ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 125

สรุปบท บทที่ 125 จินตนาการเป็นหลัก: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

สรุปเนื้อหา บทที่ 125 จินตนาการเป็นหลัก – ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

บท บทที่ 125 จินตนาการเป็นหลัก ของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

อีกด้านหนึ่ง ไป๋ลี่หงพาไป๋หลี่เจิงขึ้นรถม้า รีบสั่งคนสนิทของเขาทันที สืบข่าวของฉู่เชียนหลีและตระกูลซู ต้องการทั้งหมดและเร็ว!”

พวกเขาเพิ่งเข้ามาในเมืองหลวงวันนี้ ระหว่างทางพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับฉู่เชียนหลีเป็นเจ้าแม่มาบ้าง ตอนนั้นไม่ได้วางไว้ในใจ คิดว่านางจงใจสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง

เพราะในเมืองหลวงของตงเสวียน หญิงสาวที่เกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์ ต่างก็มีฉายาเป็นของตนเองเสมอ หน้าตางดงามฉลาดบ้าง คนงามอันดับหนึ่งบ้าง กลอนบทกวียิ่งเลิศบ้าง

ครั้งแรกที่ได้ยินว่าฉู่เชียนหลีถูกเรียกว่าเจ้าแม่ ยังคิดว่านางโง่เกินจริง คาดไม่ถึงว่าเมื่อเข้าไปในตระกูลซู ทำให้เขาตื่นตระหนกตื่นใจขึ้นมาทันที

ไป๋หลี่เจิงตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง ยังคงจมอยู่ในฝันร้ายของการถูกซูจิ่นจือต่อยตี โบกมือขวางอยู่ตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว

ไป๋ลี่หงถูกตีโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาหงุดหงิดทันที “ไป๋หลี่เจิงเจ้าเอะอะอะไร?”

ไป๋หลี่เจิงสะดุ้งตื่นขึ้นทันใด พบว่าเขากำลังนั่งอยู่บนรถม้า

“เสด็จพ่อ วันนี้ลูก...”

“วันนี้เจ้าทำให้ข้าเสียหน้าไปหมดแล้ว!”

ใบหน้าของไป๋หลี่เจิงซีดแล็กน้อย “ข้าคาดไม่ถึงว่าซูจิ่นจือจะแข็งแกร่งแบบนี้ พละกำลังของเขาเยอะมาก หมัดเดียวดูเหมือนจะสามารถฆ่าวัวให้ตายได้ และฝีเท้าของเขาก็ประหลาดมาก เป็นกระบวนที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน”

ไม่เคยปรากฏมาก่อน? ฉู่เชียนหลีสืบทอดให้เขาหรือเปล่า?

ใจของไป๋หลี่หงสั่นคลอนมากขึ้น “เจ้าแน่ใจหรือว่าหลายปีก่อนเจ้าทำลายซูจิ่นจือด้วยมือของเจ้าเอง?”

“เสด็จพ่อ ลูกแน่ใจ! หลายปีก่อน ลูกปลอมตัวเป็นสายลับ เพื่อทำลายซูจิ่นจือ ดื่มยาพิษทำลายเส้นลมปราณของเขาให้แตกเป็นเสี่ยงๆ และในขณะเดียวกันก็ทำลายจุดตันเถียนของเขาไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ผิดไปแน่นอน!”

“กลับไปก่อน”

“ขอรับ”

ใต้ดิน เมื่อเซียวจวินยี่จะรู้สึกว่าหากวันนี้จะมีชีวิตรอด ก็จะเป็นปาฏิหาริย์ ร่างกายของเขาก็หยุดลงกะทันหัน จากนั้นเขาก็ถูกเจ้าชมพูดึงขึ้นไปอย่างรวดเร็ว วินาทีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่มุมถนนที่ว่างเปล่า

เซียวจวินยี่รู้สึกเพียงว่าคอขม รู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียนมากและการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของแสงสว่างและความมืดทำให้เขาไม่มีโอกาสรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาลุกขึ้นยืนอย่างโอนเอนแล้วอาเจียนออกมา

“อุ๊บ...แหวะ!”

“บูม!”

ทันทีที่เขาอาเจียนออกมา ถนนข้างๆ เขาก็พังทลายลงไป เกิดเป็นหลุมกลมขนาดใหญ่อยู่บนพื้น

รถม้าคันหนึ่งเคลื่อนไหวไปข้างหน้าและคาดไม่ถึงว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เบรกไม่ทัน ตกลงไปในหลุมทันที

ในรถม้า ไป๋หลี่หงและไป๋หลี่เจิงตกลงมาจนเอ๋อไปหมดแล้ว โดยเฉพาะไป๋หลี่เจิง เดิมทีเขานอนราบอยู่บนรถม้า แต่เมื่อรถม้ากลิ้งตกลงไป กลายเป็นแผ่นรองของไป๋หลี่หงโดยตรง ถูกทับจนกระอักเลือดออกมา จากนั้นก็กลอกตาขาวเป็นลมไป

เซียวจวินยี่มองภาพตรงหน้าอย่างตะลึงงัน อดไม่ได้ที่จะขาอ่อน เขาเดินโซเซไปด้านข้างสองก้าว วางมือลงบนกำแพงสูงด้านข้างเพื่อพยุงร่างถึงจะยืนนิ่งได้

นี่ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับเขาเลยใช่หรือไม่?

ไม่เกี่ยวกับเขาแน่นอน เขาแค่อาเจียนครั้งเดียวง่ายๆเอง!

วินาทีต่อมา

“โครม!”

กำแพงสูงที่เขาค้ำยันพังทลายลงทันที เกิดควันพวยพุ่งกระจาย

เฮ้ย!

ไม่นานนัก กลุ่มองครักษ์ที่ร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่นก็พุ่งมา รุมล้อมเซี่ยวจวินยี่อยู่ตรงกลาง

เซียวจวินยี่กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งด้วยความงุนงง ภาพตรงหน้าเขาก็ชัดเจนขึ้นมา

เหตุใดตำหนักนี้ถึงคุ้นเคยนัก?

ซี้ด ตำหนักองค์ชายสาม?

ตำหนักซู แขกทุกคนได้ดื่มเหล้าอย่างสนุกสนาน ได้รับยาที่ฉู่เชียนหลีมอบให้แล้วแยกย้ายกันกลับไปด้วยความพอใจ

หลังจากที่แขกจากไป ซูยี่รีบเรียกโจวเหลียวทั้งสามมาทันที

เมื่อครู่นี้โจวเหลียวที่หัวเราะจนเห็นฟันกราม ตอนนี้ขี้ขลาดเล็กน้อย ผลักหลิวเฟยและหลี่เฉวียนไปข้างหน้า และเกือบจะผลักพวกเขาทั้งสองลงไปกลิ้งอยู่บนพื้น

ซูยี่เห็นแล้วไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือโมโหดี

“เอาล่ะ นั่งลงก่อน ข้ามีเรื่องจะถามพวกเจ้า”

โจวเหลียวทั้งสามนั่งลงอย่างเชื่อฟังทันที

ท่านแม่ทัพเดินได้แล้ว? ขาของท่านแม่ทัพหายดีแล้ว?

“ท่านอะไรท่าน ยื่นออกมา นี่คือคำสั่งทหาร!”

ร่างหลี่เฉวียนกระตุก แก้มแดงระเรื่อ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ยกแขนขึ้น

มือซ้ายที่เขาให้ฉู่เชียนหลีจับชีพจรนั้นไม่เป็นอะไร แต่มือขวาของเขาถูกคนตัดออกจากข้อมือ เหลือเพียงแขนท่อนล่างที่ว่างเปล่า

ดวงตาของซูยี่สั่นไหวทันที เขากดหลี่เฉวียนอยู่กับเก้าอี้ ก้มศีรษะลงดึงชายเสื้อขึ้น

เท้าสองข้างของเขา มีเพียงขวาเท่านั้นที่เหมือนเดิม เท้าซ้ายถูกตัดออกจากข้อเท้าด้วย

หลี่เฉวียนหน้าแดงและพูดตะกุกตะกัก “ท่าน... ท่านแม่ทัพ... ข้าน้อยฉลาดมาก ใช้หนังห่อไว้และใส่ขาไม้ให้ตนเอง ตอนนี้เดินอย่างระมัดระวังหน่อยก็ไม่เป็นไร ข้าน้อย...ข้าน้อยยังสามารถกระโดดขาเดียวได้...”

ซูยี่หายใจเข้าลึก ๆ น้ำตาเกือบจะไหลออกมาจากดวงตา

“พวกเจ้า…”

โม่เฟิงเป็นเช่นนี้ พวกโจวเหลียวก็เป็นเช่นนี้ ทุกคนและสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับตระกูลซูของเขาก็จะถูกทำลายลงใช่หรือไม่?

ซูยี่รู้สึกว่าปกป้องตงเสวียนโดยไม่รู้สึกผิด แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคือง โมโห

เมื่อเห็นท่าทีของซูยี่ พวกโจวเหลียวก็ตื่นตระหนกทันที

“ท่านแม่ทัพ พวกเรา... พวกเราไม่เป็นไร เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในสนามรบ สถานการณ์อะไรที่ไม่เคยพบมาก่อน? ไม่ต้องพูดถึงคนหูหนวก แขนขาขาดไป และศีรษะถูกฟันทิ้งครึ่งหนึ่ง? ก็ยังคงมีความสุขอยู่ทุกวันไม่ใช่หรือขอรับ” โจวเหลียวตะโกนเสียงดัง

หลี่เฉวียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่!”

ซูยี่กลั้นความเศร้าโศกในใจ ยกมือขึ้นตบหลังศีรษะของหลี่เฉวียน

“ถูกต้องอะไรถูกต้อง นั่นน่ะสมองไม่ดีเลยโง่ไป แน่นอนว่าจะมีความสุขทุกวัน ไอ้เด็กนี่ สิบเอ็ดปีก็มาอยู่กับกองทหารของข้า จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่โต”

“ท่านแม่ทัพ ท่านยังตบอีก ข้าน้อยก็ไม่ห่างจากการมีความสุขทุกวันแล้วขอรับ” หลี่เฉวียนรีบกอดศีรษะของตนไว้ แต่มีรอยยิ้มสดใสอยู่บนใบหน้าของเขา

ซูยี่เห็นเขาเหลือเพียงมือขวาท่อนแขน ใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกมีดบาด เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับว่าเขาพร้อมที่จะถามต่อไป

“บอกข้าที หลายปีที่ผ่านมานี้ พวกเจ้าไปที่ไหนและเกิดอะไรขึ้น?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี