อ่านสรุป บทที่ 112 ครอบครัวร่วมแรงร่วมใจ ย่อมเอาชนะทุกอย่างได้ จาก ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว
บทที่ บทที่ 112 ครอบครัวร่วมแรงร่วมใจ ย่อมเอาชนะทุกอย่างได้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ซุนยู่จือเบิกตาโพลง ทุกส่วนของร่างกายถูกความหวาดกลัวครอบงำเอาไว้
นางต้องการช่วยตนเอง แต่กลับเหมือนได้ตัดทางรอดทั้งหมดไป?
“ข้า......”
ฉู่เชียนหลีเดินขึ้นมาด้านหน้าและเข็นเก้าอี้รถเข็นของซูอี้: “ท่านลุงคะ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
“ดี”
ซุนยู่จือถูกพลตระเวนควบคุมตัวเอาไว้ แต่จู่ ๆ ก็ออกแรงจะพุ่งเข้าหาฉู่เชียนหลีอย่างบ้าคลั่ง
“ฉู่เชียนหลี ซูอี้ ตระกูลซูยึดมั่นในความเป็นธรรมที่สุด พวกเจ้ารับปากจะไม่ฆ่าข้า ก็จะต้องคุ้มครองชีวิตข้า!”
เมื่อชาวบ้านที่อยู่โดยรอบได้ยินเช่นนี้ ก็เกือบจะอาเจียนเพราะความหน้าด้านของซุนยู่จือ
นังอสรพิษผู้นี้มีหน้าพูดออกมาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
“ถุย! คนอย่างเจ้า ควรที่จะถูกสับออกเป็นชิ้น ๆ กลายเป็นเถ้าถ่าน!”
“ใต้เท้าซู คุณหนูใหญ่ อย่าได้สนใจนังอสรพิษนี่เลย!”
ฉู่เชียนหลีหยุดฝีเท้าลง และหันหลังกลับไปมองดูซุนยู่จืออย่างเย็นชา
“เจ้าจะมีชีวิตอยู่แน่”
เพียงแต่ ไม่นานเจ้าจะต้องเสียใจที่มีชีวิตอยู่ต่อไป......
ซุนยู่จือถูกทหารของจวนชุ่นเทียนพาตัวออกไป
ฉู่เชียนหลีหันไปทางทหารรักษาพระองค์ที่ฮ่องเต้ส่งมา
“พวกท่านกลับไปรอที่จวนตระกูลซูก่อน”
“ขอรับ” หัวหน้าทหารรักษาพระองค์รับคำสั่งและถอยออกไป
ฉู่เชียนหลีส่งซูที่ไปยังข้างรถม้า
“ท่านลุงคะ หลานต้องเข้าวังหน่อย ท่านและท่านผู้พี่กลับไปรอข้าที่บ้านก่อน”
ซูยี่ส่ายศีรษะ: “เชียนหลี ลุงจะเข้าไปวังพร้อมกับเจ้า”
ซูจิ่นจือเองก็เอ่ยตามอย่างติด ๆ : “ข้าไปด้วย น้องเชียนหลี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราครอบครัวเดียวกันก็ควรเผชิญหน้าด้วยกัน!”
ฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อย
ในตอนนี้เอง เซินเป่าก็ได้นั่งวิหคหิมะเข้ามา
“ท่านแม่ เซินเป่าก็จะไปด้วย”
เซินเป่ากระโดดลงมาจากหลังเจ้าขาว และดึงแขนเสื้อของฉู่เชียนหลีเอาไว้แน่น
ท่านปู่ใหญ่บอกว่า ท่านแม่ก่อเรื่องใหญ่แบบนี้ ฮ่องเต้จักต้องโมโหแน่ ไม่แน่อาจจะลงโทษท่านแม่ก็ได้ เข้าจะไม่ยอมหรอกนะ!
ฉู่เชียนหลีลูบศีรษะเล็ก ๆ ของเซินเป่าเบา ๆ และมองไปยังซูยี่และซูจิ่นจือที่มีสีหน้าเคร่งเครียด จู่ ๆ ก็หัวเราออกมา
“ท่านลุง ท่านผู้พี่ ข้าเข้าวังไปรับรางวัล ทำไมพวกท่านถึงมีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นนี้เล่า?”
“รับรางวัล?” ซูอี้ชะงักงั้น “เชียนหลี เจ้าอย่าโกหกพวกเราเลย องค์ชายสามเป็นลูกชายแท้ ๆ ของฝ่าบาท ชำนาญในการบิดเบียนความเท็จจริงที่สุด......”
ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างสดใส: “วางใจเถอะ ท่านลุง ไม่มีอะไรจริง ๆ เซินเป่าก็เช่นกัน ลูกกลับไปกับท่านปู่ใหญ่ เอาเนื้อไก่ขนม่วงออกมา คิดจะมอบให้ท่านปู่ใหญ่มาตลอดไม่ใช่กหรือ?”
เซินเป่ากะพริบตาปริบ ๆ อย่างเป็นห่วง: “ท่านแม่ ไม่ต้องให้เซินเป่าช่วยจริง ๆ หรือขอรับ?”
“เจ้ายังไม่ทราบฝีมือทองท่านแม่อีกหรือ?”
“ขอรับ เซินเป่าเชื่อใจท่านแม่”
“ดี เช่นนั้นก็กลับไปก่อนเถอะ”
ฉู่เชียนหลีมองไปยังเฟิ่งเสวียนตู้ และกำลังจะเอ่ยขึ้น กลับเห็นเขาก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว
“ข้าไปกับเจ้า”
“เช่นนั้นก็ได้”
รอจนฉู่เชียนหลีและเฟิ่งเสวียนตู้จากไป บนใบหน้าของซูยี่ก็ยังมีความกังวลอยู่เช่นเดิม
เซินเป่าหันกลับไป และดึงกระเป๋าผ้าเล็ก ๆ ที่อยู่บนเสื้อของตัวเองให้เปิดออก ตัวต่อร่างแดงสองตัวที่ขดเป็นก้อนสองตัวได้บินออกมา
หลังจากที่ผ่านการชำระล้างด้วยพลังทิพย์ พวกมันไม่เพียงตัวใหญ่ขึ้นมาหนึ่งเท่าตัว แม้แต่หางเข็มก็ดำขึ้นมา และแหลมคมยิ่งกว่าเดิม มีวงแหวนสีทองอยู่บริเวณท้อง บินได้เร็วยิ่งขึ้นแต่กลับไร้สุ้มเสียง
เซินเบาพึมพำเบา ๆ : “พวกเจ้าแอบตามท่านแม่ไป ถ้าหากมีใครคิดทำร้ายนาง ก็ต่อยพวกคนเลวนั่นให้ตายเสีย!”
“หึ่ง ๆ !”
“ไอ้หยา บินเงียบ ๆ ไม่เอาเสียงหึ่ง ๆ”
ตัวต่อร่างแดงสองตัวรีบบินขึ้นลงทันที จากนั้นก็ตามฉู่เชียนหลีไปติด ๆ พวกมันบินอย่างรวดเร็ว ภายใต้แสงสาดส่องอันเจิดจรัสของพระอาทิตย์ ยากที่ผู้คนจะจับร่องรอยได้ด้วยสายตา
ซูยี่และซูจิ่นจือตะลึงงัน
“ซินเป่า......”
เซินเป่าโดนจับได้ ก็ทำแกล้มป่องอย่างเขินอายขึ้นมาทันที และใช้มือกุมปิดกระเป๋าผ้าใบเล็กที่สะพายอยู่เอาไว้แน่
ฉู่เชียนหลีพยักหน้า และเรียกทหารรับให้ที่อยู่ด้านหน้าประตูให้มายกหีบใบนี้ทันที
“เช่นนั้นข้าจะเข้าวังไปก่อนล่ะ เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ แล้วพวกเราค่อยกลับบ้านด้วยกัน”
“......ได้”
ในพระราชวัง หยุนชิงกุยคุกเข่าอยู่กลางท้องพระโรง เลือดอาบเต็มตัว ใบหน้าซีดเซียว แผลของเขาได้ถูกหมอหลวงทำแผลให้อย่างง่าย ๆ มาแล้ว ตอนนี้ยิ่งเจ็บบาดใจกว่าเดิม
เกาหลินเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว และกล่าวรายงานอย่างนอบน้อม: “ฝ่าปาท คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
บนราชบัลลังก์ องค์จักรพรรดิที่หลับตามาตลอดก็ได้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
“เรียกนางเข้ามา”
“พะย่ะค่ะ”
ฉู่เชียนหลีเดินเข้าประตู นางโค้งตัวคารวะเล็กน้อย: “เชียนหลี น้อมพบฝ่าบาท”
“พวกแล้วอย่างไร ว่าไม่ต้องมากพิธี เกาหลิน ประทานที่นั่ง”
เมื่อเห็นท่าทางของฉู่เชียนหลี เห็นได้ชัดว่าสายตาของฮ่องเต้นั้นอ่อนโยนลงเล็กน้อย
ฉู่เชียนหลีและฉู่หานปี้นั้นเหมือนกัน ต่างก็เป็นผู้ฝึกตน และยิ่งมีฝีมือที่สูงกว่า แต่กลับไม่ได้ยโสโอหังเหมือนกับฉู่หานปี้ ยังรู้จักเคารพเขา ตรงจุดนี้นั้นทำให้เขาพอใจยิ่งนัก
เกาหลินยกเก้าอี้มาให้ด้วยตนเอง ฉู่เชียนหลีพยักหน้าแทนคำขอบคุณ จากนั้นก็นั่งลง และมองไปยังองค์ชายสามที่อยู่บนพื้น
“ฝ่าบาท อาการบาดเจ็บขององค์ชายสาม......”
“ข้าทราบ เป็นฝีมือของนักฆ่า ยังต้องขอบคุณเจ้าและซูยี่ ที่ช่วยลูกชายไม่เอาไหนคนนี้ของข้าเอาไว้” ฮ่องเต้แววตาลึกซึ้งเล็กน้อย
นอกเมือง ฉู่หานปี้ได้วางค่ายกลตัวต่อร่างแดง ในเมือง หยุนชิงกุยก็ได้ลงมือกับซูยี่ ถ้าหากบอกว่าทั้งสองไม่ได้แอบสื่อสารกันอยู่ แม้แต่เด็กสามขวบก็ยังไม่เชื่อ
ดังนั้น บาดแผลบนร่างกายของหยุนชิงกุยแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของนักฆ่า หรือการเอาคืนจากฉู่เชียนหลีกันแน่นั้น เขาก็ไม่คิดที่จะตามเอาผิด
ฉู่เชียนหลียิ้มขึ้นมา: “ฝ่าบาทเกรงใจเกินไปแล้ว”
พูดคุยกับคนฉลาด ก็จะสบายหน่อย
ร่องรอยของความตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อแวบผ่านไปในดวงตาของหยุนชิงกุย เสด็จพ่อไม่คิดที่จะเข้าข้างเขาเลยสักนิด?
ไม่ ไม่ได้!
เขาจะไม่ปล่อยฉู่เชียนหลีไปแน่!
“เสด็จพ่อ บาดแผลบนร่างกายของลูก เป็นฝีมือของฉู่เชียนหลี นางยังบังคับให้ลูกลงถนน ทำให้ลูกอับอายขายหน้า! เสด็จพ่อ บุตรชายของท่านมีมากมาย จะไม่สนใจลูกก็ได้ แต่ฉู่เชียนหลีมีใจไม่เคารพราชวงศ์ ท่านก็ไม่ใส่ใจหรือ?”
สายตาของฉู่เชียนหลีเคลื่อนไหวเล็กน้อย ความเย้ยหยันแวบผ่านไปในหัวใจ: หยุนชิงกุย เหตุใดต้องเรียกหาความอัปยศให้ตนเองด้วยเล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...