ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 117

สรุปบท บทที่ 117 หมัดใหญ่ถึงจะเป็นเหตุผลอันแข็งแกร่ง: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

อ่านสรุป บทที่ 117 หมัดใหญ่ถึงจะเป็นเหตุผลอันแข็งแกร่ง จาก ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

บทที่ บทที่ 117 หมัดใหญ่ถึงจะเป็นเหตุผลอันแข็งแกร่ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ครึ่งชั่วยามหลังจากนั้น ในที่สุดฉู่เชียนหลีก็ย่อยอาหาร ไม่รู้สึกอิ่มเกินไปอีกแล้ว และเตรียมจะไปพักผ่อน ก็ได้เห็นเซินเป่าวิ่งเข้ามาอย่างมีความสุขพร้อมกับแบกสัมภาระเล็ก ๆ เอาไว้บนหลัง

“ท่านแม่ท่านแม่!”

“ทำไมถึงได้มีความสุขเช่นนี้ หรือว่าขุดหาเจ้าน้องโสมต้นใหม่ได้แล้ว?”

พูดถึงเรื่องนี้ หลังจากที่ได้ทานไก่ขนม่วงตัวนั้นแล้ว มาทานอาหารธรรมดา แม้ว่าจะอร่อยเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป

ฉู่เชียนหลีคิดอย่างใจลอย ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ฉู่หานปี้จะส่งวัตถุดิบมาให้นางอีกครั้ง?

เซินเป่าพยักหน้าอย่างมีความสุขในทันที: “ท่านแม่ ท่านดูสิ เจ้าปู่เฟิ่งพาข้าออกไปนอกเมือง ในป่านอกเมืองมีโสมคนอยู่มากมายเลยล่ะ!”

ฉู่เชียนหลีมองไปยังกระเป๋าสัมภาระเล็ก ๆ ที่อยู่บนหลังเซินเป่าอย่างสนอกสนใจ ที่นอกเมืองมีโสมคนหรือ?

“ท่านแม่รีบดูสิ อันไหนเหมาะที่จะเป็นน้องชาย?”

กล่าวไปเซินเป่าก็เปิดสัมภาระเล็ก ๆ ออก ในนั้นวางไปด้วยโสมคนสิบกว่าต้นอย่างเป็นระเบียบ แดงส้มเหลืองเขียวเขียวแก่น้ำเงินม่วงมากมายหลากสีสัน

ฉู่เชียนหลีตะลึงงัน นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้ว่า โสมคน สามารถมีสีสันที่หลากหลายได้เช่นนี้

“พวกนี้......”

เซินเป่าเกาศีรษะเล็ก ๆ : “สีสันแปลกประหลาดจริง ๆ เซินเป่าเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน”

เฟิ่งเสวียนตู้เดินออกมาด้านหน้า มุมปากขยับเล็กน้อย

“โสมคนพวกนี้มีพิษที่แตกต่างกันออกไป มีเพียงสีเขียวต้นนี้ มีชื่อว่าโสมชิงเหยียน เป็นโสมที่สามารถทานได้”

ปกติแล้วผู้อาวุโสใหญ่ก็ชอบเก็บรวบรวมของแปลก ๆ พวกนี้ โสมคนหลากสีเหล่านี้ล้วนเติบโตอยู่ในซ่างอวี้

เซินเป่าเบิกตาโพลง: “มีพิษหรือ ท่านแม่ มีพิษเป็นน้องชายได้หรือไม่? ข้าไม่รังเกียจที่น้องชายมีพิษหรอกนะขอรับ”

ฉู่เชียนหลีมองดูสีสันของโสมคนพวกนั้น และส่ายศีรษะอย่างเด็ดขาด

“จะมีพิษหรือไม่นั้นไม่สำคัญ แม่คิดว่าปัญหาใหญ่ที่สุดคือสีผิว”

เซินเป่ามองดูแขนขาวอวบอิ่มของตน และจินตนาการถึงน้องชายที่มีสีผิวหลากสีสัน จู่ ๆ ก็ตัวสั่นขึ้นมา: “เช่นนั้นหาต่อไปจะดีกว่า”

ผู้อาวุโสใหญ่ตามเข้าประตูมา เมื่อเห็นท่าทางผิดหวังของเซินเป่า ก็นึกว่าเขาเป็นอะไรไป จึงรีบเดินเข้ามา

“เซินเป่า เป็นอะไรไปหรือ?”

“เจ้าปู่เฟิ่ง เซินเป่าไม่เป็นไร”

ฉู่เชียนหลีมองดูผู้อาวุโสใหญ่ และทอดถอนใจอย่างจนปัญญา: “ลุงเฟิ่ง โสมคนพวกนี้ท่านเก็บกลับไปเถอะ”

ในป่านอกเมืองจะสามารถเก็บโสมคนได้ง่าย ๆ อย่างนี้ได้อย่างไร จะต้องเป็นลุงเฟิ่งที่จงใจปลูกไว้บนพื้น เพื่อหล่อให้เซ็นต่อดีใจแน่ ๆ

“แม่นางฉู่ โสมคนพวกนี้เซินเป่าหามาได้ด้วยตัวเอง ข้าจะรับเอาไว้ได้อย่างไร ให้เซินเป่าเอาไว้ปลูกเล่นเถอะ” ผู้อาวุโสใหญ่ไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาดว่าเพื่อที่จะไปปลูกโสมคนเอาไว้ก่อนแล้ว เขาวิ่งจนผมปลอมหลุดไปถึงสามครั้ง

เมื่อฉู่เชียนหลีเห็นผู้อาวุโสใหญ่มีท่าทางเด็ดเดี่ยว ก็ไม่ได้บังคับอีกต่อไป หลังจากที่ย้ำกับเซินเป่าว่าปลูกได้แต่ห้ามกิน ก็เห็นเซินเป่าหดศีรษะเดินไปทางสวนโสม

เมื่อเฟิ่งเสวียนตู้ได้เห็น ก็กล่าวเลยด้วยความเป็นห่วง: “เชียนหลี เจ้าจะบอกเซินเป่าตอนไหนว่า เขาไม่ใช่ปีศาจโสมคน

ฉู่เชียนหลีส่ายศีรษะ: “ไม่บอก”

“เพราะเหตุใดหรือ?”

“เซินเป่าตามหาเจ้าน้องโสมคนอยู่ทุก ๆ วัน ก็มีความสุขอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”

“แต่เขาไม่ใช่ปีศาจโสมคนจริง ๆ เสียหน่อย”

ฉู่เชียนหลีหัวเราะขึ้นมาหนึ่งครั้ง: “ใช่หรือไม่แล้วอย่างไรเล่า? เขาคิดว่าเป็นปีศาจโสมคนแล้วมีความสุข เช่นนั้นเอาก็เป็นได้อย่างไร้กังวล เป็นปีศาจโสมคนที่ไม่อาจแปลงร่างได้ พอเขาโตขึ้นมาหน่อย ไม่อยากเป็นแล้ว ไม่ต้องให้พวกเราพูด เขาก็จะเข้าใจเอง”

ในสายตาของเด็ก ทุกอย่างล้วนมีจิตวิญญาณ ลมร้องไห้ได้ น้ำร้องไห้เป็น ดวงดาวกะพริบก็เท่ากับกำลังกะพริบตา ในฐานะผู้เป็นมารดา แค่รักษาความไร้เดียงสานี้ของเขาเอาไว้ให้ดีก็เพียงพอแล้ว

อย่าได้พูดสัจธรรมต่าง ๆ นานากับเขา ในตอนที่เขายังเด็กอยู่ พอเขาโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา ผ่านประสบการณ์มามากมาย แล้วค่อยเรียกร้องให้เขารักษาหัวใจแห่งความเป็นเด็กเอาไว้

เมื่อเซินเป่าปลูกโสมเจ็ดสีเสร็จเรียบร้อย ก็ได้ถูกเจ้าชมพูจับแกว่งชิงช้า ในที่สุดก็มีความสุขขึ้นมา และกระซิบกับกระเป๋าผ้าเล็กที่อยู่บริเวณเอว

มนุษย์ส่วนมากร้องหาความมั่นคง เพราะยังไงเสียก็มีอายุขัยเพียงแค่ไม่กี่สิบปี เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการมีชีวิตอย่างสงบสุข แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง ทั้งที่รู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่ก็ยังคงเลือกที่จะเผชิญหน้า จิตใจเช่นนี้ยากที่จะหาได้นัก

เพียงแต่ว่า ฉู่เชียนหลีที่ดูแล้วมีผลการฝึกตนอยู่เพียงแค่ระดับนักพรตเสวียนขั้นกลาง ช่างอ่อนแอเสียจริง เกรงว่าแม้แต่ปกป้องตัวเองยังยาก พอถึงตอนนั้นหากต้องพบกับอันตรายที่ถึงชีวิต เห็นแก่ที่นางเป็นมารดาของเซินเป่า ค่อยลงมือช่วยก็แล้วกัน

ซูยี่พลันนึกขึ้นมาได้: “ใช่แล้ว เชียนหลี ข้าถูกแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพพิทักษ์ชาติ ในจวนก็ควรจัดงานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลอง เจ้ากลับมาอย่างกะทันหัน เมื่อก่อนลุงเองก็มีสภาพเช่นนั้น ความจริงอยากจะจัดงานเลี้ยงตั้งแต่แรกแล้ว ให้ผู้คนได้รู้ว่าคุณหนูใหญ่และคุณชายเล็กของตระกูลเรากลับมาแล้ว”

ฉู่เชียนหลีไม่ชอบความวุ่นวาย แต่พอนึกถึงความไม่เป็นธรรมที่ท่านลุงและท่านผู้พี่ได้รับในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ได้พยักหน้าเห็นด้วย

“ท่านลุงจัดการได้เลย”

“ได้”

การฟื้นขึ้นมาอีกครั้งของตระกูลซูได้ปั่นป่วนไปทั่วทั้งเมืองหลวง โดยเฉพาะเหล่าขุนนางที่ได้เห็นการแสดงออกอันน่าอัศจรรย์ของฉู่เชียนหลีเมื่อตอนอยู่ที่ประตูเมือง ต่างก็คิดหาวิธีที่จะไปมาหาสู่กับตระกูลซู เพราะไม่ว่าอย่างไร นั่นก็เป็นถึงผู้ฝึกตน ของเล็กน้อยที่ปรากฏขึ้นมาในมือตามร่องเล็บ ล้วนเป็นสิ่งที่หาได้ยาก

แต่ระยะเวลาห้าปี ตระกูลซูได้ปิดไปโดยสิ้นเชิง ผู้ที่ยังไปมาหาสู่อยู่นั้นมีเพียงบุตรชายขององค์หญิงใหญ่เซียวจวินยี่

สองวันต่อมา เซียวจวินยี่นั่งอยู่ข้างเก้าอี้ ดูซูจิ่นจือฝึกยุทธ์ไป พลางบ่นพึมพำ

“จิ่นจือ คนพวกนั้นต่างแล่นเรือไปตามลม ต้องก็ต้องการสร้างความสัมพันธ์กับน้องเชียนหลี หึ ข้าจะให้พวกเขาสมปรารถนาได้หรือ? แน่นอนว่าไม่มีทาง ข้าจะต้องช่วยเจ้าและน้องสาวของพวกเราอยู่แล้ว”

ซูจิ่นจือมองท่าทางเอ้อระเหยลอยชายของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เจ้าเองก็ได้ทานเนื้อไก่ขนม่วงเหมือนกัน ตั้งใจฝึกยุทธ์ ผ่านไปสักพัก ข้าจะไปขอร้องน้องเชียนหลี ให้นางช่วยหาคนฝึกตนให้เจ้า”

เซียวจวินยี่ส่ายหน้าทันที: “ไม่เอาหรอก เจ้ายังไม่รู้จักข้าอีกหรือ? ข้าไม่มีความสามารถด้านนั้น ฝึกตนเป็นเรื่องดี แต่ข้าคิดว่าได้ชื่นชมทิวทัศน์อันสวยงามที่อยู่ตรงหน้าตลอดช่วงเวลาหลายสิบปีก็ไม่เลวเหมือนกัน”

“ไม่ได้!”

“ทำไมไม่ได้เล่า?”

“ไม่ว่าอย่างไรก็คือไม่ได้ รองานเลี้ยงสิ้นสุด ข้าก็จะไปพูดเรื่องนี้กับนาง เจ้าเตรียมตัวเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน”

“ไม่เอาน่า!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี