ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 116

สรุปบท บทที่ 116 คนเก่งจริงไม่เอาเรื่องเก่ามาพูด: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

สรุปตอน บทที่ 116 คนเก่งจริงไม่เอาเรื่องเก่ามาพูด – จากเรื่อง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

ตอน บทที่ 116 คนเก่งจริงไม่เอาเรื่องเก่ามาพูด ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดยนักเขียน เย็นอวี่ฟังหัว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เฟิ่งเสวียนตู้มาที่เรือนด้านหน้า ก็ได้เห็นผู้อาวุโสใหญ่กำลังเผชิญหน้ากับซูยี่และซูจิ่นจืออยู่

ในเวลานี้ เซินเป่าขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของซูยี่ จับแขนเสื้อของเขาเอาไว้แน่น มีท่าทางลำบากใจ

ส่วนซูจื่นจือนั้นคอยคุ้มกันอยู่ที่ด้านข้างซูยี่ ท่าทางเคร่งเครียด

ผู้อาวุโสใหญ่ยืดคอ หน้าแดง ท่าทางโกรธมาก

เฟิ่งเสวียนตู้ตกตะลึงอยู่ในใจ เชียนหลีให้ความสำคัญกับซูยี่และซูจิ่นจือเป็นอย่างมาก ถ้าหากผู้อาวุโสใหญ่ทะเลาะกันกับพวกเขาตั้งแต่เข้ามา ต่อไป......

เขายังไม่ทันที่จะคิดเสร็จ ก็ได้ยินผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยขึ้นมาด้วยความโมโห

“ให้คุณชายน้อยขี่คอข้า จะต้องไม่มีปัญหาอะไรแน่ พวกเจ้าอย่าเห็นว่าแม้ข้าจะอายุมากแล้ว แต่ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก แม้ต้องแบกคุณชายน้อยเซินเป่าสักสองชั่วยามก็จะไม่หายใจเลยสักนิด”

เทียนชูและเทียนเสวียนมีสีหน้ายากที่จะอธิบายได้: ผู้อาวุโสใหญ่ อยู่ในโลกธุลี ไม่หายใจไม่ได้นะ!

ซุนยี่ยังคงยับยั้งอย่างหนักแน่น: “ท่านผู้เฒ่า ท่านอายุมากแล้ว ถ้าเกิดเอวเคล็ดขึ้นมา......”

“ข้าไม่มีเอว!”

เพื่อแบกเจ้าลูกหงส์ตัวจ้อย ยังจะไปสนใจเอวอีกทำไมกัน?

ซูยี่ยิ้มไม่ออกร้องไห้ไม่ได้: “ท่านผู้เฒ่า ที่สำคัญคือเซินเป่าไม่ยอม”

ผู้อาวุโสใหญ่พลันตัวแข็งอยู่กับที่ ราวกับได้ถูกอะไรบางอย่างกระแทกเข้าอย่างหนัก

“คุณชายน้อยเซินเป่า......”

เซินเป่าแอบกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เมื่อนึกถึงที่ท่านแม่สอนให้เคารพคนชราและรักผู้เยาว์ จึงได้คานลงมาตามหัวเข่าของซูยี่ และเข้าไปจับมือของผู้อาวุโสใหญ่เอาไว้

“เจ้าปู่ เซินเป่าชอบเดินเอง เซินเป่าจูงท่าน พวกเราไปเดินเล่นด้วยกันดีไหม?”

ให้เขาขี่คอเล่นอย่างเลยจะดีกว่า เขากลัวว่าตนเองจะทับเจ้าปู่พัง

“ดี ดีสิ!”

มือเล็ก ๆ ของเจ้าลูกหงส์ตัวจ้อย ทั้งอ่อนทั้งนิ่ม และยังมีนิ้วห้านิ้ว ช่างสวยเสียนี่กระไร

เฟิ่งเสวียนตู้วางใจลง ไม่ได้ทะเลาะกันขึ้นมาจริง ๆ ก็ดี

เมื่อฉู่เชียนหลีตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าก็ได้สว่างแล้ว นางเหยียดคร้านเตรียมที่จะลุกขึ้น ก็พบว่าเซินเป่ากำลังเดินย่องเข้ามาข้างใน

“เซินเป่า?”

ทำไมมีท่าทางเหมือนโจรย่องเบาเลยล่ะ?

“ท่านแม่ ตื่นแล้วหรือขอรับ” เซินเป่ารีบวิ่งเข้ามา และคลานขึ้นบนเตียง แล้วขดตัวเข้าสู่อ้อมอกของฉู่เชียนหลี

“เป็นอะไรไปหรือ?”

“ข้ากำลังแอบเจ้าปู่เฟิ่งอยู่ขอรับ”

“เจ้าปู่เฟิ่ง ท่านผู้เฒ่าเมื่อวานคนนั้นหรือ?”

“ขอรับ ท่านแม่ ข้าคิดว่าท่านปู่เฟิ่งเป็นไส้ศึกขอรับ”

ฉู่เชียนหลีหัวเราะเบา ๆ : “ทำไมเจ้าถึงรู้สึกเช่นนั้นเราเล่า?”

คนของเจ้าขี้เหร่ จะเป็นไส้ศึกได้อย่างไรกัน

“วันนี้เซินเป่าเพิ่งตื่นขึ้นมา เจ้าปู่เฟิ่งบอกว่า เป็นเด็กจะต้องนอนให้มาก ๆ นอนเร็วตื่นสายร่างกายถึงจะแข็งแรง”

“มันไม่มีปัญหาอะไรไม่ใช่หรือ?”

“เริ่มแรกข้าเองก็คิดเช่นนั้น แต่ข้าได้ไปหาท่านปู่ใหญ่ และอ่านหนังสือเป็นเพื่อนเขา แล้วอ่านเจอคำว่าถ่อมตัว ข้าเลยได้ถามท่านปู่ใหญ่ไปว่าหมายความว่าอย่างไร ท่านปู่ใหญ่บอกว่า หมายถึงจะต้องมีจิตใจอ่อนน้อมถ่อมตน ยกตัวอย่างเช่นคนอื่นชมว่าเซินเป่าน่ารัก เซินเป่าก็จะต้องบอกว่าไม่หรอก”

ฉู่เชียนหลีพยักหน้า: “ท่านปู่ใหญ่ของลูกพูดถูก หมายความเช่นนั้นจริง”

“เซินเป่าเองก็คิดว่าไม่ผิด แต่ว่าก็ได้สงสัยอย่างอื่นด้วย เลยถามท่านปูใหญ่ไปว่า แล้วถ้าหากคนอื่นบอกว่าเซินเป่าไม่น่ารักล่ะ? จากนั้นเจ้าปู่เฟิ่งก็ได้บอกว่า ให้ฆ่าพวกเขาทั้งครอบครัวเสีย!”

ฉู่เชียนหลีสำลัก เงยหน้าขึ้นมองเฟิ่งเสวียนตู้ที่กำลังเดินเข้ามา

เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งเสวียนตู้เองก็ได้ยินที่เซินเป่าพูดเช่นเดียวกัน เขาเดินเข้ามาแล้วอุ้มเซินเป่า

“เซินเป่าเจ้าปู่เฟิ่ง เป็นผู้อาวุโสของอาขี้เหร่ เขาไม่ใช่ไส้ศึกหรอกนะ”

เซินเป่ากะพริบตาอย่างงุนงง: “เจ้าปู่เฟิ่งไม่ได้จงใจสอนสิ่งไม่ดีให้กับเซินเป่าหรอกหรือขอรับ?”

เซินเป่าไม่อยากกลายเป็นเด็กไม่ดี แบบนั้นท่านแม่จะเสียใจเอา

“ไม่ใช่หรอก”

“เฮ้อ เช่นนั้นเซินเป่าก็วางใจแล้ว” เซินเป่าตบหน้าอกเล็ก ๆ เบา ๆ “เจ้าปู่เฟิ่งบอกว่าจะพาเซินเป่าไปเก็บเจ้าน้องโสมคน เช่นนั้นเซินเป่าไปนะ”

“ไปเถอะ”

ฉู่เชียนหลีมองไปยังเฟิ่งเสวียนตู้: “เจ้ามั่นใจเหรอว่าลุงเฟิ่งไม่มีปัญหาอะไร?”

“นอกจากจะตามใจและรักเด็กเป็นพิเศษแล้ว อย่างอื่นล้วนไม่เลว”

“พยุงข้าลุกขึ้น และไปเดินเล่นสักรอบ”

เฟิ่งเสวียนตู้ตัดสินใจอย่างลับ ๆ : “รอผู้อาวุโสใหญ่กลับมาจะต้องบอกเขาว่า ต่อไปห้ามทำอาหารเยอะแบบนี้อีก

เทียนชูเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน: “คุณชาย คุณหนูใหญ่ จวนองค์ชายสามเกิดเรื่องแล้วขอรับ”

ฉู่เชียนหลีมือข้างหนึ่งพยุงเอว และเงยหน้ามองไปดู: “หยุนชิงกุยถูกฝ่าบาทกักบริเวณแล้วไม่ใช่หรือ? หรือว่าทนรับไม่ได้เลยฆ่าตัวตาย?”

“ไม่ใช่ขอรับ ได้ยินว่า หลังจากที่ฝ่าบาทมีคำสั่งให้องค์ชายสามปิดจวนรักษาร่างกาย ก็โมโหเป็นอย่างมาก เพราะเหตุนี้จึงได้จึงได้ก่อนด่าสาปแช่งอยู่ภายในจวน จึงได้ถูกเถาวัลย์สีเขียวที่ไม่รู้ชื่อมัดตัว และมัดติดไว้กับคาน เฆี่ยนตีอยู่ทั้งคืน”

ฉู่เชียนหลีหันไปมองเจ้าชมพูเถาวัลย์โลหิตที่ล้อมรอบสวนโสมอยู่

เจ้าชมพูบิดร่างกายไปมาอย่างช้า ๆ หดตัวกลับไปยังใต้ดิน สุดท้ายเหลือให้เห็นแค่เพียงใบไม่สีเขียวสองใบ โยกซ้ายโยกขวาดั่งทานตะวัน

ไม่เกี่ยวกับเจ้าชมพู เจ้าชมพูเป็นแค่หญ้าต้นหนึ่ง หญ้าจะไปรู้อะไรล่ะ?

หญ้าไม่รู้อะไรเลย! หญ้าไม่มีแม้แต่สมอง!

เฟิ่งเสวียนตู้กระแอมเบา ๆ กดความรู้สึกขบขันที่อยู่ในดวงตาเอาไว้

ได้รู้ว่าหยุนชิงกุยนั่นมีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เขาก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว แน่นอน ในฐานะตี้จวินหงส์ ในตอนที่มีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นได้รับเคราะห์ จะแสดงออกมาอย่างแจ่มแจ้งไม่ได้

“เชียนหลี ข่าวลือได้บอกแล้วว่า เป็นเถาวัลย์สีเขียวที่ไม่รู้ชื่อ ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าชมพู”

เจ้าชมพูร่าเริงขึ้นมาทันที ใบไม้เตะลงไปที่พื้นอย่างเต็มที่

ฉู่เชียนหลียกมือขึ้นนวดขมับเบา ๆ มาถึงที่ข้างสวนโสม และยื่นมือออกไปดึงเถาวัลย์ของเจ้าชมพู ดึงออกมาได้หลายเมตรอย่างง่ายดาย

“ตอนนี้แม้แต่จวนองค์ชายสามเจ้าก็ไปได้แล้ว?”

เจ้าชมพูได้รับผลกระทบจากพลังทิพย์ของตน จึงเจริญงอกงามขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ดีที่มันเชื่อฟังเซินเป่า เมื่อมาถึงตระกูลซูก็ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ

เจ้าชมพูยื่นใบออกมา และถูไถปลายนิ้วของฉู่เชียนหลีเบา ๆ

เจ้าคนเลวนั่น สมควรโดนเฆี่ยน!

ฉู่เชียนหลีไม่สามารถสื่อสารกับเจ้าชมพู แต่ความคิดของมันนั้นเดาง่ายมาก จะต้องยังคิดที่จะแก้แค้นอยู่แน่

“ตัวเป็นเถาวัลย์ ก็จะต้องรักษากฎเกณฑ์ ต่อไปมีเวลาก็ไปเรียนกับโม่เฟิง ไม่ว่าเวลาใด ก็จะทำตามอำเภอใจไม่ได้ และห้ามทำร้ายผู้อื่นอย่างไร้เหตุผล”

ผู้บำเพ็ญตนไม่เชื่อเทพเจ้า แต่เชื่อในเหตุและผล ในเมื่อเจ้าชมพูได้รับการเลี้ยงดูจากพลังทิพย์ของนาง เช่นนั้นก็จะต้องทำตามกฎของนาง

เจ้าชมพูรีบพยักใบทันที และเก็บเถาวัลย์กลับไปอย่างว่าง่าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี