟยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาเต็มไปด้วยความจนปัญญา

เป็นดังคาด ยังไงก็ให้ไท่เฟยออกหน้าไม่ได้ สถานการณ์นี้ไม่เอื้อประโยชน์ต่อเขาและเจ้านายน้อย

สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวก็ไม่น่าดูเป็นอย่างมาก หนานหว่านเยียนรวมสายตาไปที่หวงไท่เฟย ในดวงตาแสดงความขอบคุณเล็กน้อย

คิ้วอันงดงามของกู้โม่หานขมวดขึ้นเล็กน้อยอย่างสังเกตไม่ได้ มือใหญ่ๆอันเรียวยาวจับที่เท้าแขนแน่นโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ทันใดนั้น มีทูตแคว้นต้าเซี่ยผู้หนึ่งเอ่ยถามขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นหวงไท่เฟยมีวิธีการที่ดียิ่งกว่า ในการช่วยพวกข้าแยกแยะว่าผู้ใดคือจวิ้นจู่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ไท่เฟย “ข้ายังรู้จักคนอีกคนหนึ่ง จะต้องสามารถพิสูจน์ตัวตนของหว่านเยียนได้อย่างแน่นอน”

“เพียงแค่ไปรับคนผู้นั้นเข้าวังมา ความจริงทุกอย่างก็จะปรากฏออกมาแล้ว”

ตอนนั้นแคว้นต้าเซี่ยเกิดความวุ่นวาย ข้างกายของท่านพี่ชิงไม่ได้มีเพียงแค่แม่ทัพเท่านั้น ยังมีขุนนางอีกด้วย

เด็กน้อยผู้นั้นที่คอยตามติดข้างกายของท่านพี่ชิง เพราะถูกราชวงศ์ส่งออกมาอย่างลับๆ ติดตามมาที่แคว้นซีเหย่ เติบโตมาพร้อมกับหนานหว่านเยียนโดยตลอด

เพียงเพราะว่าอายุน้อยเกินไป จึงไม่ได้รับการใส่ใจจากพ่อบ้านกาว

แต่คำพูดของเขา สามารถเชื่อถือได้อย่างแน่นอน และมีพลังยิ่งกว่าพ่อบ้านกาวอีกด้วย

แต่นี่เป็นความลับอันใหญ่หลวงของแคว้นต้าเซี่ย ตอนนี้นางไม่สามารถเปิดเผยกับพ่อบ้านกาวได้

ประการที่หนึ่งคือตอนนี้พวกเขามีทัศนคติไม่ตรงกัน เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ค่อยว่ากัน ประการที่สองไม่ว่าอย่างไรที่นี่ก็เป็นแคว้นซีเหย่ หากว่าความลับของแคว้นต้าเซี่ยถูกเปิดเผยในราชสำนัก เกรงว่าจะไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก

และคนผู้นั้น ก็คือท่านน้าของหนานหว่านเยียนในตอนนี้ น้องชายบุญธรรมของท่านพี่ชิง——โม่หวิ่นหมิง!

ไท่เฟยคิดจะระงับเรื่องนี้ไว้เป็นการชั่วคราว แอบรับโม่หวิ่นหมิงเข้าวังมาอย่างลับๆเป็นการส่วนตัว และเรียกหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หาน อีกทั้งพ่อบ้านกาวมาด้วยกัน ให้คนไม่กี่คนนี้สะสางเรื่องนี้ไปซะ

ถึงเวลา ก็ส่งหนานหว่านเยียนให้จากไปด้วยความสง่างาม

สิ้นสุดคำพูด สีหน้าของพ่อบ้านกาวก็ปรากฏเป็นความสงสัย มองดูไท่เฟยด้วยความกังวลเล็กน้อย “หวงไท่เฟยตรัสถึงผู้ใดกันพ่ะย่ะค่ะ?”

นอกจากพวกเขา ยังมีผู้ใดที่รู้เรื่องนี้อีกหรือ?

หรือว่าจะเป็นน้องชายบุญธรรมที่เดินทางติดตามมาพร้อมองค์หญิงในตอนนั้น?

ไม่ถูก ไม่น่าจะเป็นคนผู้นั้น โม่หวิ่นหมิงเป็นเพียงแค่คนนอกเท่านั้น จะรู้เรื่องของแคว้นต้าเซี่ยได้ยังไง นอกซะจากว่าเขายังจะปิดบังตัวตนอื่นเอาไว้อยู่

หวงไท่เฟยเหลือบมองพ่อบ้านกาวแวบหนึ่ง เอ่ยปากขึ้นโดยไม่ได้รีบร้อนและไม่ได้ชักช้าว่า “ทูตกาวไม่ต้องร้อนใจ ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง”

แต่ยิ่งหวงไท่เฟยตรัสเช่นนี้ ในจิตใจของพ่อบ้านกาวและหยุนอี่ว์โหรวก็ยิ่งประหม่า

เมื่อไทเฮาเห็นว่าในที่สุดก็ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว จึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ก็มองดูหนานหว่านเยียนด้วยความรู้สึกซับซ้อน ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไร

“ไท่เฟย เช่นนั้น......” เหล่าทูตแคว้นต้าเซี่ยเห็นดังนั้น ก็ยังคิดอยากจะถามอีกสองสามคำ แต่กลับได้ยินเสียงอันเย็นชาของกู้โม่หานดังมาจากบัลลังก์มังกร “พอแล้ว เรื่องนี้จบลงตรงนี้ ทุกคนไม่ต้องถกเถียงกันต่อไปแล้ว”

“เสด็จแม่ คนที่ท่านต้องการหา ก็สั่งการได้เต็มที่ ตอนนี้เหล่าองครักษ์ของข้าก็รออยู่ด้านนอกแล้ว สามารถเรียกได้ตลอดเวลาพ่ะย่ะค่ะ”

“ดี” หวงไท่เฟยพยักหน้า เรียกเฉินกงกงมาพูดสองสามคำ แล้วทุกคนก็เห็นเฉินกงกงถอยออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้