เหล่าผู้คนที่เดินตามกันมาทั้งทาง เมื่อเห็นซุนยู่จือหยุดลงที่หน้าประตูจวนเฉิงเสี้ยง ก็ทำได้แค่เดาไปต่าง ๆ นานา
“หรือว่าตระกูลฉู่ก็เกี่ยวข้องกับตระกูลซุนด้วย?”
“เรื่องนี้พวกเจ้าก็คงไม่รู้แล้วล่ะสิ? ข้าเคยได้ยินมาว่าปีศาจที่ควบคุมตัวต่อก็คือตระกูลฉู่!”
“ใช่ ไม่ผิดแน่ ข้าก็ได้ยินมา คุณหนูใหญ่ฉู่บอกว่ามีต้นกำเนิดเดียวกันกับปีศาจตัวนั้นด้วย!”
“ใช่! ต้นกำเนิดเดียวกัน แต่ต่างกันราวฟ้ากับเหว!”
ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้นและมองไปยังประตูจวนสูงลิ่วที่อยู่ข้างหน้าด้วยสายตาเย็นชา
ในตอนนั้นเจ้าของร่างเดิมหน้าตาน่าเกลียดจึงถูกส่งตัวไปชนบท ต่อมาได้ช่วยชีวิตองค์ชายสามไว้จึงได้กลายเป็นผู้ทำความดีความชอบ ถึงได้รับการต้อนรับให้เข้ามาอยู่ในจวน หลังจากนั้น เจ้าของร่างเดิมและตระกูลซูก็ถูกหลอกใช้จนสิ้น สิ่งที่ตอนรับนางคือความอัปยศ และจุดจบคือความตาย...
ตั้งแต่เริ่มจนจบ ตระกูลฉู่ต่างก็เอาผลประโยชน์อยู่เหนือสิ่งอื่นใด
ในสายตาของพวกเขา ฉู่หานปี้เห็นชีวิตคนเป็นเพียงต้นไม้ใบหญ้า เอาชีวิตคนอื่นมาเป็นเครื่องมือเพื่อเหยียบขึ้นไป เพียงแค่ได้รับประโยชน์เท่านั้นเรื่องใดก็ไม่สำคัญ
เพียงแต่ตระกูลที่โลภไปด้วยเงินตราเช่นนี้ กลับพูดคำว่าศีลธรรมได้เต็มปากเต็มคำ
วันนี้ นางจะดึงหน้ากากของจวนเฉิงเสี้ยงออกมา!
ซุนยู่จือหยุดฝีเท้าลง มองไปยังจวนเฉิงเสี้ยงที่อยู่ตรงหน้า แววตานั้นเต็มไปด้วยความริษยาและความโลภ
“จวนเฉิงเสี้ยง เป็นสถานที่ที่ดีเสียจริง แต่น่าเสียดายที่ใต้เท้าเฉิงเสี้ยงไม่รู้จักความสนุก ไม่รู้จักข้อดีของข้า ร้องขอตัวคนไม่ได้ ก็ทำได้แค่ถอยออกมาเพื่อขออย่างอื่นแทน นั่นก็คือเรียกเงินนั่นเอง”
“เรียกเงินคือสิ่งใด?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นสินสอดของฮูหยินซูชิงหย่าของฉู่เฉิงเสี้ยง ซูหมินกับซูยี่เจ้าคนโง่ทั้งสองคนนั้น ว่ากันว่าผู้ชายมุ่งมั่นที่จะทำงานหนักในทุกทิศทุกทางเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว จึงเอาทรัพย์สมบัติของตระกูลซูราวครึ่งหนึ่งมอบให้นางเป็นสินสอด! นั่นเดิมทีต้องเป็นของข้า แต่สุดท้ายกลับถูกเอาไปจนหมด ข้าจึงต้องหาวิธีเพื่อเอามันกลับมา!”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ตกใจจนหุบปากไม่ลง
“อย่างไร? นางซุนเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของซูฮูหยิน นางวางแผนแย่งชิงสินสอดของน้องสะใภ้ตัวเองหรือ?”
คนทั่วไปนั้น หากไปยุ่งย่ามกับสินสอดของภรรยาจะถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ขายหน้าจนถึงที่สุด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตำหนักขุนนาง
ซุนยู่จือยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ “ฉู่เชียนหลี เจ้ารู้หรือไม่ว่าสินสอดของท่านแม่ของเจ้าเมื่อเปลี่ยนมันเป็นเงินแล้วเอาไปทำอะไร?”
ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว “ทำอะไร?”
“ติดสินบนเจ้าพนักงาน ยื้อเวลาในสนามรบ ทำให้ซูหมินต้องตายอยู่ในสนามรบ ฮ่า ๆ ๆ! ก็ไม่ยอมให้ทรัพย์สินแก่ข้านี่หนา? เช่นนั้นข้าจึงใช้ทรัพย์สินพวกนี้ข้ามันให้ตายเสีย!”
“จิตใจชั่วร้ายเหลือเกิน!”
“ฮะฮ่า ชั่วร้ายแล้วอย่างไร? ใครใช้ให้ซูหมินไม่ยอมเชื่อว่าซูชิงหย่าตายเพราะคลอดเจ้ากันเล่า ต้องการแต่จะยืนยันความบริสุทธิ์ให้เจ้าตลอดมา? อีกทั้งยังจะรับเจ้ากลับมาตั้งแต่แรกอีก? หึ ฝันไปเถอะ!”
“สินสอดของท่านแม่ของข้าอยู่ที่ตระกูลฉู่ มีนางอู๋คอยดูแล เช่นนั้น เจ้าทั้งสองคนร่วมมือและสมรู้ร่วมคิดกันมานานแล้ว?”
“จะไม่ใช่ได้อย่างไร? ต้องขอบใจนางอู๋ที่ช่วย! นางมีสินสอดของซูชิงหย่า ข้ามีโรงจำนำและเส้นทางค้าขาย เข้ากันได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ ฮ่า ๆ ๆ!”
คนรอบข้างเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็คาดไม่ถึง คนคนหนึ่งจะสามารถจิตใจชั่วร้ายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร
“เกินไปแล้ว! ร่วมมือกับคนนอก วางแผนเล่นงานน้องสะใภ้กับหลานสาวตนเอง ไม่กลัวฟ้าลงโทษเลยหรืออย่างไร?”
“สาแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นนางปีศาจ!”
“คุณหนูใหญ่ พวกเราจะช่วยท่านตีมันให้ตาย!”
ฉู่เชียนหลียกมือขึ้น เป็นสัญญาณให้ทุกคนอยู่ในความสงบ จากนั้นก็เอ่ยปากถามซุนยู่จือ “เจ้าพูดเรื่องพวกนี้ มีหลักฐานหรือ?”
“แน่นอน ข้าทำอะไรละเอียดรอบครอบ แต่ละวันข้านอนกับใครบ้าง ต่างก็จำได้อย่างชัดเจนทีเดียว ยิ่งเรื่องการซื้อขายสินสอด เรื่องใหญ่เช่นนี้จะไม่บันทึกได้อย่างไร?”
นางซุนหัวเราะด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
“ในมือข้ามีบัญชีที่นางอู๋เป็นคนลงชื่อด้วยตัวเอง! ฮ่า ๆ ๆ นางอู๋นางสารเลวนั่นต้องคาดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าข้าคอยระวังตัวจากนางอยู่เสมอ!”
ฉู่เชียนหลีได้ยินคำพูดนี้จากซุนยู่จือ พยักน้องเบา ๆ พร้อมกับสายตาที่เย็นชา
“ดี ดีมาก!”
สิ้นเสียง นางกำแส้ในมือไว้แน่น หมุนตัวหันหน้าไปทางประตูใหญ่จวนเฉิงเสี้ยง
ตำหนักแห่งนี้ยังสูงและตระหง่านเหมือนเมื่อแรกเห็น ความสวยงามของประตูจวนตระกูลขุนนางสีแดง ความยุติธรรมและความเที่ยงตรง ภายใต้แสงแดดที่ส่องลงมา ทุก ๆ ที่ต่างเปล่งแสงเป็นประกายระยิบระยับ
แต่ใครจะคิดว่า ตำหนักที่สง่างามและยิ่งใหญ่เพียงนี้ จะมีเป็นที่อยู่ของคนที่จิตใจสกปรกเป็นที่สุด
ฉู่เชียนหลีกำแส้ยาวในมือของนางไว้แน่น ฟาดลงไปที่ประตูสีแดงอย่างเต็มแรง
“ปัง!”
ประตูไม้ถูกฟาดกระเด็นแตกออกเป็นขี้เลื่อยและฝุ่นควัน!
“อู๋ยุ่นหลัน โผล่หัวออกมา!”
ภายในจวนเฉิงเสี้ยง นางอู๋สวมผ้าคุมหน้าด้วยมือที่สั่นเทา ขอบตาที่โผล่พ้นผ้าคุมเต็มไปด้วยริ้วรอยลึก นางดึงเสื้อของฉู่เยี่ยนชิงอย่างแรง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกรงกลัว
นางเพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวจากฮ่องเต้ให้กลับตำหนักได้ คิดไปว่าฮ่องเต้กังวลว่าฉู่หานปี้จะมาคิดบัญชีทีหลัง แต่คาดไม่ถึงว่าเพียงไม่นาน ฉู่เชียนหลีก็ตามมาถึงหน้าจวน!
“นายท่าน! ทำอย่างไรดี ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”
ที่แก้มของฉู่เยี่ยนชิงยังคงเต็มไปด้วยร่องรอยของตัวต่อร่างแดง สีหน้าเคร่งเครียด
ที่บริเวณหน้าประตูจวน สามัญชนผู้ต่ำต้อยกลับได้รับการถอนพิษจากฝนทิพย์ แต่เขากลับไม่ได้รับประโยชน์ใดเลยแม้แต่น้อย
ฉู่เชียนหลี นางสารเลว!
ในตอนนั้น ไม่ควรให้นางได้มีชีวิตอยู่ต่อเลยจริง ๆ!
“นางอู๋ เจ้าออกไปรับความผิด!”
“ท่านหมายความว่าอย่างไร?” นางอู๋เบิกตากว้าง
“ชื่อเสียงของเจ้าถูกทำลายคนเดียว กับชื่อเสียงของตระกูลฉู่ทั้งตระกูลถูกทำลาย สิ่งใดหนักหนากว่ากัน?”
นางอู๋ขัดขืน “เพียงแค่ทำลายสิ่งที่อยู่ในมือของซุนยู่จือ ก็สามารถกลับคำบอกว่านางใส่ร้าย... ”
“เจ้าอย่าลืมว่ายังมีฉู่เชียนหลีอยู่ด้วย! เจ้าอาจจะไม่ยอมรับว่าเจ้าขายสินสอดทองหมั้นของนางซู แต่เมื่อนางเอ่ยปากให้เจ้าเอาของของท่านแม่นางออกมา เจ้าจะเอาอะไรคืนให้นาง?”
“ฉู่เชียนหลี? นางอาจจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรก็เป็นได้ นางไม่เคยเห็นบัญชีสินสอด เพียงแค่จัดไปมั่ว ๆ ก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?”
“ฉู่เชียนหลีไม่รู้ แล้วซูยี่จะไม่รู้เลยหรือ? หลายปีมานี้ ตระกูลอู๋ของเจ้าหาเรื่องซูยี่สองพ่อลูกนับครั้งไม่ถ้วน ทำไมไม่ฆ่าพวกมันและกำจัดปัญหาในในภายหน้าไปตั้งแต่ตอนนั้น?”
“ตระกูลซูมีเซียวจวินยี่คอยช่วยเหลือ แล้วตระกูลซูยังมีพรรคพวกเก่าอีกมากเพียงนั้น ข้าจะลงมือได้อย่างไร?
ฉู่เยี่ยนชิงสะบัดแขนเสื้ออย่างแรง “เอาล่ะ ข้าไม่อยากฟังเจ้าว่าจะพูดอะไรอีก เจ้าออกไปเอง ไปรับผิดต่อฉู่เชียนหลีเสีย!”
แววตาของนางอู๋เต็มไปด้วยความความโกรธ “หากเป็นเช่นนั้น หากข้าต้องจบแล้วจริง ๆ! ข้าเป็นแม้แท้ ๆ ของหานปี้ หานปี้เป็นท่านเซียน เข้าครอบครองวิชาเซียน เบื้องหลังยังมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่แข็งแกร่งเกินใคร หรือว่าฮ่องเต้จะไม่เกรงกลัวหรือ?”
ใบหน้าของฉู่เยี่ยนชิงกระตุกเล็กน้อย บาดแผลที่ได้รับจากตัวต่อนั้นเจ็บปวดจนเข้ากระดูก
งานล่าสัตว์ฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ เขาไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่เคียงข้างฮ่องเต้ หลังจากได้ยินข่าวเรื่องฮ่องเต้กลับเมือง เขาก็พาบรรดาข้าราชการที่อยู่ในเมืองหลวงออกไปต้อนรับ
แต่กลับคาดไม่ถึงว่า ยังไม่ทันได้ไปต้อนรับฮ่องเต้ก็กลับถูกตัวต่อร่างแดงโจมตีเข้าให้
ตอนที่ฉู่หานปี้กำลังควบคุมตัวต่อพวกนั้น กลับไม่ได้ส่งข่าวคราวใด ๆ ล่วงหน้าให้ท่านพ่อของเขาแม้แต่น้อย อีกทั้งยังทำให้เขาเกือบตายตรงนั้นอีกด้วย!
“นางอู๋ เจ้าเป็นแม่ของหานปี้ หากเขามีความตั้งใจ ก็จะต้องรีบมาช่วยเจ้าแน่นอน”
แต่หากไม่...
เช่นนั้นเขาก็ต้อวงคิดหาวิธีปกป้องตัวเองและตระกูลซู!
ฉู่เยี่ยนชิงไม่อยากสงสัยลูกชายตัวเอง แต่ตอนที่ตัวต่อร่างแดงบินทั่วว่อนทั่วฟ้าเช่นนั้นได้ทิ้งความแค้นลึกในใจของเขา
เมื่อคิดไปถึงร่างของฉู่หานปี้ที่หนีไปด้วยแขนที่หัก เขารู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนหมุดและเข็ม เต็มไปด้วยความหวาดวิตก มีความรู้สึกเหมือนกระบี่ยาวจ่อคอ สามารถฟันคอเขาขาดได้ตลอดเวลา
นางอู๋กัดฟันแน่น “ข้าไม่ ข้าจะไม่ขอร้อง ข้าจะไม่มีวันยอมแพ้! ฉู่เยี่ยนชิง เจ้ากับข้าเป็นผัวเมียกันมาหลายปี ในเวลาสำคัญเช่นนี้ เจ้ากลับเลือดเย็นไร้ความรู้สึก!”
“เจ้ายังต้องการจะทำเช่นไรอีก?”
นางอู๋หยิบกระดูกนกหวีดออกมา แล้วเป่าด้วยริมฝีปาก
ไม่นาน ร่างเงาหลายร่างก็งมาจากด้านบน ปรากฏตัวขึ้นกลางห้อง
ใบหน้าของนางอู๋ไร้ความปรานี
“นี่คือหน่วยกล้าตายที่หานปี้มอบไว้ให้กับข้าเมื่อหลายปีก่อน เพียงแค่ต้องทำลายหลักฐานในมือของมือของซุนยู่จือ ใครจะสามารถยืนยันได้ว่าข้าเป็นคนยักยอกสินสอดของซูชิงหย่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...