ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 1071

เทียนชิงที่เดินอยู่ข้างรถม้าเห็นดังนั้น จึงรีบเดินไปข้างหน้า

“หลีกทางด้วย หลีกทางด้วย ไปมุงอยู่ตรงนั้นทำไม? นี่? ใต้เท้าจ้าว?”

ซูจื่ออวี๋เปิดม่านรถม้า พลันมองเห็นจ้าวจ่างซิ่งหัวหน้าสำนักจิงจ้าว

จ้าวจ่างซิ่งมาทำอะไรที่ประตูจวนอ๋องฉิน?

เมื่อจ้าวจ่างซิ่งเห็นเทียนชิง เขารีบเอ่ยปาก

“ไอหยา องครักษ์เทียนชิง เกิดเรื่องแล้ว เจ้ารีบมาดูสิ”

จ้าวจ่างซิ่งแยกชาวบ้านออกเป็นสองฝั่ง แล้วเดินนำเทียนชิงเข้าไปท่ามกลางฝูงชน ส่วนซูจื่ออวี๋มองเห็นเหตุการณ์ด้านในผ่านถนนเส้นนี้

หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นซูจื่ออวี๋ชะงักไปทันที

จวินมู่เหนียนเห็นสีหน้าซูจื่ออวี๋ไม่ดี จึงรีบเอ่ยถาม

“เป็นอะไรไป?”

ซูจื่ออวี๋เอ่ยขึ้น

“เป็นศพเปลือยอีกแล้ว! ท่านอ๋องข้าจะลงไปดูสักหน่อย”

เมื่อซูจื่ออวี๋พูดจบ พลันลงจากรถม้าทันที แล้วรีบเดินเข้าไปท่ามกลางฝูงชน

ตอนที่ซูจื่ออวี๋มองเห็นสถานการณ์ชัดเจน นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วอดอุทานออกมาไม่ได้

“นี่มันเป่าเจวียนไม่ใช่หรือ?”

จ้าวจ่างซิ่งหันมองซูจื่ออวี๋ แล้วรีบเอ่ยถาม

“พระชายารู้จักนางหรือ?”

ซูจื่ออวี๋พยักหน้า

“นางเป็นสาวใช้ของอนุหยาง ซึ่งเป็นอนุของพ่อข้า ข้าเคยเห็นนางสองสามครั้ง”

เป่าเจวียนในขณะนี้ นอนเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่กลางพื้นหิมะ ผิวหนังทั่วร่างกลายเป็นสีขาวเทาผิดปกติ มีหิมะโปรยปรายอยู่บนร่างของนางเป็นชั้นบางๆ เมื่อมองจากที่ไกลๆ คล้ายนางเป็นตุ๊กตาหิมะ

ฝูงชนที่มามุงดูต่างพากันสงสัย ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด เพียงเพราะศพนี้ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า รูปร่างของหญิงสาวมีทรวดทรงองค์เอว แม้จะตายไปแล้ว กลับมีสายตาไม่หวังดีมองมามากมาย

ซูจื่ออวี๋เห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น

“ใต้เท้าจ้าว ที่นี่เป็นที่เกิดเหตุ ท่านรีบให้คนไปกันฝูงชนออกไป อย่าให้ใครทำลายสภาพแวดล้อมโดยรอบ คนมากมายเช่นนี้ อาจมีใครทำลายเบาะแสสำคัญได้”

ร่างของจ้าวจ่างซิ่งเย็นเยือก แล้วรีบเอ่ยขึ้น

“ถูกต้อง พวกชาวบ้านออกไปเดี๋ยวนี้ เจ้าหน้าที่ ล้อมพื้นที่ภายในรัศมีสิบก้าวเอาไว้”

ดูเหมือนเวลาที่ศพปรากฏขึ้นคงไม่นานนัก คงจะเกิดขึ้นก่อนที่หิมะจะหยุดเพียงหนึ่งชั่วยามเศษ หรือพูดอีกอย่างคือตอนที่องครักษ์ในจวนไปรับเงินที่กรมพระคลัง

แต่น่าเสียดายที่เส้นทางจากหอแปดสมบัติถึงกรมพระคลังไม่ผ่านหน้าจวนอ๋องฉิน ไม่อย่างนั้นคงมีคนเห็นเหตุการณ์บ้าง

ระหว่างที่ซูจื่ออวี๋กับพ่อบ้านเฟิงพูดคุยกัน ผู้ชันสูตรศพของสำนักจิงจ้าวได้ทำการชันสูตรศพเบื้องต้นแล้ว จากนั้นรายงานว่า

“เรียนใต้เท้า ศพนี้เหมือนกับศพหญิงสาวอีกสองคนที่พบในวันที่หนึ่งและวันที่เจ็ดทั้งหมดขอรับ สาเหตุการตายเกิดจากถูกดูดเลือดออกจากร่างจนหมด แต่บนร่างกายกลับไม่มีบาดแผลอื่น ร่างกายไม่มีร่องรอยถูกย่ำยี เพียงแค่เปลือยกายเท่านั้น”

เมื่อฝูงชนได้ยินคำพูดนี้ มีคนอุทานเสียงต่ำทันที

“ให้ตายสิ คนที่สามแล้วหรือนี่ หรือในเมืองหลวงจะมีปีศาจดูดเลือด?”

ชาวบ้านคนแรก

“ต้องเป็นปีศาจแน่นอน พวกเจ้าลองคิดดูสิ นอกจากปีศาจ ใครยังกล้าฆ่าคนหน้าจวนอ๋องฉินอีก”

ชาวบ้านคนที่สอง

“หรือจะเป็นวิชามารดูดเลือด เพื่อคงความอ่อนเยาว์?”

ชาวบ้านคนที่สาม

“แม่นางเหล่านั้นไม่ได้ถูกย่ำยี ข้าคิดว่า ปีศาจตนนี้ต้องเป็นหญิงสาวแน่นอน ไม่ใช่สิ เป็นมารหญิง”