ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 109

ฉู่เยี่ยนชิงรีบลุกขึ้นยืน จ้องมองไปทางนางอู๋ไม่วางตา

“หน่วยกล้าตาย? หานปี้มอบให้เจ้าไว้?”

เขาเป็นพ่อแท้ ๆ แต่กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย!

“ไม่ผิด!” นางอู๋ยกริมฝีปากขึ้นด้วยความเยือกเย็น “ไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ข้าไม่มีทางยอมแพ้!”

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ด้านนอกจวน ฉู่เชียนหลีกำแส้ไว้แน่น และฟาดลงไปที่ประตูใหญ่ตระกูลฉู่อย่างแรง

ดวงตาที่เย็นชา ความโกรธและความเศร้าโศกของนางและเจ้าของร่างเดิมค่อย ๆ พันเข้าด้วยกัน กลายเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อนและยากต่อการแยกแยะ

“ปัง!”

ในที่สุดประตูก็ทนแรงกระแทกไม่ได้ ล้มลงกับพื้นพร้อมเสียงดังปัง

ประตูใหญ่จวนเฉิงเสี้ยงล้มลงกับพื้น นางอู๋ที่มีผ้าผ้าบางคลุมใบหน้าอยู่ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังประตูใหญ่

“ฉู่เชียนหลี... ”

ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้น มองไปทางนางอู๋ด้วยสายตาเย็นชา

“อู๋ยุ่นหลัน กล้ายักยอกสินสอดของแม่ข้า เจ้ายอมรับหรือไม่?”

“ข้าไม่ได้ทำ!”

นางอู๋กัดฟันแน่น แรงกดดันมหาศาลแพร่กระจายออกมาจากตัวของฉู่เชียนหลี กดเสียจนนางแทบจะไม่สามารถหายใจได้ แต่นางไม่สามารถนั่งนิ่งรอความตายได้ นางจำต้องดิ้นรนหาทางรอดชีวิตให้ตัวเอง!

“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา?”

นางอู๋โต้กลับ “สินสอดของท่านแม่เจ้า ข้ามอบให้เจ้าก่อนที่เจ้าจะกลับมาที่จวนเฉิงเสี้ยงแล้ว เป็นเจ้าที่เอาไปใช้เอง แล้วยังจะหันกลับมาให้ร้ายข้า เจ้ามันโหดร้ายเกินไปแล้ว!”

“ให้ข้าหรือ? ข้าเกิดที่จวนเฉิงเสี้ยง ถูกส่งออกไปสิบสามปี จากนั้นจึงกลับมา ห้าปีก่อนก็ออกไปอีกครั้ง หากนับกันดีดีแล้ว ข้าอาศัยอยู่ที่จวนแห่งนี้เพียงแค่สองปีเท่านั้น”

ฉู่เชียนหลีได้ยินการแต่งเรื่องจากนางอู๋ ในใจเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

“สองปีนั้น อาหารที่ข้ากิน ของที่ข้าใช้ เสื้อผ้าที่ข้าสวม มันเทียบไม่ได้แม้แต่กับสาวรับใช้ธรรมดา ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องทำเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองเพื่อให้ได้มา เจ้าเคยให้เงินสักแดงแก่ข้าเมื่อใดกัน?”

นางอู๋หายใจไม่ออกจนใบหน้าเป็นสีม่วง แต่ปากกับกัดไม่ปล่อย

“ฉู่เชียนหลี เจ้าบอกว่าข้าไม่ดีต่อเจ้า ใครสามารถเป็นพยานให้เจ้าได้? แล้วเจ้ามีหลักฐานใด? จงใจใส่ร้ายข้าด้วยปากเปล่า รอให้ลูกหานปี้ของข้ากลับมาก่อน ข้าจะให้เขาลงโทษเจ้าให้ได้!”

เรื่องมาถึงขั้นนี้ นางอู๋ทำได้เพียงเอาฉู่หานปี้มาขู่ฉู่เชียนหลี

ไม่นาน ผู้คนที่เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ก็ร้องโวยวายด้วยความโกรธ

“เจ้ายังพูดถึงปีศาจฉู่หานปี้ตัวนั้นอีกหรือ?”

“นางสามารถให้กำเนิดและเลี้ยงฉู่หานปี้เจ้าคนชั้นต่ำเช่นนั้นได้ ต้องไม่ใช่คนดีแน่!”

“แพศยา!”

นางอู๋กัดฟันแน่น เมื่อได้ยินเสียงก่นด่าจากผู้คนรอบด้าน สีหน้าก็พลันเขียวขึ้นมา หันไปตะโกนใส่ผู้คนรอบข้างด้วยความโกรธ

“พวกเจ้าหุบปาก! ลูกข้าคือท่านเซียน!”

“ถุย!”

“ช่วยคนจากอันตรายจึงเรียกว่าเป็นท่านเซียน พลังคนให้ลงไปอยู่ในเปลวเพลิวนั่นเรียกว่าปีศาจ!”

นางอู๋แทบจะจมน้ำตายโดยน้ำลายจากการถ่มถุยของชาวบ้าน จึงหันมามองฉู่เชียนหลีด้วยแววตาโกรธแค้น

“ฉู่เชียนหลี พาพวกลูกหาบของเจ้า รีบออกไปให้พ้นสายตาข้า!”

ฉู่เชียนหลียิ้มเยือดเย็น “ข้าลืมไป พวกเจ้าคนของตระกูลฉู่ ที่โดดเด่นที่สุดคือจิตใจดำมืดและหน้าที่หนาเสียยิ่งกว่ากำแพง! หากไม่มีหลักฐานที่แท้จริง เจ้าไม่มีทางยอมรับ”

นางอู๋โกรธจนหายใจหอบ ริมฝีปากที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมหน้านั้นถูกกัดจนเลือดซิก

“เจ้า... ฉู่เชียนหลี เจ้าอย่าลืมว่าข้าคือแม่เลี้ยงของเจ้า!”

“กลบเกลื่อนความผิดเสียจนต้องเอาสถานะมาคนผู้อื่นไว้หรือ? แต่น่าเสียดาย วิธีนี้ของเจ้า มันใช้ไม่ได้ผลกับข้า!”

“เจ้าไม่ยอมรับข้า เช่นนั้นเจ้าก็คงคิดจะตีตัวออกหากจากตระกูลฉู่ ตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเราใช่หรือไม่?” นางอู๋จ้องตาฉู่เชียนหลี ปากก็ชักนำให้นางพูดออกมา

ตัดขาดความสัมพันธ์แล้ว ฉู่เชียนหลีก็ไม่ใช่คนของตระกูลฉู่อีกต่อไป ดังนั้นก็ไม่มีคุณสมบัติใดมาเรียกร้องหาสินสอด

ทันใดนั้นฉู่เชียนหลีก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ดวงตาเป็นประกายมาพร้อมกับแววตาที่มองทะลุใจคน

“ข้าคือคุณหนูใหญ่ที่ถูกต้องตามทำนองครองธรรมแห่งตระกูลฉู่! เป็นบุตรีภรรยาหลวงผู้สง่าผ่าเผยแห่งจวนเฉิงเสี้ยง! สวนฝูยู่ของท่านแม่ข้ายังซ่อมแซมไม่เสร็จ ในตอนนั้นฉู่เฉิงเสี้ยงรับปากจะให้เงินห้าหมื่นตำลึงเพื่อสร้างรังนกกระเรียนก็ยังไม่สำเร็จ แล้วยังมีสินสอดจำนวนมากมายเช่นนั้นที่ยังไม่ได้คืน แล้วจะให้ข้าตัดขาดความสัมพันธ์? เจ้าฝันกลางวันหรือ!”

เจ้าของร่างเดิมของฉู่เชียนหลีคือบุตรีของภรรยาหลวงเฉิงเสี้ยง แม้ว่าอยากจะตัดขาดความสัมพันธ์ ก็จะต้องไล่นางอู๋ ฉู่หลิงเซวียนและฉู่หานปี้ออกไปก่อน!

แผนการของนางอู๋ถูกมองทะลุปรุโปร่ง ก็พลันขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความโมโห

“เจ้ามันช่างหยิ่งผยองนัก!”

ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “นางอู๋ เจ้ามาถกเถียงกับข้าตรงนี้ทุกวิถีทาง คงจะไม่ได้จงใจยื้อเวลา แอบทำอะไรบ้างเพื่อทำลายหลักฐานหรอกหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี