ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 106

ฉู่เชียนหลีมองดูฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนที่ยืนตะลึงงันด้วยแววตาเย็นชา

“ข้าเพียงแค่จะส่งฮูหยินซุนกลับไป ฮูหยินเฒ่าซุน จะกังวลใจด้วยเหตุใด?”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนเมื่อมองเห็นฮากตรงหน้า ราวกับเครื่องในที่ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ พวกคนชั้นต่ำพวกนี้เป็นอะไรกันไปหมด? ทำไมพวกมันถึงได้ช่วยเหลือฉู่เชียนหลี?

“ที่นี่คือแผ่นดินของจักรพรรดิ พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ทำเรื่องวุ่นวายทำร้ายคนเช่นนี้?”

“ข้าไม่เพียงแต่กล้าทำเรื่องวุ่นวาย ข้ายังกล้าพลิกแผ่นดินนี้อีกด้วย!” ฉู่เชียนหลีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นางซุน เดินหน้าต่อไป!”

“ได้ ไป ด้านหน้าคือกิจการของตระกูลซุน ทางนั้นเป็นโรงจำนำเสียงเหอ ทางนั้นเป็นบ่อนพนันซุนอี้ เป็นกิจการของตระกูลซุนทั้งหมด”

ซุนยู่จือยิ้มด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนรีบดึงข้ารับใช้ขึ้นมาคนหนึ่ง กัดฟันพูดด้วยความกระวนกระวาย “รีบไป รีบไปเชิญ... เชิญองค์ชายสาม!”

ความลับที่อยู่ในปากซุนยู่จือมีมากเกินไป ทุกการโยนหินก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิดคลื่นมหึมา ขั้วอำนาจของฉู่เชียนหลีก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ทำได้แค่เพียงไปขอให้องค์ชายสามช่วยต้านคนไว้เท่านั้น

ซุนยู่จือยืนอยู่กลางร้านทั้งสอง พูดด้วยความภาคภูมิใจ

“ในบ่อนมีผู้คนนับพัน บางคนก็ตกหลุมจนล้มละลาย โรงรับจำนำก็เอาเงินไปทำกำไร ดอกเบี้ยทบต้น เงินต้นสร้างดอก และดอกเบี้ยก็สร้างเงินอีก รับรองได้ว่าขูดเลือดขูดเนื้อ!”

ว่าอย่างไรนะ?

เมื่อชาวบ้านได้ยินเช่นนั้น ก็เผยสีหน้าโมโหขึ้นมา

ด้านหนึ่งเป็นบ่อนพนันขีดรีดเงิน ด้านหนึ่งก็เป็นโรงจำนำกินดอกเบี้ย

ตระกูลซุนคือหมาจิ้งจอกหรืออย่างไร? เหตุใดจึงหน้าเลือดได้เพียงนี้?

ฉู่เชียนหลีหัวเราะเสียงเย็น “ตระกูลซุนเก่งกาจเสียจริง!”

ซุนยู่จือหยิบผ้าเช็ดหน้า หัวเราะอย่างมีเลศนัย

“นี่ถือว่าเก่งแล้วหรือ? นี่เป็นเพียงแค่กิจการในที่แจ้ง ทำเงินได้ไม่มากนัก ที่สำคัญคือด้านหลังของบ่อนพนันกับโรงจำนำต่างหาก”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนเผยสายตาคมดั่งมีด ตะโกนเสียงดังพร้อมกับหายใจหอบ

“ซุนยู่จือ! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”

นางไม่สนใจว่าตนจะแก่มากเพียงใดแล้ว รีบกระโจนเข้าไปทางซุนยู่จือ ไม่อาจให้นางได้เอ่ยปากพูดสิ่งใดอีก ความลับเช่นนี้หากถูกปิดเผยออกไป ตระกูลซุนของพวกเขาก็คงต้องถึงจุดจบแน่!

ฉู่เชียนหลีกำแส้ยาวในมือแน่น เมื่อคิดถึงความทรงจำที่ซุนยู่จือได้ส่งต่อมาก่อนหน้านี้ แส้ยาวก็ฟาดลงไปบนร่างของฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนทันที!

“อ๊า!”

นิสัยของซุนยู่จือ ก็ได้ฮูหยินเฒ่าคนนี้สั่งสอนมาเองกับมือ ในตอนนั้นที่นางทำร้ายท่านลุงใหญ่ ก็เป็นฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนที่เป็นคนวางแผน

อย่าคิดว่าแก่แล้ว สิ่งชั่วช้าที่ทำไว้จะได้รับการยกเว้น!

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนกรีดร้องโหยหวน แขนของนางถูกตัดขาดด้วยแส้ในทันที ล้มลงกับพื้น ซีหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ

นางไม่สนใจความเจ็บปวด เพียงแค่ต้องการจะยื้อเวลา รอให้องค์ชายสามมาถึงก่อน

“ฉู่เชียนหลี... ข้ากับเจ้า มีความเกี่ยวข้องกันไม่มากก็น้อย เจ้ากล้าลงมือกับผู้อาวุโสเช่นนี้ หยาบคายยิ่งนัก!”

คนรอบข้างต่างตกตะลึง บางคนก็ใช้โอกาสนี้พูดเพื่อรบกวนจิตใจของผู้อื่น

“ไม่ว่าอย่างไร ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนผู้นี้ก็อายุ 60 กว่าปีแล้ว กล้าลงไม้ลงมือเช่นนี้ มันไม่เกินไปหรือ?”

“ใช่แล้ว ได้รับความเอ็นดูจากฮ่องเต้ ก็สามารถทำอะไรก็ได้? เช่นนั้นจะแตกต่างอะไรกับอันธพาล?”

“เฮอะ ก่อนนี้ยังร้สึกว่าฉู่เชียนหลีถูกถอนหมั้นช่างน่าสงสาร มองดูความหยิ่งทะนงของนางตอนนี้ ที่องค์ชายสามชอบพลอกับคุณหนูรองตระกูลฉู่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไร้เหตุผลเลย!”

ฉู่เชียนหลีไม่ได้สนใจการถกเถียงรอบกาย ในบรรดาชาวบ้าน มีสายลับจากกองกำลังต่าง ๆ แฝงอยู่มากมาย เพียงแค่รอโอกาสที่จะได้จับปลาในน้ำก็เท่านั้น

นางหันไปมองทางซุนยู่จือ ค่ายทิพย์เริ่มทำงานอีกครั้ง

“ฮูหยินซุน เหตุใดไม่พูดต่อเล่า ด้านหลังของบ่อนพนันและโรงจำนำมีอะไรหรือ?”

ซุนยู่จือไม่ได้ดูท่านแม่ที่กำลังบาดเจ็บอยู่แม้แต่น้อย คิดเพียงแค่ต้องการอวดความสำเร็จของนางเท่านั้น

“ด้านหลังหรือ? แน่นอนว่าพวกที่หมดตัวเพราะบ่อนพนันนับไม่ถ้วน ก็ต้องเอาบุตรชายบุตรสาวมาขาย ฮูหยินหรือเด็กสาว ที่หน้าตาดีก็จะถูกส่งไปที่หอนางโลม ส่วนที่หน้าตาไม่ค่อยดีนั้น ก็จับเขียนสัญญาทาส ส่งไปเป็นสาวใช้ในจวนของคนอื่น เป็นคนสายสืบ หากมีโชค บังเอิญประสบกับความโชคดี ตระกูลซุนก็ยังสามารถทำเงินได้อีกมหาศาล ฮ่า ๆ ๆ!”

“ซุนยู่จือ! เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้!”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนส่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง คอแหบคอแห้งไปหมด แต่ซุนยู่จือกลับทำหูทวนลม

ฉู่เชียนหลีได้ยินคำพูดของซุนยู่จือ ความหนาวเหน็บในใจก็ยิ่งทวีคูณ

“คาดไม่ถึงจริง ๆ ตระกูลเล็ก ๆ อย่างตระกูลซุน แม้กระทั่งค้ามนุษย์ยังสามารถทำได้? กฎบ้านกฎเมืองไม่อยู่ในสายตาเลยหรือ?”

ซุนยู่จือยิ้มเยาะ

“คนไม่ฟ้อง เจ้าหน้าที่ก็ไม่ตาม บรรดาผู้ที่ขายบุตรชายบุตรสาวของตนก็นิ่งเงียบ แล้วใครจะมายุ่งกับตระกูลซุนเล่า?”

ซุนยู่จือชะงักไปเล็กน้อย

“แน่นอน ในสิบคนก็อาจจะมีสักสองสามคนที่เป็นกระดูกชิ้นใหญ่ แต่ด้วยเส้นสายของซุนยู่จืออย่างข้า แค่ใช้เส้นสายเล็กน้อย ร่วมมือกัน พวกกระดูกชิ้นใหญ่ก็กลายเป็นแค่ซากกระดูก ถูกฝังลงในดินทันที”

“ร่วมมือหรือ? เจ้าหมายถึงอย่างไร?” ฉู่เชียนหลีถามต่อ

“ส่งสาวงามเหล้าชั้นดี ส่งพวกของมีค่า หลังจากนั้นก็ส่งตัวเองไป เหอ ๆ ๆ” ซุนยู่จือปิดปากหัวเราะ “นอกจากจะได้รับความสุขแล้ว ยังได้รับกำไรอีก เป็นการค้าที่ดีใช่หรือไม่?”

“เจ้าส่งสาวงามไป? นั่นคือพวกไม่สามารถจ่ายเงินได้ จึงขายภรรยาและลูกสาวให้กับเจ้าใช่หรือไม่?”

“ไม่ผิด”

ฉู่เชียนหลีถามเสียงเย็น “แล้วเจ้าเคยคิดเกี่ยวกับผู้หญิงเหล่านั้นหรือไม่? เคยถามหรือไม่ว่าพวกนางมีหรือไม่มีความสุข?”

“ชึ ในเมื่ออยู่ในมือข้าแล้ว นั่นก็เป็นเพียงแค่สินค้าเพื่อการหาเงินเท่านั้น ใครบ้างที่จะทำเรื่องอะไรแล้วของความเห็นจากสินค้า?”

ทันใดนั้น หินก้อนหนึ่งถูกขว้างเข้ามา ชนเข้าที่ไหล่ของซุนยู่จือเต็ม ๆ

“นางหญิงโฉด!”

คำสาปส่งนี้ดูเหมือนจะเริ่มต้นขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ชมก็เริ่มตื่นเต้น

“ไม่แปลกใจเลย ว่าเหตุใดคุณหนูใหญ่จึงให้นางพาชมเมือง ที่แท้นางก็โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้!”

“จีนางให้ตาย! จีนางหญิงโฉดนี่ให้ตาย!”

ก้อนหิน ผักหญ้า กิ่งไม้... กระหน่ำลงมายังซุนยู่จือราวกับห่าฝน

“เจ้าพวกคนนอกคอก กล้าดีอย่างไรทำกับข้าเช่นนี้ รอก่อนเถอะ ข้าจะต้องเอาคืนพวกเจ้าให้ได้ เบื้องหลังข้ายังมีเจ้าท่าน มีเหลาจู่ จะทำให้พวกเจ้าเป็นศพที่แห้งตายจนไม่เหลือร่างไว้ให้ฝัง!”

ซุนยู่จือกรีดร้องด้วยความรำคาญ หน้าผากของนางโดนหินทุบ เลือดไหลอาบแก้ม ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ

เจ้าท่าน เหลาจู่?

ฉู่เชียนหลีใช้ความคิด ตามความทรงจำของซุนยู่จือ เจ้าท่านนั่นหมายถึงฉู่หานปี้ แต่เหลาจู่นางไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง รู้เพียงแค่ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนในเมือง

ฉู่เชียนหลีหันหน้ามาบอกใบ้กับเทียนเสวียน

เทียนเสวียนตีเสียงฆ้องดังกึกก้อง ให้ผู้คนตื่นขึ้นจากความโกรธ พากันจ้องมองมาที่ฉู่เชียนหลีกันถ้วนหน้า

ฉู่เชียนหลีถามต่อ “เช่นนั้นข้าจะถามเจ้า เจ้าทำเรื่องพวกนี้ ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนก็ร่วมด้วยหรือ?”

ซุนยู่จือพยักหน้าอย่างไม่ลังเล

“แน่นอนอยู่แล้ว ล้วนอาศัยคำสอนของท่านแม่ ข้าจึงสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลในวันนี้ นางเป็นนักยุทธศาสตร์และนักคิดของข้า ฮ่า ๆ ๆ! แม่ลูกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ย่อมไม่มีทางล้มเหลว”

ฉู่เชียนหลีหัวเราะเสียงเย็น มองไปทางฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนที่อยู่อีกด้าน

“ฮูหยินเฒ่า ครั้งนี้เจ้าลองมองใหม่อีกครั้ง ที่ข้าตีเจ้าไปผิดหรือไม่?”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนรู้สึกได้เพียงสมองอื้อปหมด เบื้องหน้าดำมืด ในใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

จบแล้ว...

เรื่องพวกนี้ถูกเปิดเผย ตระกูลซุน จบแล้ว!

ฉู่เชียนหลีแววตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง เสียงที่เปล่งออกมาราวกับใบมีดที่แหลมคม

“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะอายุเท่าไรและไม่สนใจว่าเจ้าจะเกี่ยวข้องกับข้ามากน้อยเพียงใด ข้ารู้เพียงว่า คนธรรมดาที่เป็นมนุษย์นั้น ต้องมีศีลธรรม หากไม่มีศีลธรรม นั่นมันก็แค่สัตว์เดียรัจฉาน! ลงโทษตระกูลสัตว์เดรัจฉาน ไม่จำเป็นต้องสนใจอายุ และยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องคุณธรรม!”

เมื่อคำพูดนี้สิ้นสุด ผู้คนต่างโห่ร้องสรรเสริญพร้อมกันทันที

“คุณหนูใหญ่พูดถูก!”

“ตระกูลสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีค่าสักนิด!”

“ข้าก็ว่า คุณหนูใหญ่ไม่มีทางทำร้ายคนบริสุทธิ์!”

“ฆ่าพวกมันให้ตาย!”

ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลซุนทั้งเจ็บปวด ทั้งกลัว ทั้งสิ้นหวัง เมื่อเผชิญกับความโกรธที่คุกคามรอบตัว ดูท่าว่าจะทนไม่ไหว

“ฉู่เชียนหลี เจ้า... เจ้าประมาทเกินไป ข้าให้คนไปเชิญองค์ชายสามแล้ว ท่านต้องไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

ฉู่เชียนหลีอยู่ ๆ ก็หัวเราะออกมา “องค์ชายสาม?”

นางยกแขนขึ้น แส้ในมือชี้ไปด้านข้างคนที่ก้มศีรษะอยู่ ชายผู้พยายามปกปิดตัวตนของตนอย่างถึงที่สุด

“ก็อยู่ตรงหน้าเจ้ามิใช่หรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี