ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 105

เทียนเสวียนได้ยินเรื่องราวของซุนยู่จือ แต่เดิมก็มีความขุ่นเคืองอยู่แล้ว เมื่อนึกถึงของสะสมของตัวเอง ตาเป็นประกาย สักพัก เขาก็หยิบฆ้องออกมา อีกทั้งยังทำให้หยุนชิงกุยตื่น ตามสัญญาณของเชียนหลีด้วย

ฉู่เชียนหลียกแส้ยาวในมือขึ้น ดวงตาเฉียบคมราวกับดาบ ชี้ไปทางองค์ชายสามหยุนชิงกุยโดยตรง

“เจ้าก็ตามมาด้วย”

องค์ชายสามจับไหล่ที่บาดเจ็บของเขา ดวงตาเบิกกว้าง ข่มขู่ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ฉู่เชียนหลี ข้าคือองค์ชาย!”

“ข้าสนหรือว่าเจ้าเป็นใคร?”

ฉู่เชียนหลีแส้ยาวในมือของนางฟาดออกไป ฟาดลงไปบนร่างของหยุนชิงกุยเต็มแรง น้ำเสียงนั้นเย็นชาไร้เทียมทาน

“เจ้าจะตามออกมาดีดี หรือจะให้ข้าลากเจ้าด้วยแส้ยาวนี้?”

หยุนชิงกุยจ้องมองตาค้าง ความอับอายไม่มีที่สิ้นสุดก่อตัวขึ้นในใจ บีบบังคับให้ตนเปล่งเสียงหวานออกมา

“ฉู่เชียนหลี เจ้าจะไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจหน่อยหรือ?”

“เลิกพูดไร้สาระ เดินไป!”

“ก๊อง!”

ฆ้องก้องกังวานไปทั่วฟ้าดิน ดังไปทั่วเมืองหลวงในชั่วพริบตา

เหล่าชาวบ้านได้ยินว่าฉู่เชียนหลีจะเข้าเมืองไปหาซูหมิน ติดตามอย่างใกล้ชิดตลอดทาง ในใจก็ยังเต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน

พวกเขาเดินตามมาทั้งทาง หลายคนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นับความสำเร็จของตระกูลซูตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกละอายใจ

ตระกูลซู เป็นเทพสงครามแห่งตงเสวียน ปกป้องความสงบสุขที่ชายแดนมาหลายสิบปี ถึงแม้ในวันนี้ตระกูลซูจะล่มไป พวกเขาไม่สามารถเนรคุณได้

ขณะที่คิด ทันใดนั้นเสียงฆ้องก็ดังขึ้นทั่วเมืองหลวง ทุกคนมองไปยังประตูของตระกูลซู วินาทีต่อมา ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

“คุณหนูใหญ่ฉู่ เหตุใดจึงได้พาซุนยู่จือออกมาอีก?”

“นางซุนถึงจะเป็นมารสาว เราทุกคนเห็นด้วยตาตนเอง คุณหนูใหญ่ต้องจัดการมารสาวเป็นแน่!”

“ครั้งนี้พวกเราต้องไม่หลงเสน่ห์มารสาวอีก เราต้องสนับสนุนคุณหนูใหญ่!”

“ถูกแล้ว!”

เสียงโห่ร้องของฝูงชนดังเข้ามา ซุนยู่จือกลับดูเหมือนว่าไม่ได้ยิน ยังคงยิ้มเหมือนกับเสียสติ แม้กระทั่งดึงคอเสื้อออกด้วยมือเดียว เล่นหูเล่นตากับผู้ชายสองข้างทาง

ด้านข้างนางซุน ตามมาด้วยชายคนหนึ่งที่เลือดไหลท่วมตัว ถูกพยุงโดยองครักษ์สองคน ผมเผ้ายุ่งเหยิง สภาพน่าเวทนาอย่างยิ่ง เขาก้มศีรษะลงจนมองไม่เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนได้ยินว่าซุนยู่จือถูกฉู่เชียนหลีจับตัวไว้ ก็รีบพาคนตามออกมาทันที

นางรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่ประตูเมือง แต่ไม่ทราบรายละเอียด นางลงมาจากรถม้า เมื่อเห็นสภาพของซุนยู่จือ จู่ ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไป ไฟแห่งความโกรธลุกโชน

“ยู่จือ ลูกสาวข้า! ทหาร ไปช่วยคุณหนู!”

“ขอรับ”

ฉู่เชียนหลีมองคนจากตระกูลซุนที่ตามมาด้วยความเย็นชา ในวินาทีที่คนรับใช้กำลังจะจับถึงตัวซุนยู่จือนั้น แส้ยาในมือก็ถูกฟาดออกไปอย่างรุนแรง

“ป้าบ!”

แรงฟาดจากแส้อันหนักหน่วงทำให้คนใช้หลายคนบินออกไป

“เจ้าคือ... ฉู่เชียนหลี?”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนเงยหน้าขึ้น วินาทีที่เห็นฉู่เชียนหลี แววตาสงสัยแวบวาบขึ้นมาทันที

“ใช่”

“ดีจริง เพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง แต่กลับไม่เคารพท่านป้าใหญ่ของตนเอง นี่น่ะหรือลูกสาวที่แสนดีของซูชิงหย่า!”

ฉู่เชียนหลีดวงตาสั่นไหว ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความเย็นชา

“เจ้าไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงท่านแม่ของข้า!”

นางขยับปลายนิ้วเล็กน้อย ค่ายทิพย์ที่สลักอยู่ในร่างของซุนยู่จือก็เปิดใช้งานในทันที

ซุนยู่จือบิดเอว ท่าทีนั้นเต็มไปด้วยความยั่วยวน ยกมือขึ้นแล้วชี้ไปตามทาง หัวเราะดังลั่นเหมือนคนโง่

“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านแม่ ท่านมาได้จังหวะพอดีเชียว! ดูสิ ผู้คนมากมายรอบตัว เต็มไปด้วยชายที่หน้าตาดีและตัวสูงใหญ่ ลูกให้ท่านแม่เลือกก่อน”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนเบิกตาโพล่ง ตะโกนด้วยความอับอาย “นางสารเลว เจ้าพูดบ้าอะไร?”

“ท่านแม่โกรธด้วยเหตุใด หากท่านชอบ ก็เอาไปเสีย ลูกจะไปแย่งชิงกับท่านได้อย่างไร?”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาจากปากนาง สีหน้าของผู้คนรอบข้างก็พลันมองฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนไป

ฮูหยินเฒ่าอายุอานามก็น่าจะไม่ต่ำกว่า60ปีแล้วมิใช่หรือ?

หรือว่านางกับซุนยู่จือจะเหมือนกัน ยังคงหมกหมุ่นอยู่กับผู้ชาย?

เหมือนคิดถึงตรงนี้ ทุกคนมองไปทางฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนที่อยู่ในสภาพผิวเหี่ยวย่นและผมซีดขาว มีอาการคลื่นไส้เกิดขึ้นที่หน้าอกของพวกเขาอย่างฉับพลัน

“นางซุนเป็นมารสาว คนของตระกูลซุนก็ไม่ต่างอะไรกับซ่องสัตว์สกปรก!”

“คลื่อนไส้จริง ๆ!”

“หุบปาก!” ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนใบหน้าซีดเซียว ในใจกระวนกระวายอยู่ไม่สุข “ยู่จือ มีอาการของโรคเรียกร้องความสนใจอีกแล้ว! ทหาร รีบมาพาตัวนางกลับไป เชิญหมอหลวงมารักษาให้หายดี!”

ฉู่เชียนหลีแกว่งแส้ยาวในมืออีกครั้ง ฟาดลงไปสองที กระทบลงมาอย่างหนักบนพื้นทั้งสองฝั่งของซุนยู่จือ

เวลาถัดมา แผ่นหินบลูสโตนบนพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆรอยร้าวกระจายออกไปหลายลี้ จึงได้หยุดลง

“อ้า!”

ฝูงชนอุทานขึ้นทันที แส้ยาวที่สามารถทำให้แผ่นหินบลูสโตนแตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ หากตีโดนบนตัวใคร เกรงว่าแค่ครั้งเดียวก็คงจะถึงชีวิต!

“คุณหนูใหญ่สมแล้วที่เป็นเจ้าแม่ เก่งกาจเหลือเกิน!”

“ใช่แล้ว ข้าจะเอาชิ้นส่วนของบลูสโตนนั้นกลับบ้านด้วย อาจจะได้สัมผัสภูติเซียนก็ได้!”

ทันทีที่คำกล่าวนี้ออกมา ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่จ้องไปที่แผ่นหินบลูสโตนบนพื้น ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ

อีกฝั่งหนึ่ง ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนกลับตกในเสียจนอกสั่นขวัญแขวน ทำใจให้แข็งแล้วมองที่ฉู่เชียนหลี

“ฉู่เชียนหลี เจ้าจะทำอะไร?”

“ข้า คุ้มครองฮูหยินซุน กลับจวน!”

“ว่าอย่างไร?”

ฉู่เชียนหลีเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชา “ข้ายังพูดไม่ชัดอีกหรือ? นางซุนยังคงเป็นฮูหยินของท่านลุงใหญ่ของข้า เป็นท่านป้าใหญ่ของข้า นางกลับไปที่ตระกูลซูนั้นไม่ง่าย ตอนนี้กำลังจะกลับไป ข้าจะพานางไปส่ง!”

พานางไปส่ง!

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนถอยหลังไปสองก้าว แทบจะขาดอากาศหายใจจากรังสีอาฆาตที่แพร่มาจากคำสี่คำนี้

“เจ้า... ”

ฉู่เชียนหลีนั้น นางก็เคยพบมาก่อน เมื่อก่อนเป็นคนว่าง่าย พูดอะไรก็ว่าตามนั้น ไม่มีปากมีเสียง ในวันนี้กลับมีใบหน้าที่งดงาม แม้แต่นิสัยก็ยังน่ากลัวถึงเพียงนี้ด้วย?

ฉู่เชียนหลีมองไปทางซุนยู่จือ

“ฮูหยินซุน เพียงแค่เดินอย่างเดียวมันออกจะน่าเบื่อ ข้าเพิ่งกลับเมืองมาได้ไม่นาน มีสถานที่และผู้คนอีกมากมายที่ยังไม่คุ้นเคย เจ้าช่วยแนะนำให้ข้าได้หรือไม่?”

ซุนยู่จือเอียวตัวไปด้านหน้า ทันใดนั้น นางก็ชี้ไปที่ชายคนหนึ่งด้วยดวงตาเป็นประกายและกรีดร้องออกมาเสียงแหลม

“ได้สิ เหตุใดจึงไม่ได้? เจ้าดูนั่น คนนั้นนามว่าหวูจาว อย่ามองเพียงแค่ตัวสูงใหญ่ แต่ความอดทนนั้นน้อยมาก ไม่เท่าพ่อของเขาอู๋ฉง”

ฉู่เชียนหลีรี่ตาลง “หวูจาว อู๋ฉง? เฮอะ ทั้งพอทั้งลูกก็ไม่พ้นมือเจ้า?”

คาดไม่ถึงว่า คนตระกูลอู๋ก็เป็นแขกผู้มีเกียรติของนางซุนเช่นกัน? ไม่เลือกเลยจริง ๆ!

หวูจาวสบตากับซุนยู่จือ ก็เกิดความรู้สึกไม่ค่อยดี เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของนาง เกือบลื่นล้มหน้าทิ่มไปกับพื้น หันหน้ามาพูดกับนางด้วยความโมโห

“ซุนยู่จือ เจ้าพูดจาเลอะเทอะ!”

“ข้าพูดจาเลอะเทอะอย่างไร? หากเจ้าไม่ยอมรับ ก็ถอดกางเกงออกมาต่อหน้าผู้คนมากมาย ให้ผู้คนได้ดูเสีย?” ซุนยู่จือหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

หวูจาวหน้าแดงขึ้นมาทันที “ใครไม่รู้ว่าเจ้าเป็นเป็นนางโลมส่วนตัว? คำพูดเจ้า ไม่มีใครเชื่อ!”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนตกใจจนเหงื่อตก

“ยู่จือ เจ้ารีบหุบปากเสีย!”

นางเป็นบ้าไปแล้วหรือ? คำพูดเช่นนี้ก็สามารถเอาออกมาพูดในที่แจ้งได้หรือ?

“ท่านแม่ ท่านกลัวอะไร? คำพูดที่ข้าพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด มีอะไรให้ขายหน้ากัน?”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนปลายสายตาที่เฉียบแหลม หันหน้าไปทางคนรับใช้ของตระกูลซุน พร้อมสั่งการเสียงดัง

“ฮูหยินโรคเรียกร้องความสนใจกำเริบ พวกเจ้ารีบรุดเข้าไปปิดปากนางไว้ แล้วลากนางกลับไป หากสำเร็จ จะให้รางวัลเป็นเงินสองร้อยตำลึง ผู้ใดกล้าลังเล จะลงโทษตามกฎว่าด้วยการปองร้ายเจ้านาย!”

หากบ่าวทำร้านนาย นั่นคือโทษประหาร

ควบคุมคน แต่ให้รางวัลเป็นเงินเพียงแค่ร้อยสองร้อยตำลึง

หลังจากผ่านการคิด คนของตระกูลซุนก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นมา กรูกันเข้าไปในทิศทางที่ซุนยู่จือยืนอยู่!

ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว เพราะนางเพิ่งจะใช้พลังทิพย์ทั้งหมดในการสลักค่ายทิพย์ ในเวลานี้ต้องจัดการกับคนรับใช้มากมายที่หมดหวังกับชีวิตของพวกเขา เช่นนั้นก็ทำได้แค่...

เมื่อเหล่าชาวบ้านเห็นฉากตรงหน้า ก็เกิดความรู้สึกโมโหขึ้นมา

ซุนยู่จือ นางมารสาวไม่รู้จักประเมินตัวเอง ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนนั่นอีกยังจะทำให้คุณหนูใหญ่ลำบากหรือ?

“กันพวกมันไว้!”

ไม่รู้ว่าใครตะโกนประโยคนี้ขึ้นมา ในนาทีนั้นเอง ผู้คนที่อยู่ข้างหน้าก็พุ่งตรงเข้ามา ต้านคนรับใช้จากตระกูลซุนเอาไว้ได้

“ถทอดีไม่เคารพคุณหนูใหญ่ จะฆ่าพวกขยะอย่างพวกแกให้สิ้นซาก!”

“ลากมันไว้ ลากขามัน!”

เฟิ่งเสวียนตู้ที่เดินตามอยู่ด้านหลังก็แอบเก็บกระบี่ยาวในมือ ดูแล้ว คงไม่ต้องให้เขาออกแรงเองแล้ว

ฉู่เชียนหลีชะงักไป เมื่อดึงสติกลับมาได้ ในใจก็เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ

นางค่อย ๆ ฉีกยิ้มบาง ๆ ยิ้มให้กับชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ ตัวนาง

“ขอบใจผู้บ้านเดียวกันทุกท่าน”

“คุณหนูใหญ่อย่างได้เกรงใจไป”

“เอาล่ะ คุณหนูใหญ่ไปต่อเถิด คนตระกูลซุนหากยังกล้าระราน ก็ต้องผ่านด่านพวกเราไปก่อน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี