ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 119

สรุปบท บทที่ 119 หน้าตาอัปลักษณ์แต่จิตใจงดงาม: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

ตอน บทที่ 119 หน้าตาอัปลักษณ์แต่จิตใจงดงาม จาก ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 119 หน้าตาอัปลักษณ์แต่จิตใจงดงาม คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ที่เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตระกูลซูได้ใช้เวลาเตรียมงานเลี้ยงอยู่เป็นเวลาสิบวัน ฉู่เชียนหลีก็ได้กดให้เฟิ่งเสวียนตู้มากส์หน้าอยู่ สิบวันเช่นกัน

สิบวันให้หลัง เซินเป่าลูบแก้มอันนุ่มลื่นของตัวเอง และได้ตัดสินใจจะไปหาแมลงวันมาเพื่อพิสูจน์ดูว่าเมื่อมันตกลงมาแล้วจะลื่นจนขาฉีกหรือไม่

หลังจากที่ผู้อาวุโสใหญ่ได้รับข่าวนี้ ก็ได้ร้องโวยวายเพื่อหยุดเขาเอาไว้ สุดท้ายแล้วเซินเป่าก็ยอมที่จะถอยให้ และได้ไปหาสหายตัวต่อร่างแดงเพื่อทดสอบดู

ผู้อาวุโสใหญ่จ้องตาไม่กะพริบอยู่ที่ด้านข้าง ตัวต่อร่างแดงขาอ่อนจนคลานลุกขึ้นมาไม่ได้

เซินเป่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากมีหางละก็ คงแทบจะชี้ขึ้นไปบนฟ้าแล้ว

ในเรือน ฉู่เชียนหลีพยุงใบหน้าของเฟิ่งเสวียนตู้เอาไว้ ขมวดคิ้วพิจารณาอยู่ครึ่งค่อนวัน จากนั้นก็ทอดถอนใจอย่างเคร่งเครียด

รอยแผลบนใบหน้าของเขาเกิดจากพลังอัคคีหงส์ พลังอัคคีไม่ดับ รอยแผลเป็นก็จะไม่หายไป ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่ได้ผล

เฟิ่งเสวียนตู้เข้าใจผลลัพธ์เช่นนี้ดี แต่เมื่อได้เห็นท่าทางผิดหวังของฉู่เชียนหลี ก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อนาง จากนั้นก็แสดงท่าทางคาดหวังออกมา

“เป็นอย่างไรบ้าง ใช้ติดต่อกันมาหลายวันแบบนั้น ได้ผลหรือไม่?”

ฉู่เชียนหลีเงียบไปสักพัก จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาอย่างช้า ๆ : “เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ไม่อาจบอกว่าเหมือนกันได้ บอกได้เพียงว่าไม่ต่างกันเลย!”

เฟิ่งเสวียนตู้ขมวดคิ้ว บนใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง: “ดูท่าแล้วใบหน้าของข้าคงไม่อาจหายดีได้แล้ว”

เมื่อเห็นท่าทางของเฟิ่งเสวียนตู้ ฉู่เชียนหลีก็รู้สึกว่าความใจดีที่หายไปนานของนางพลันเจ็บขึ้นมาอย่างราง ๆ

“เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะต้องรักษาเจ้าได้แน่”

“ไม่เป็นไร เชียนหลีข้ารู้ถึงความประสงค์ดีของเจ้า แล้วจะโทษเจ้าได้อย่างไรเล่า?”

“เจ้าขี้เหร่ เจ้าช่างเข้าใจหัวใจผู้อื่นดีจริง ๆ”

สมกับที่เป็นเพื่อนสาวที่เข้าตาตนเองจริง ๆ หน้าตาอัปลักษณ์แต่จิตใจงดงาม!

ดังนั้นถ้าหากเขาขี้เหร่ตลอดไป เช่นนั้นนางก็จะทำหน้ากากที่สวย และเปลี่ยนได้มากมายหลายแบบที่สุดบนโลกใบนี้ให้เขา!

พอถึงตอนนั้น วันหนึ่งใช้หน้ากากปลอมเป็นหน้าตาแบบหนึ่ง หนึ่งปีมี 365 วันไม่ เหมือนกันสักวัน รูปร่างหน้าตาที่ชายหนุ่ม หญิงสาวชอบ เขาล้วนมีทั้งนั้น!

เฟิ่งเสวียนตู้กดความปีติที่อยู่ในใจลง และพยักหน้าอย่างสงบเสงี่ยม: เจ้ารู้ก็ดีแล้ว

ในตอนนี้เอง เซินเป่าก็ถือโอกาสกระโจนเข้าสู่อ้อมอกของฉู่เชียนหลี และกล่าวอย่างมีความสุข: “ท่านแม่ ป้ายประตูที่เจ้าอาขี้เหร่สั่งให้คนไปทำนั้นทำเสร็จแล้ว ท่านลุงให้พวกเราไปแขวนด้วยกัน”

ฉู่เชียนหลีพยักหน้า: “ได้ เช่นนั้นท่านแม่จะลุกจากที่นอนล่ะ”

นอกจวนตระกูลซู ซูจิ่นจือเข็นซูยี่ไปซ้ายขวาเพื่อวัดตำแหน่งของประตูจวน เมื่อสองวันนี้ได้ทาสีใหม่ ประตูจวนดูน่าเกรงขามเป็นพิเศษ

เมื่อเห็นฉู่เชียนหลีเดินเข้ามา ซูจิ่นจือก็รีบเอ่ยขึ้น: “น้องเชียนหลี รีบมาเร็วเข้า รอแค่เจ้าแล้ว”

“มาแล้ว” เมื่อเห็นท่าทางดีอกดีใจของท่านลุงและท่านผู้พี่ ฉู่เชียนหลีก็มีความสุขตาม

เทียนชูและเทียนเสวียนยืนอยู่ซ้ายขวาคนละฝั่ง ภายใต้คำสั่งของพวกเชียนหลี ก็ได้เอาป้ายประตูแขวนขึ้นไป

ซูยี่ที่อยู่ด้านล่างสั่งให้ปรับตำแหน่งอยู่สักพัก ถึงได้พยักหน้าอย่างพอใจ

“เชียนหลี ผ้าแดงที่ปิดป้ายเอาไว้นั้น มีเจ้าเป็นคนเปิดมันก็แล้วกัน”

“ท่านลุง ควรจะเป็นท่านที่เป็นคนเปิด”

“ไม่ ต้องเป็นเจ้าเท่านั้น” ซูยี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม ในแววตาเต็มไปด้วยความหนักแน่นและอ่อนโยน

ซูจิ่นจือผลักฉู่เชียนหลีขึ้นไปด้านหน้า และยิ้มกล่าว: “น้องหญิงรีบไปเร็ว!”

ฉู่เชียนหลีหัวเราะออกมาหนึ่งครั้ง ไม่บ่ายเบี่ยงอีกต่อไป นางก้าวไปข้างหน้าและจับผ้าแดงเอาไว้ แล้วดึงลงมาอย่างรวดเร็ว

วินาทีต่อมา ฉู่เชียนหลีอดไม่ได้ที่จะหรี่ตา และสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย

เดินเข้าไปด้านในอีก ปักสีขาวอ้วน ๆ สองตัว กำลังเดินอย่างสง่างามด้วยขายาว ๆ อย่าได้ถามว่าทำไมถึงรู้ว่าอ้วน นั่นเป็นเพราะขนของพวกมันแทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว เนื้ออวบ ๆ นั่นมองเห็นได้อย่างชัดเจน

นี่จะต้องเป็นปักสีขาวสองตัวที่ฮ่องเต้ประทานแน่

เมื่อเห็นปักษีที่แทบไม่มีขนอยู่เลย ก็นึกถึงสิ่งที่ตระกูลฉู่และตระกูลซุนต้องชดใช้ในข่าวลือขึ้นมา......

ทุกคนต่างหลีกเลี่ยงจากพวกมันไปโดยปริยาย

เมื่อมาถึงประตูโถงกลางอย่างปลอดภัย พึ่งวางใจลงได้ไม่นาน ยังไม่ทันจะเดินขึ้นบันได ก็ได้ยินเสียงแหลม ๆ ดังลอยมา

“จวิ้นจู่ ฝ่าบาททรงตรัส ท่านแม่ทัพใหญ่จัดงานเลี้ยง เดิมควรจะมาด้วยตนเอง แต่จู่ ๆ ซีซวนและเป่ยเหลียงก็ได้ส่งราชทูตมายังเมืองหลวง เหตุนี้ จึงปลีกตัวมาไม่ได้ จึงได้ให้บ่าวนำผลไม้และดอกไม้ที่พึ่งส่งมาถึงมามอบให้ ของยังอยู่ที่ท่าเรือไม่ทันลงจากเรือ บ่าวก็ได้สั่งให้เอามาที่นี่แล้ว รับรองความสดอย่างแน่นอน”

เมื่อเหล่าขุนนางได้ยิน: เสียงนี่......หัวหน้าบ่าวรับใช้เกากงกง?

มิน่าคนตระกูลซูถึงไม่ได้ออกมาต้อนรับแขก ที่แท้ก็ยุ่งอยู่กับการรับของทรงประทานจากฝ่าบาทนี่เอง!

“ฝ่าบาทยังได้กำชับอีกว่า ให้บ่าวดูอย่างละเอียด ว่าจวนแม่ทัพยังขาดเหลืออะไรอยู่ ให้กรมวังรีบเอามาเสริม แต่บ่าวดูแล้ว ทุกอย่างในจวนแม่ทัพล้วนดีถึงขีดสุด ของที่ส่งมาจากกรมวังให้จวิ้นจู่ใช้รองเท้าก็ยังรังเกียจที่ไม่ประณีตพอ”

ฉู่เชียนหลีฟังคำยกยอจากเกากงกง ก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

“น้ำใจจากฝ่าบาท เชียนหลีรับเอาไว้ด้วยใจ ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมหมดแล้ว ไม่ต้องรบกวนกรมวังนอกจากนี้ ราชทูตของแคว้นอื่นได้เดินทางมาถึง ฝ่าบาทต้องยุ่งอยู่กับการต้อนรับ ลำบากยิ่งนัก ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ได้รับโสมหยกหิมะขาวมาใหม่ต้นหนึ่ง กงกงเอากลับไป แช่ชาให้ฝ่าบาทดื่ม”

“ขอรับ ยังคงเป็นจวิ้นจู่ที่ห่วงใยฝ่าบาท บ่าวจะต้องนำน้ำใจของจวิ้นจู่กลับไปให้ถึงแน่”

โสมหยกหิมะ?

เมื่อเหล่าขุนนางที่อยู่ด้านนนอกได้ยินต่างก็ตะลึงงัน

เดี๋ยวสิ ถ้าหากประจบสอพลอแล้วได้ของตอบแทนที่ดีเช่นนี้ พวกเขาเองก็ทำได้!

ไม่ได้โสมหยกหิมะ ได้รากโสมสักสองสามเส้นก็ยังดี!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี