ทันใดนั้นน่าวน่าวก็วิ่งช้าลงเล็กน้อยและตกไปอยู่ใน ”กรงเล็บปีศาจ” ของเกี๊ยวน้อย
เขาพูดกับโม่เหยียนทันทีด้วยความตกใจว่า “คุณชายโม่เหยียน! ไม่ต้องห่วงข้า! พวกท่านรีบไป!”
เขาเป็นนักแสดงตัวน้อย ทำให้ทุกคนหัวเราะ เกี๊ยวน้อยก็เคาะหน้าผากของเขาอย่างอดไม่ได้ "น่าวน่าว เอาล่ะ หยุดก่อกวนไปทั่วได้แล้ว"
หลังจากนั้น นางก็ลูบหน้าน้องชายของนาง "ถ้าเจ้าคิดว่าโม่เหยียนเป็นคนดีก็ไม่เป็นไร แต่หลังจากนี้ถ้าเจ้ากล้าพูดเรื่องไร้สาระอีก ระวังพี่สาวจะตีเจ้าจริงๆ!"
น่าวน่าวกระพริบตาและจ้องมองเกี๊ยวน้อยอย่างไร้เดียงสา "ข้าไม่ได้พูดเหลวไหลนะ พี่สาวเมื่อครู่นั่นคือ..."
เมื่อเขาเห็นว่าสีหน้าของเกี๊ยวน้อยเปลี่ยนไป เขาก็เปลี่ยนคำพูดทันที "พี่สาวพูดถูก เมื่อครู่ข้ามองผิดไป!"
เกี๊ยวน้อยพอใจกับสิ่งนี้ “เช่นนี้ถูกต้องแล้ว”
ห่างออกไปไม่ไกล หนานหว่านเยียน ยืนอยู่ข้างๆ กับหม้อน้ำแกงใสที่เตรียมไว้นานแล้ว
นางมองดูอยู่ตรงนี้สักพัก ในใจของนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นเด็กๆ ทั้งสี่คนเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน
โม่เหยียนเกลี้ยกล่อมเด็กได้ค่อนข้างดี นางก็รู้สึกประหลาดใจ อันอันกับหน่าวหน่วก็ช่างเถอะ แม้แต่คนที่คิดว่าปากอย่างใจอย่างอย่างเกี๊ยวน้อย นางก็สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายังชอบโม่เหยียนอยู่บ้าง เพียงแต่เด็กๆ ปากไม่ตรงกับใจและเอาใจยากก็เท่านั้น
แต่หนานหนานหว่านเยียนจําได้ว่าเมื่อสัมผัสใบหน้าของโม่เหยียนในตอนเช้า ไม่มีความผิดปกติใด ๆ ไม่มีหน้ากากหนังมนุษย์ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเป็นกู้โม่หานได้ แต่ว่าทําไมเด็ก ๆ ถึงชอบใกล้ชิดกับโม่เหยียนโดยไม่มีเหตุผลล่ะ?
หนานหยานหยานคิดไม่ตก นางจึงไม่คิดต่อ ก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มราวกับดอกไม้ "ไม่ต้องเล่นแล้ว! หม้อไฟพร้อมแล้ว! จะเริ่มทานข้าวแล้ว!"
ทันทีที่พวกเขาได้ยินเสียงของหนานหว่านเยียน เด็กๆ ทั้งสี่คนก็หยุดเล่นทันทีและวิ่งไปหานาง
ซาลาเปาน้อยเรียกด้วยเสียงนุ่มนวลและไพเราะว่า "ท่านแม่"
เกี๊ยวน้อยวิ่งมาตรงหน้านางอย่างมีความสุข: "ท่านแม่!"
ขาสั้นๆ ของน่าวน่าววิ่งมาได้ช้ามาก “หอมมาก หอมอย่างยิ่ง ข้าอยากกินแล้ว!”
อันอันกลัวว่าเขาจะล้มถ้าเขาเดินเร็วเกินไป นางจึงรีบคว้าเขาไว้ "น้องชาย ไม่รีบ ระวัง ร้อนนะ ท่านแม่"
บุรุษสองคนเดินไปหาหนานหว่านเหยียนก่อนเด็กๆ ทั้งสี่คนหนึ่งก้าว และเอื้อมมือไปช่วยหนานหว่านเหยียนรับหม้อร้อน ๆ ในมือพร้อมกัน
หนานหว่านเยียน ไม่ได้ห้ามปราม นางวางหม้อน้ำแกงไว้บนโต๊ะ
เย่เชียนเฟิงและโม่เหยียนมองหน้ากัน สายตาของพวกเขาเย็นชามาก จากนั้นทั้งสองก็จ้องมองตําแหน่งข้างๆ หนานหว่านเยียน
เมื่อเย่เชียนเฟิงและโม่เหยียนกําลังจะพูด ก็เห็นน่าวน่าวและเกี๊ยวน้อย แยกกันไปนั่งด้านซ้ายและขวาของหนานหว่านเยียนอย่างคุ้นเคยอย่างและเป็นธรรมชาติ
“ข้างอยากนั่งใกล้ท่านแม่”
หนานหว่านเยียนยิ้มเล็กน้อย “ย่อมได้”
ซาลาเปาน้อยและอันอันนั่งถัดจากเกี๊ยวน้อยและน่าวน่าวอย่างเชื่อฟังเพื่อรอที่จะเริ่มทานอาหาร
โม่เหยียนก็ไม่ได้ดิ้นรนเช่นกัน เขานั่งลงข้างอันอัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...