ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 111

สรุปบท บทที่ 111 โง่เขลาอย่างสิ้นเชิง: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

สรุปตอน บทที่ 111 โง่เขลาอย่างสิ้นเชิง – จากเรื่อง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

ตอน บทที่ 111 โง่เขลาอย่างสิ้นเชิง ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดยนักเขียน เย็นอวี่ฟังหัว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าซุนยู่จือยังมีลมหายใจอยู่ ถึงได้มองไปยังเทียนเสวียน

เทียนเสวียนตีฆ้องเสียงดังกังวานขึ้นหนึ่งครั้ง สยบกลุ่มคนที่กำลังโมโหอยู่นั้นเอาไว้ในทันที

ในกลุ่มคนที่มุงดูอยู่โดยรอบ มีจำนวนมากที่สองตาแดงก่ำ

“คุณหนูใหญ่ฉู่ พวกเราจะช่วยเจ้าตีนังสารเลวปลาบปลื้มยู่จือนี่ให้ตายเสีย เพื่อแก้แค้นให้กับท่านแม่ทัพซูหมิน!”

“ถูกต้อง เจ้าใจดีมีเมตตาไม่อยากลงมือ พวกเราจะไม่ปล่อยนางแน่!”

“นั่นน่ะสิ ตีนางให้ตาย แล้วพวกเราค่อยไปขอรับโทษที่ศาลปกครอง!”

ท่านแม่ทัพซูหมินเป็นเทพสงครามในใจของพวกเขา รักษาความสงบสุขให้พวกเขาเป็นเวลาหลายสิบปี มาวันนี้ เรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีอันใดให้กลัวแม้จักต้องถูกเซี่ยนตีถูกลงโทษ?

ฉู่เชียนหลีสัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองและมุ่งมั่นของทุกคน แต่ก็ยังส่ายหน้า: “พี่น้องทุกท่าน ท่านลุงใหญ่ซื่อตรงมีคุณธรรม ดวงวิญญาณของเขาที่อยู่บนสวรรค์ คงไม่อยากเห็นทุกท่านทำผิดกฎหมาย และต้องรับโทษเพื่อเขา”

“ท่านแม่ทัพใหญ่......”

ทุกคนต่างเบ้าตาแดงก่ำ มีบางคนที่ทนไม่ได้จนต้องสะอื้นเบา ๆ

“ฉู้jเชียนหลีมองไปยังซุนยู่จือ: “ซุนยู่จือ จะให้พวกเราไว้ชีวิตเจ้าก็ได้ แต่เจ้าจักต้องโขลกศีรษะคารวะท่านลุงใหญ่ร้อยครั้ง เป็นการยอมรับผิด และสำนึกผิดต่อการกระทำอันชั่วช้าของเจ้า!”

ซุนยู่จือชะงักงัน

“ทำไม ไม่ยอมงั้นหรือ?” ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วแน่น

“ไม่ ข้าโขลก ข้ายอมโขลกศีรษะ! ข้ายอมรับผิด!”

ฉู่เชียนหลีถีบซุนยู่จือ ให้นางหันหน้าไปทางทิศตะวันตก

“ท่านลุงใหญ่ของข้าตายที่ทะเลทรายโกบีเมื่อตอนทำศึกกับซีซวน ตามคำสั่งเสียของท่าน ไม่ให้เอาร่างกลับบ้านเกิด แต่ให้ฟังไว้บนสนามรบที่ท่านอุทิศทั้งชีวิตให้ และเป็นทิศทางนี้พอดี”

ยามสายัณห์ตะวันรอน ย้อมท้องฟ้าทางฝั่งทิศตะวันตกไปครึ่งแผ่นฟ้า สีแดงสวยสดเสมือนดั่งคราบโลหิตที่จับตัวกันเป็นก้อน

ซุนยู่จือคุกเข่าลงด้วยร่างกายที่สั่นเทา มองดูนภาที่ถูกย้อมด้วยสีเลือด ไม่รู้เพราะเหตุใดตนถึงได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

ฉู่เชียนหลีทำเสียงเย้ยหยัน: “พูด ในปีนั้น เจ้าได้ทำอะไรกับท่านลุงใหญ่บ้าง?”

“ข้า......” ซุนยู่จืออ้อม ๆ แอ้ม ๆ ผ่านไปครึ่งค่อนวันก็ไม่กล้าพูดออกมา

ถ้าหากกล่าวออกมาแล้ว ไม่เกินหนึ่งวัน เรื่องที่นางทำก็จะต้องถูกผู้คนตงเสวียนรับรู้

“รีบพูด!” มีชาวบ้านได้ยกหินในมือขึ้นข่มขู่เร่งเร้า “ถ้าไม่พูดพวกเราจะใช้หินคว้างเจ้าให้ตายก่อนแล้วค่อยไปขอรับโทษกับท่านแม่ทัพซูหมิน!”

“ข้า......ก่อนที่ข้าจะแต่งให้เขาก็ได้แอบมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นแล้ว ต่อมาจึงได้ตั้งท้อง และภายใต้ความช่วยเหลือของท่านแม่ จึงได้ให้ร้ายท่านแม่ทัพซูหมิน......จากนั้น......”

ซุนยู่จือได้เล่าความผิดของตนออกมาทั้งหมด เมื่อชาวบ้านที่อยู่โดยรอบได้ยินเช่นนั้นไฟโมโห และความโกรธแค้นก็ได้ลุกโชนขึ้นมา

นังอสรพิษผู้นี้ ได้ทำลายท่านแม่ทัพซูหมินผู้ที่มีผลงานรบที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรด้วยสิ้นเชิง ทำลายเทพสงครามแห่งยุคผู้ซึ่งอยู่ในหัวใจของพวกเขา!

“นังอสรพิษ! นังสารเลว!”

ความพยาบาทที่โหมกระหน่ำเข้ามาจากรอบด้านนั้นรุนแรงเกินไป ทำให้ซุนปลาบปลื้มจือตัวสั่นเหมือนกับตะแกรงร่อนทราย แทบจะคุกเข่าอยู่ไม่ไหว

ฉู่เชียนหลีเย้ยหยัน: “โขลกศีรษะ!”

“ข้าโขลก ข้าโขลก!”

ซุนยู่จือพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะคลานลุกขึ้น และโขลกศีรษะหันหน้าไปยังทางทิศตะวันตก

“ปัก!”

โขลกไปได้หลายครั้ง หน้าฝากของซุนยู่จือก็โขลกจนมีเลือดไหลออกมา แต่นางก็ไม่กล้าที่จะหยุดเลยแม้แต่น้อย

“ยี่สิบ สามสิบ......”

ชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ ต่างนับขึ้นมาพร้อม ๆ กัน และจ้องซุนยู่จืออย่างไม่ละสายตา ทำให้นางไม่กล้าเผชิญหน้า และทำแบบขอไปทีเลยสักนิด

เมื่อโขลกศีรษะครบหนึ่งร้อยครั้ง ใบหน้าของซุนยู่จือเต็มไปด้วยคราบเลือด ส่วนหน้าฝากนั้นไหลอาบไปด้วยเลือด

นางนึกว่าตนเองจะสลบไป แต่เหนือความคาดหมาย นางกลับรู้สึกตัวดีอย่างไม่คาดคิด

“ฉู่เชียนหลี ข้า......ข้าโขลกศีรษะเสร็จแล้ว ที่เจ้าพูดมานั้นนับหรือไม่?”

ฉู่เชียนหลียืนยืดอกหลังตรง ในน้ำเสียงอันเย็นชาไม่มีความรู้สึกปะปนอยู่เลย

“ตอนมีชีวิตอยู่ท่านลุงใหญ่ของข้าถูกวางแผนลอบทำร้าย เมื่อตายไปแล้วจักต้องไม่อยากมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับสตรีชั่วช้าอย่างเจ้าแน่ ดังนั้น......”

“เชียนหลี......”

ทันใดนั้นเอง เสียงที่ค่อนข้างอ่อนแรงก็ได้ดังลอยมา

ฉู่เชียนหลีรู้สึกตะลึงอยู่ภายในใจ และรีบหันหลังไปดูทันที: “ท่านลุง ทานมาได้อย่างไร?”

ซูยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น ถูกเข็นใกล้เข้ามาโดยซูจิ่นจืออย่างช้า ๆ

“เชียนหลี” ซูยี่มองดูใบหน้าที่ซีดเซียวของฉู่เชียนหลี หยดน้ำตารวมตัวกันขึ้นที่ขอบตา “ลุงขอโทษ เดิมควรจะเป็นเรื่องของลุง กลับทำให้สตรีตัวเล็ก ๆ อย่างเจ้าต้องมาแบกรับมัน”

ฉู่เชียนหลีส่ายศีรษะ: “ท่านลุงพูดอะไรกันคะ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ซุนยู่จือทำร้ายท่านลุงใหญ่ของหลาน หลานจักต้องให้นางยอมรับผิด”

ซุนยี่ขยับล้อเก้าอี้รถเข็นขึ้นมาด้านหน้า ในดวงตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มและประทับใจ: “เด็กดี เรื่องที่เหลือ ให้ลุงจัดการเอง”

ฉู่เชียนหลีอ้าปากเล็กน้อย เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง กลับเห็นเฟิ่งเสวียนตู้เดินขึ้นมา และจับเข้าที่ข้อมือของนางเบา ๆ

“พักผ่อนก่อนเถอะนะ”

ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วเตรียมจะเดินหน้าเข้าไป กลับถูกเฟิ่งเสวียนตู้ดึงเอาไว้

“เชียนหลี ไม่เป็นไร พักผ่อนต่อเถอะ”

ฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางสงบนุ่งของเฟิ่งเสวียนตู้ นางก็เม้มปากลงหยุดอยู่ที่เดิม

ซุนยู่จือหัวเราะอย่างพอใจ ใบหน้าซีดขาวดูบ้าคลั่ง แปลกประหลาด

“ซุนยู่จือ!”

เสียงตวาดดังขึ้น คนของศาลปกครองได้มาถึง และปิดล้อมนางเอาไว้ทันที

เจ้ากรมจวนชุ่นเทียนเดินออกมาด้านหน้า และทำความเคารพต่อซูยี่อย่างนอบน้อม: “ข้าน้อยคารวะใต้เท้าซู”

“ใต้เท้าหลิวเกรงใจไปแล้ว”

เจ้ากรมจวนชุ่นเทียนมองไปยังซุนยู่จือ ในแววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง: “ทหาร ควบนังอสรพิษซุนยู่จือ ไปขังไว้ในคุก เพื่อรอการตัดสินโทษ”

ซุนยู่จือเงยหน้าขึ้นมาในฉบับพลันทันที ตะลึงงันไปโดยสิ้นเชิง

“เหตุใดถึงจับข้า ไม่มีหลักฐานแล้ว ข้าทำความผิดอันใดเล่า?”

ซูยี่ตอบกลับอย่างเยือกเย็น: “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าได้รับผิดกับตัวเองแล้ว?”

“ไม่ นั่นไม่ใช่คำพูดจากใจจริงของข้า เป็นฝีมือของเจ้าและฉู่เชียนหลี ที่วางแผนให้ข้าพูดออกไปเช่นนั้น”

เจ้ากรมจวนชุ่นเทียนตวาดอย่างเยือกเย็น: “บังอาจ มีอะไร พอถึงคุกแล้วค่อยพูด”

ซุนยู่จือดิ้นอย่างสุดกำลัง: “ปล่อยข้า!”

ฉู่เชียนหลีเดินขึ้นมาด้านหน้าอย่างช้า ๆ มายืนอยู่ที่ด้านข้างซูยี่ แล้วกล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชา: “ซุนยู่จือ เดิมข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนฉลาด กลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเยี่ยงนี้!”

ซุนยู่จือกรีดร้องเสียงแหลม: “ฉู่เชียนหลี เจ้าคงจะโมโหมากเลยสินะ เจ้าคิดไม่ถึงว่า ข้าจะตอบโต้กลับได้ เข้าคุกแล้วอย่างไรล่ะ? ไม่มีหลักฐาน ข้าก็ยังคงต้องถูกปล่อยตัวออกมาเช่นเดิม ฮ่า ๆ ๆ !”

ฉู่เซียนหลียิ้มเยาะ: “นังโง่ ไม่มีอันตรายจากหลักฐานพวกนั้น เจ้าว่าตอนนี้มีผู้คนมากมายแค่ไหนที่อยากจะฆ่าเจ้า ปิดปากเจ้าโดยสิ้นเชิง?”

รอยยิ้มบนใบหน้าของซุนยู่จือแข็งทื่อไปในทันที: “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“ไม่มีหลักฐานตายพวกนั้นแล้ว ก็ยังมีหลักฐานที่มีชีวิตอย่างเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ?”

“ข้า......ข้าไม่มีทางพูดแน่ ข้าไม่ได้ทำผิดอะไร ข้าจะไม่มีทางยอมรับแน่!”

นางไม่มีทางขายที่พึ่งที่มีความสัมพันธ์กับนางแน่ นางยังต้องรอให้พวกคนเหล่านั้นช่วยนาง และสร้างความสัมพันธ์กับเหลาจู่ที่อยู่เบื้องหลังฉู่หานปี้ต่อไป

“แล้วตลอดทางที่เดินมาในเมื่อสักครู่ คนที่เปิดเผยเรื่องราวอื้อฉาวเหล่านั้นออกมาเป็นใครกันเล่า?” ฉู่เชียนหลีเย้ยหยัน: “พวกเขายังเชื่อใจเจ้าอยู่มากน้อยเพียงใด? หรือพูดอีกนัยหนึ่ง ยอมที่จะฆ่าผิดคน ก็จะไม่ปล่อยให้ลอยนวน คนเยี่ยงเจ้า คงจะเข้าใจการกระทำเช่นนี้สินะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี