ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 896

คนกลุ่มหนึ่งเริ่มเดินทางกลับพระราชวังแล้ว  การเดินทางไปเที่ยวหนึ่งและกลับเที่ยวหนึ่งอย่างซ้ำไปซ้ำมา  ทำให้เด็กน้อยทั้งสี่ล้วนรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอยู่บ้างแล้ว  จึงล้มตัวลงนอนหลับอยู่บนรถม้าแล้ว

ตลอดเวลาหนานหว่านเยียนเงียบขรึมมิได้พูดจา  เอาแต่จ้องมองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถ  และโม่เหยียนเฝ้ามองดูนาง  อารมณ์ในดวงตาเขาซับซ้อนสับสนและคลุมเครือ

หลังจากกลับมาถึงในพระราชวัง  พวกเด็กน้อยทั้งสี่ต่างล้วนพากันหลับสนิทแล้ว  หนานหว่านเยียนจึงให้เฟิงยางอุ้มพวกเขากลับเข้าไปพักผ่อนภายในตำหนักจานกุ้ย

เฟิงยางรับคำสั่ง  “เพคะ องค์หญิง”

หลังจากนั้น  หนานหว่านเยียนก็หันมามองทางโม่เหยียนพูดว่า  “วันนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บแล้ว  กลับไปพักผ่อนให้ดีๆ เถอะ  ข้ายังมีบัญชีส่วนหนึ่งที่ต้องไปสะสางเล็กน้อย”

“องค์หญิงกำลังจะไปสั่งสอน ‘มือมืดที่อยู่เบื้องหลัง’ ของวันนี้หรือขอรับ?”  โม่เหยียนขมวดคิ้วขึ้น  ในดวงตาสีดำเข้มเปล่งประกายเย็นชาน่าตระหนกขึ้นวูบ  “หากเป็นเช่นนั้นละก็  ข้าน้อยจำเป็นต้องติดตามไปด้วย  อาการบาดเจ็บเป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น  ความปลอดภัยขององค์หญิงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งนัก”

หยุนเหิงที่อยู่ด้านข้างรีบเร่งพูดสนับสนุนเห็นพ้องขึ้นว่า  “ใช่แล้วขอรับองค์หญิง ไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน  ข้าและคุณชายโม่เหยียนล้วนจะต้องติดตามไป  สำหรับคนที่ฝึกปรือวิทยายุทธ์แล้ว  อาการบาดเจ็บเหล่านี้มิสามารถนับเป็นอะไรได้  นอกจากนี้คุณชายโม่เหยียนพลังความสามารถแข็งแกร่ง  บางทีอาจสามารถช่วยท่านได้ขอรับ”

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าบาดเจ็บอยู่  โม่เหยียนพูดว่าอะไรก็จะต้องฟังตามนั้น!  เขาต่างหากจึงเป็นเจ้านายของตนน่ะ!

เผชิญกับการเรียกร้องต้องการที่แข็งขันของทั้งสอง  หนานหว่านเยียนก็ไม่ปฏิเสธอีกต่อไปเช่นกัน

“ประเสริฐ  นำทหารชั้นยอดหน่วยหนึ่งไปด้วย  รุดไปปิดล้อมจวนของลู่เจียวเจียวเดี๋ยวนี้เลย!”

เมื่อได้ยินคำพูด  สีหน้าของหยุนเหิงแปรเปลี่ยนกะทันกัน!

กลับเป็นลู่เจียวเจียวหรอกหรือ?!

ทว่าเขาน่าจะนึกออกตั้งแต่แรกแล้ว  ภายในแคว้นต้าเซี่ยแห่งนี้  คนที่ผูกใจเจ็บแค้นต่อหนานหว่านเยียนมากถึงขนาดนี้และหยิ่งยโสโอหังลำพองตนนัก  นอกจากลู่เจียวเจียวแล้ว  เกรงว่าจะมิสามารถหาคนที่สองพบแล้ว!

เพียงแต่นางกลับหาญกล้าปองร้ายทายาทของประมุขเจ้าครองแคว้นอย่างเปิดเผย  เกรงว่านั่นไยมิใช่รำคาญการชีวิตอยู่แล้วหรอกหรือ?!

“ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้!”

โม่เหยียนหรี่ตาของเขาขึ้น  ส่วนลึกภายในดวงตาเปล่งประกายสำนึกฆ่าฟันขึ้นวูบหนึ่ง  ติดตามหนานหว่านเยียนมุ่งหน้าไปทางประตูตำหนักของหงเหมิง

หลังจากนั้นครู่เดียว  ณ ภายในจวนขององค์หญิง

ลู่เจียวเจียวมองดูลานเรือนซึ่งรายล้อมด้วยผู้คนที่หนานหว่านเยียนนำมา  ถูกปิดล้อมอย่างหนาแน่นจนน้ำมิอาจสาดเล็ดลอดผ่าน  และยังมีคนจำนวนมากกำลังรื้อค้นลานเรือนของนาง  ตลอดจนคนของนางก็ยังถูกควบคุมตัวขึ้นมาแล้ว  พลันนางโกรธเคืองจนแทบคลั่งในทันใด  ยืนกระทืบเท้าอย่างดุดันอยู่ในที่เดิม

“หมิงหวง!  เจ้ากำลังทำะไร?!  เจ้ากลับหาญกล้าปิดล้อมลานเรือนของข้า  เจ้าช่างขวัญกล้าบังอาจนัก!!”

หนานหว่านเยียนยังมิทันได้เอ่ยปาก  หยุนเหิงก็ถามอย่างขุ่นเคืองมิพึงพอใจขึ้นว่า  “องค์หญิงหงเหมิง  ผู้ใดช่างขวัญกล้าบังอาจนักกันแน่  วันนี้เจ้าได้กระทำเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง  หรือว่ายังมิรู้อยู่แก่ใจอีกหรือ?!”

“บัดนี้องค์หญิงหมิงหวงรุดมาหาเจ้าเป็นการส่วนตัว  และมิได้นำเรื่องนี้ขึ้นกราบทูลต่อเบื้องสูง  ถือว่าจิตใจช่างกว้างขวางอย่างยิ่งแล้ว!”

หนานหว่านเยียนเท้าแขนสองมือกอดอก  สายตาเย็นชายิ่งนัก  สีหน้าของโม่เหยียนเย็นชาเขียวคล้ำเหี้ยมโหดทะมึน  เขายืนอยู่ในที่นั้นไม่พูดจาแม้แต่คำเดียว  เพียงแค่เหลือบตามองไปทางลู่เจียวเจียวครั้งเดียว  ก็เปี่ยมบารมีน่าเกรงขามครั่นคร้ามมากเพียงพอแล้ว

ลู่เจียวเจียวตระหนกตกใจวูบ  ดูเหมือนจะนึกถึงสิ่งใดขึ้นมาได้  แต่นางกลับขมวดคิ้วขึ้นอย่างดุดัน  เสแสร้งคล้ายดั่งมิเข้าใจสิ่งที่หยุนเหิงพูดถามกลับว่า  “อันใดเรียกว่าข้าได้ทำอะไรไว้แล้วบ้าง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้