ซูจื่ออวี๋หันมองเครื่องเขียนทั้งสี่ที่เตรียมไว้บนโต๊ะ แล้วหันไปเอ่ยกับหันหรูเฟิง
“รบกวนเจ้าช่วยจดบันทึกในสิ่งที่ข้าพูดด้วย”
หันหรูเฟิงพยักหน้า แล้วรีบเดินไปข้างโต๊ะ เพื่อเตรียมจดบันทึก
ซูจื่ออวี๋หันมองศพ แล้วเริ่มเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง
“ผู้ตายชื่อเป่าเจวียน เพศหญิง อายุสิบเจ็ดปี ส่วนสูงห้าฉื่อหนึ่งนิ้ว ร่างกายค่อนข้างผอม ภายนอกไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้ตายเพราะบาดแผลภายนอก ไม่มีร่องรอยถูกพิษ ไม่ได้ตายเพราะถูกพิษ ในปอดไม่มีน้ำ ดวงตาไม่ปูดโปน ไม่ได้ตายเพราะขาดอากาศหายใจ ผิวกายเป็นสีขาวเทาทั่วร่าง สันนิษฐานขั้นต้นว่าตายเพราะเสียเลือดมากเกินไป”
จ้าวจ่างซิ่งสงสัย
“พระชายา เรื่องเหล่านี้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเคยกล่าวไว้แล้ว”
ซูจื่ออวี๋หันมองจ้าวจ่างซิ่งอย่างไม่พอใจ ทำให้เขารีบหุบปากทันที เพราะรู้ตัวว่ารบกวนซูจื่ออวี๋
ซูจื่ออวี๋ไม่ได้ตำหนิเขา เพียงแค่พูดต่อไป
“เพราะหลังจากคนตายไปแล้ว ร่างกายจะเริ่มสูญเสียการตอบสนอง ผิวหนังภายนอกจะสูญเสียความยืดหยุ่น เลือดไม่ไหลเวียนอีกต่อไป ดังนั้นบาดแผลก่อนตายบางจุด ไม่ได้แสดงออกทางผิวกายภายนอก ตอนนี้ข้าจะใช้วิธีโบราณทดสอบดู ว่าก่อนตายนางไม่ได้รับบาดเจ็บจริงหรือไม่”
เมื่อซูจื่ออวี๋พูดจบ นางนำเนื้อบ๊วยสีขาวที่บดละเอียดทาลงไปบนผิวศพ หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยชา จึงเช็ดเนื้อบ๊วยขาวออก แล้วนำกากเหล้ากับน้ำส้มสายชูทาลงไปบนศพ
เมื่อกากเหล้าและน้ำส้มสายชูบนผิวศพเริ่มแห้ง สิ่งที่เห็นทำให้ทุกคนไม่อยากจะเชื่อ
ตรงหน้าอกของศพ มีรอยฝ่ามือขนาดใหญ่สองรอย นอกจากนี้ ช่วงท้องและเอวกับตรงสะโพกและต้นขา ล้วนมีรอยมือที่ผสมปนเปกัน
โม่ซุนเอ่ยขึ้นอย่างตะลึง
“แม้นางจะไม่ถูกย่ำยี แต่นางถูกลวนลามหรือ?”
จ้าวจ่างซิ่งเองก็อุทานด้วยความตกใจ
“เช่นนั้นคนร้ายน่าจะเป็นชายหรือ? คำเล่าลือของชาวบ้านเชื่อไม่ได้เลยจริงๆ”
ซูจื่ออวี๋หันมองจ้าวจ่างซิ่ง แล้วเอ่ยขึ้น
“ใครว่าต้องเป็นชาย หญิงสาวลวนลามหญิงสาวด้วยกันเองไม่ได้หรือ?”
มุมปากจ้าวจ่างซิ่งกระตุก แล้วเอ่ยขึ้น
หันหรูเฟิงกังวลมาก เขาแอบคิดในใจ
“หรือเรื่องนกเขาไม่ขันของศิษย์พี่รองแพร่งพรายออกไปแล้ว จากนั้นมีคนนำไปใส่สีตีไข่ แล้วต้องการใส่ร้ายป้ายสี?”
เขาไม่เชื่อว่าจวินมู่เหนียนจะฆ่าใคร อีกอย่างตอนที่เกิดคดีทั้งสองก่อนหน้า จวินมู่เหนียนไม่อยู่เมืองหลวง ย่อมไม่ใช่เขาแน่นอน แต่เขากลัวว่าจะมีคนใส่ร้ายนี่สิ!
เมื่อคิดได้อย่างนี้หันหรูเฟิงรีบเอ่ยขึ้น
“ใช่ว่าจะเป็นเรื่องนกเขาไม่ขัน บางที...บางทีอาจจะมีความเจ็บแค้นบางอย่างต่อหญิงสาวก็ได้ เพียงแค่อยากเหยียดหยามนาง”
ซูจื่ออวี๋พยักหน้า
“ล้วนมีความเป็นไปได้ เจ้าจดบันทึกลงไปด้วย”
เมื่อซูจื่ออวี๋พูดจบ นางชูมีดผ่าตัดขึ้น แล้วกรีดลงไปตรงหน้าอกของศพเป็นรูปตัววายอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นศพตรงหน้าถูกเปิดหน้าอก ขนหัวของจ้าวจ่างซิ่งแทบจะลุกขึ้นมา
จ้าวจ่างซิ่งรีบปิดปาก แล้วกลืนเสียงอุทานของตัวเองกลับไป

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...