บรรยากาศภายในห้องค่อยๆ สงบลง แต่ทั้งจวนเฉิงเซี่ยงกลับคึกคักกว่าปกติ เพราะหนานฉีซานบอกว่าจะจัดงานเลี้ยงครอบครัว ดังนั้นบ่าวไพร่ทุกเรือนจึงยุ่งงวดกันขึ้นมา
แม้แต่อี๋เหนียงสามและหนานอี่ว์ก็ถูกบ่าวไพร่เรียกออกมาด้วย บอกว่าหนานฉีซานเรียกพวกนางไปเตรียมตัวที่ห้องโถงด้านหน้า
สองแม่ลูกมึนๆ งงๆ ใบหน้ามีรอยฝ่ามือทั้งซ้ายและขวา ถูกคนนำทางไปห้องโถงด้านหน้า
อี๋เหนียงสามเพิ่งย่างเท้าข้ามธรณีประตู ครั้นเงยหน้าเห็นหนานฉีซาน ก็ทำเสียงอ่อนเสียงหวานหน้าแดงทันที “นายท่าน...”
ตอนนี้นางกลับเป็นปกติแล้ว ตอนเช้าไม่รู้ว่าอย่างไร อยู่ดีๆ กลับพูดความในใจออกมาได้ ล่วงเกินฮูหยินยังไม่ว่า ตอนนี้แม้แต่หนานอี่ว์ลูกสาวแท้ๆ ก็ชักสีหน้ากับนางเหมือนกัน
พอหนานฉีซานเห็นอี๋เหนียงสามที่สยายผม เสื้อผ้าหลุดลุ่ยแล้ว ก็พลันขมวดคิ้วแน่น
“ทำไมเจ้าดูไม่ได้อย่างนี้ ลงนาจับไก่มาหรือ หรือจงใจให้อ๋องอี้กับพระชายาอี้เห็นจวนเฉิงเซี่ยงเป็นตัวตลก”
อี๋เหนียงสามยืนอึ้งอยู่กับที่ คิดไม่ถึงว่าหนานฉีซานไม่เพียงแต่ไม่ปลอบใจนาง ยังจะเปิดปากด่านางอีก
หนานอี่ว์เห็นนางยืนอึ้ง จึงรีบอธิบาย “ไม่ใช่นะเจ้าคะ ท่านพ่อ...”
ยังไม่ทันพูดจบ หนานฉีซานก็ตัดบทเสียงหนัก “เจ้าอีกคน! ดูการแต่งตัวซอมซ่อของเจ้าสิ ไหนเลยยังมีท่าทางคุณหนูสามจวนเฉิงเซี่ยงอย่างกับผู้หญิงบ้า! พวกเจ้าสองแม่ลูกว่างงานมากก็เลยไปขุดผักป่าหรือ!”
สองแม่ลูกถูกด่าเป็นชุด น้อยใจไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดยเฉพาะอี๋เหนียงสาม ปกติหนานฉีซานตามใจนางที่สุด กระทั่งยังข่มฮูหยินได้นิดๆ บัดนี้กลับรังเกียจเดียดฉันท์
ฮูหยินยกยิ้ม มองสองแม่ลูกด้วยสายตาเย็นชาอย่างแนบเนียน เอ่ยกับหนานฉีซานด้วยความเคารพ “นายท่านไม่ทราบ ก่อนหน้านี้อี๋เหนียงสามกับอี่ว์เอ๋อร์ไม่รู้ว่ากินอะไรผิด อาละวาดที่ห้องโถงด้านหน้ายกใหญ่ พูดจาลบหลู่ข้าไม่หยุด ทำพระชายาตกใจ ข้าถึงได้ให้พวกนางสำนึกผิดอยู่ในห้องครู่หนึ่งเจ้าค่ะ”
อี๋เหนียงสามเห็นท่าทางไม่ดีจึงรีบแก้ต่าง “ไม่ใช่นะเจ้าคะ เมื่อกี้ไม่รู้อย่างไร ข้า...”
ฮูหยินเอ่ยแทรก “อีกอย่างนะเจ้าคะ พวกนางสองแม่ลูกไม่เพียงแต่มีความแค้นกับข้า สองแม่ลูกระหว่างกันยังมีรอยร้าว ท่านไม่เห็น พวกนางลงไม้ลงมือกันอย่างหนักในห้องโถง ขายหน้าจริงๆ ต่อไปข้าต้องควบคุมเคร่งครัดมากกว่าเดิมแน่นอนเจ้าค่ะ”
เมื่อกล่าวออกมาเช่นนี้ สีหน้าหนานอี่ว์ก็ดูแย่อย่างยิ่ง ราวกับกินอุจจาระ นางกัดฟัน ไม่กล้ามองหนานฉีซาน
หนานฉีซานรักหน้าตาที่สุด คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ เขามองสองแม่ลูกด้วยสายตาเย็นชา “คืนนี้พวกเจ้าสงบเสงี่ยมหน่อย ถ้ากล้าก่อเรื่องอีก ข้าจะลงโทษพวกเจ้าโบยห้าสิบไม้ แล้วโยนออกจวนเฉิงเซี่ยงไปเสีย!”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็สะบัดแขนเสื้อจากไปด้วยความโกรธ
ยามนี้หนานอี่ว์ใจหายวาบไปกว่าครึ่ง รู้สึกว่าลำคอมีอะไรติดอยู่ หายใจไม่ออก
พอเห็นหนานฉีซานเดินไปไกลแล้ว จู่ๆ อี๋เหนียงสามก็ร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล ลากแขนเสื้อของฮูหยิน น้ำเสียงต้อยต่ำ
“ฮูหยิน ที่ข้าพูดเมื่อก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความจริงเจ้าค่ะ! ต้องมีปัญหาอะไรแน่ ข้า ข้าถึงได้พูดคำพูดที่ผิดต่อมโนธรรมขนาดนั้น! ท่านต้องเชื่อข้านะเจ้าคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้