ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 101

เมื่อได้ยินคำพูดของซูยี่ ความโกรธก็พุ่งทะยานขึ้นบนใบหน้าของหยุนชิงกุยในทันที

“ซูยี่ เจ้าถือดีเรียกชื่อขององค์ชายอย่างข้า ถือเป็นการดูหมิ่น ทั้งยังเป็นโทษหนัก! วันนี้ ข้าต้องข้าเจ้าให้ได้!”

ซูยี่หัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “เฮอะ หยุนชิงกุย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าพิการมาหลายปี แต่กลับสามารถมีชีวิตอย่างสงบสุขมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร?”

หยุนชิงกุยมองตาซูยี่ เผลอนึกถึงฉู่เชียนหลีขึ้นมา ในใจก็รู้สึกหนาวสั่นโดยไม่รู้ตัว ความตื่นตระหนกยังคงพันรอบอยู่ในใจ

“ราชวงศ์ไม่อยากจะถือสาเจ้า...”

“ไม่ใช่ เป็นเพราะพวกเจ้าไม่กล้าฆ่าข้า!”

สายตาซูยี่เย็นชาและมั่นคง ยิ่งทำให้คำพูดที่ออกมาจากปากเขาก้องกังวานและทรงพลัง

“ซูยี่ตาย ตระกูลซูล่ม เทพสงครามแห่งตงเสวียนจะพังทลายลงอย่างกระทันหัน! ด้านนอก ทั้งซีซวนและเป่ยเหลียงคอยจ้องอยู่ราวกับสัตว์ป่า คนป่ายังคงพยายามสอดแนม เจ้าต้องคิดให้ดี ไม่ใช่ตระกูลซูของข้าต้องการตงเสวียน แต่เป็นตงเสวียนที่ต้องการพวกเราตระกูลซู!”

หยุนชิงกุยก้าวถอยหลังอย่างกะทันหัน หลับตาลงและเปิดเผยเจตนาฆ่าของเขา

“ซูยี่ เจ้าก็เป็นเพียงแค่คนพิการคนหนึ่งเท่านั้น อย่าสำคัญตัวผิดไป! วันนี้ ข้าจะต้องช่วยตงเสวียนกำจัดเจ้าปีศาจ ทำลายล้างตระกูลซูให้สิ้น! ทหาร ลงมือ จับซูยี่ไว้!”

ซูยี่ขมวดคิ้ว หมุนเวียนพลังภายในทั่วทั้งร่างกาย เตรียมพร้อมลุยออกไปเต็มที่

นาทีต่อมา ร่างนกนักล่ารูปร่างใหญ่โตก็โฉบลงมาจากฟากฟ้า

“หวี้!”

วิหคหิมะ เจ้าขาวปรากฏตัว!

องค์ชายสามที่เตรียมตัวมาก่อนหน้าแล้ว ก็สั่งให้พลทหารยิงธนูขึ้นไปในทันที

“ยิงธนู ฆ่าไอ้สัตว์ประหลาดนั่นเสีย!”

“ขอรับ”

ธนูนับพันดอกถูกยิงขึ้นฟ้า วิหคหิมะเจ้าขาวถูกยับยั้ง ไม่สามารถร่อนลงบนหน้าพื้นดินได้

“ก๋า!”

เผิงเกิ๋นและโต้เกิ๋นล้อมรอบซูยี่ ลำคอยืดยาวออกไป หัวพิงติดกับใบหูของซูยี่ลำตัวสั่นเทา แต่กลับยังคงอดทนอยู่ไม่หนีไปไหน

“ฮี้!”

โม่เฟิงส่งเสียงร้องอันหนักแน่นพร้อมเดินขึ้นหน้า เอาลำตัวที่แข็งแกร่งบังตัวซูยี่ไว้ด้านหลัง

หยุนชิงกุยเมื่อเห็นเบ้าตาที่ว่างเปล่าของโม่เฟิง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าดวงตนของตนเองเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว ในคืนวันนั้นที่ถูกฉู่เชียนหลีแสดงภาพหลอนก็ลอยกลับเข้ามาในหัว ทำให้เขาตัวสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บ

นี่เป็นความอัปยศที่สุดในชีวิตของเขา เพียงแค่ต้องฆ่าโม่เฟิงเจ้าสัตว์เดียรัจฉานตัวนี้ให้สิ้น เขาจึงจะสามารถออกมาจากเงาดำมืดนี้ได้!

“ฆ่าสัตว์ร้ายตัวนั้น!”

“ฆ่า!”

เหล่าองครักษ์ล้อมกันเข้ามา รังสีอาฆาตเข้มขนั้นเรื่อย ๆ

ซูยี่เตรียมตัวพร้อมที่จะฆ่าอย่างสุดชีวิตอยู่แล้ว กำลังลุกขึ้นด้วยความโกรธ แต่คาดไม่ถึงว่าในนาทีต่อมา เถาวัลย์เขียวขจีเส้นแล้วเส้นเล่ากลับผุดขึ้นมา!

เถาวัลย์เหล่านี้เลื้อยยาวต้านลม ไม่เพียงชั่วพริบตา ก็เต็มไปด้วยศักยภาพมหาศาล

วินาทีต่อมา บนเถาวัลย์ที่เติบใหญ่ก็มีดอกสีชมพูบานสะพรั่ง ดอกไม้นั้นปล่อยกลิ่นหอมอ่อน ๆ กระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ

“ปุก! ปุก!”

ทหารที่องค์ชายสามพามาด้วยทั้งหมดล้มลงกับพื้นทันที!

ซูยี่ก็รู้สึกว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรง พลังภายในก็ไม่สามารถเรียกมันให้ออกมาได้

โม่เฟิงและปักษีขาวอีกสองตัวสลบลงไปกับพื้น

“เจ้า... เจ้าชมพู?”

เถาวัลย์ราวกับว่าสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกตื่นตะหนกของซูยี่ ดึงกิ่งไม้ที่หนาที่สุดกิ่งหนึ่งออกมา ค่อย ๆ ยื่นไปข้างหน้าและแตะไปที่รถเข็นของเขาเบา ๆ จากนั้นจึงบีบรัดเหล่าทหารที่องค์ชายสามพามาด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ ลากพวกเขาลงไปยังรากในดินพร้อมกับฝังกลบพวกเขา

ซูยี่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ในหัวก็พลันฉายภาพที่เขากับเซินเป่าเคยพูดคุยกัน

เขา: “เจ้าเถาวัลย์เขียวงดงามยิ่งนัก”

เซินเป่า: “ท่านปู่ใหญ่ มันชื่อว่าเจ้าชมพู มันเชื่อฟังมาก ๆ เลย”

เชื่อฟังมาก ๆ เลย...

ในขณะที่คิด ทันใดนั้นเขาก็เห็นเถาวัลย์หรือเจ้าชมพูกำลังขุดหลุมฝังคนอยู่

ซูยี่รีบเอ่ยปากขึ้นทันที: “เจ้าชมพู เจ้าฝังผิดทิศแล้ว เวลาฝังคนจะเอาหัวทิ่มดิน ขาชี้ฟ้าไม่ได้!”

การเคลื่อนไหวของเถาวัลย์ชะงักไปเล็กน้อย ลากคนออกมากลับทิศทาง จากนั้นก็จับปักลงไปในดิน

ซูยี่รู้สึกราวกับว่าเขาเข้าใจสิ่งที่มันกำลังถาม จึงพยักหน้าเบา ๆ

“ใช่ แบบนี้แหละดีมาก”

เจ้าชมพูเคลื่อนไหวไปมาด้วยความร่าเริง อีกทั้งงานปักคนลงดินก็ยังเร็วขึ้นอีกด้วย

และในตอนนั้นเอง ซูยี่ก็ได้เห็นร่างหนึ่งที่คุ้นตา ถูกเจ้าชมพูลากขาดึงลงไปในดิน

“เจ้าชมพู หยุดก่อน คนนั้นคือท่านชายเซียว?”

เจ้าชมพูไม่เข้าใจคำพูดของซูยี่ นึกไปว่าเขาชอบคนคนนี้ จึงได้ขุดหลุมไว้บริเวณใกล้ ๆ กับซูยี่ ลากเซียวจวินยี่ที่รีบเข้าเมืองมาก่อนหน้านี้เพื่อคอยให้การช่วยเหลือนั้นฝังกลบอยู่ใกล้ ๆ เท้าเขา

เซียวจวินยี่เคยได้กินไก่ขนม่วง พลังในการต่อต้านก็แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย จึงยังไม่หมดสติไปในตอนนี้

“ซู... ใต้เท้าซู...”

“ท่านชายเซียว ขออภัยด้วย”

“ข้าไม่เป็นไร ต้องขอบคุณใต้เท้าเป็นอย่างมากที่ช่วยเตือน ข้าไม่ได้ถูกเอาหัวปักลงดินซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากแล้ว”

เกิดเป็นมนุษย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรู้จักพอ ฮือ ๆ ๆ ...

ฉู่เชียนหลีพาคนเดินเข้ามา ก็เห็นภาพหยุนชิงกุยที่พยายามหลบหนีอย่างพอดิบพอดี ทันใดนั้นดวงตาของนางก็ชะงักไป หยิบแส้ยาวออกมา และฟาดลงไปที่เขาโดยตรง

“ป้าบ!”

หยุนชิงกุยรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นด้านหลัง จากนั้นก็ล้มลงไปที่พื้นตามแรงนั้น และกู่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“อูย!”

ฉู่เชียนหลีรีบสาวเท้าเดินไปด้านหน้า เท้าข้างหนึ่งเหยียบไปบนหลังของเขา พลางเอ่ยถามเสียงเย็น

“หยุนชิงกุย? ท่านลุงของข้าล่ะ?”

หยุนชิงกุยยังคงตกอยู่ในความตื่นตะหนก ภาพตรงหน้าเต็มไปด้วยเถาวัลย์สีเขียวที่แผ่กระจายเคลื่อนไหวราวกับกำลังเต้นรำ

“มารสาว... มารสาว!”

ฉู่เชียนหลีใช้แส้ในมือม้วนตัวเขาเอาไว้ รีบสาวเท้าเขาไปในตระกูลซูพร้อมกับลากเขาไปด้วย เมื่อเห็นซูยี่ที่นั่งอยู่อย่างสงบไม่เคลื่อนไหว จึงได้ถอนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“ท่านลุง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

นางเดินเข้าไปในตำหนักอย่างรวดเร็ว ด้านหลังยังมีร่องรอยของหยุนชิงกุยที่ถูกลากเป็นทางยาว

นางเพิ่งเดินเข้าไปได้ไม่ถึงสองก้าว ก็เห็นเหล่าองครักษ์ถูกฝังเอาไว้ในนาโสมที่โผล่พ้นขึ้นมาก็มีแค่ศีรษะเท่านั้น

อืม?

นี่มัน...

ภาพตรงหน้านี่มันค่อนข้าง.... ช่างน่าตะลึงเสียจริง!

ซูยี่มองฉู่เชียนหลีอย่างละเอียด พร้อมพูดด้วยความตื่นเต้น “เชียนหลี เจ้าไม่เป็นอะไร? ดีจริง ๆ!”

“ท่านลุงวางใจได้ ข้าและท่านผู้พี่ต่างก็ปลอดภัยดี”

“เช่นนั้นก็ดี”

ซูยี่รีบร้อนหันไปมองเซียวจวินยี่ที่อยู่บนพื้น

“เชียนหลี เจ้ารีบมาช่วย ท่านชายเซียวถูกเจ้าชมพูทำร้าย”

“เซินเป่า รีบมา!”

เจ้าชมพู ราชาปีศาจแห่งความโกลาหล ก่อนหน้านี้ให้มันแกล้งทำตัวเป็นต้นไม้ธรรมดา น่าจะอดทนเสียจนทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ถึงได้สำแดงฤทธิ์เดชอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้!

เซินเป่ารีบวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเจ้าชมพูก็เอามือเท้าเอวด้วยความโมโห

“เจ้าชมพู! เจ้าเคยรับปากข้าว่าอย่างไร?”

เถาวัลย์สีเขียวชะงักไปอย่างกะทันหัน แล้วรีบหดลงไปกับพื้นอย่างรวดเร็ว มีเพียงส่วนเล็ก ๆ ที่โผล่บนพื้นดินเอนไปซ้ายทีขวาที ราวกับไม่รู้เดียงสา

เซินเป่ารีบสาวเท้าเข้ามาตรงหน้าเซียวจวินยี่ หมอบลงและโอบรอบศีรษะของเขาไว้

“ท่านอาเซียว ไม่ต้องกลัวไป ข้าจะช่วยท่านเดียวนี้”

เซียวจวินยี่ถูกดึงเสียจนตาเหลือก “เซินเป่า ดึงไม่ไหวก็ช่างมันเถอะ!”

เซินเป่ขมิบก้นน้อย ๆ ของเขาทันที แล้วจึงโอบศีรษะของเซียวจวินยี่ไว้พร้อมกับออกแรงดึง

“ท่านอาเซียว ไม่ต้องห่วง ข้าแรงเยอะมาก!”

“อู... ข้ารู้สึกว่า... แค่ก ๆ ... ข้าน่าจะไม่ไหวแล้ว...”

“ท่านอาเซียว ชายผู้กล้าหาญห้ามพูดว่าไม่ไหว!”

ผ่านไปราวสิบห้านาที ในที่สุดเซียวจวินยี่ก็ถูกเซินเป่าใช้ความพยายามทั้งหมดดึงเขาขึ้นมาจนได้

เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน มือหนึ่งจับที่ลำคอของตัวเอง พร้อมทั้งพยายามหายใจ

แววตาของซูยี่เต็มไปด้วยความกังวล “ท่านชายเซียว ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

ท่าทางเช่นนั้น ความจริงแล้วถูกเจ้าชมพูขุดหลุมฝังจนบาดเจ็บ หรือถูกเซินเป่าดึงคอจนบาดเจ็บกันแน่?

เซียวจวินยี่หายใจออกมายาว ๆ จากนั้นก็เผยแววตาเป็นประกาย

“ใต้เท้าซูไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นไร เพียงแค่อยู่ ๆ ก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมา ต้องเป็นเพราะคอที่ยาวขึ้นเป็นแน่ จึงสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้จากที่สูง”

ฉู่เชียนหลีอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อคิดว่าด้านข้างยังมีซุนยู่จือกับหยุนชิงกุยที่ต้องจัดการ ก็หุบยิ้มลงทันที

นางลากแส้ยาวในมือ ฟาดลงไปบนพื้นอย่างแรง หยุนชิงกุยร่วงลงใต้เท้าของซูยี่

“ท่านลุง เจ้านี่จะจัดการอย่างไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี