ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 126

สรุปบท บทที่ 126 อาเจียนครั้งหนี่งถนนพังพินาศ พยุงกำแพงสูง กำแพงก็ทลายลง: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

สรุปตอน บทที่ 126 อาเจียนครั้งหนี่งถนนพังพินาศ พยุงกำแพงสูง กำแพงก็ทลายลง – จากเรื่อง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

ตอน บทที่ 126 อาเจียนครั้งหนี่งถนนพังพินาศ พยุงกำแพงสูง กำแพงก็ทลายลง ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดยนักเขียน เย็นอวี่ฟังหัว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

โจวเหลียวทั้งสามยังคงนิ่งเงียบ

ฉู่เชียนหลีเห็นว่าท่านลุงเสียใจ ในใจก็อดรู้สึกอึดอัดใจไม่ได้ ดังนั้นนางจึงพูด

“ขุนพลหลี่ พิษในร่างกายของเจ้าคือพิษงูวงทอง งูชนิดนี้เติบโตในป่าควันที่ซีซวน พิษนี้อยู่ในร่างกายของเจ้ามามาสามปีแล้วก็หมายความว่าสามปีก่อนเจ้าเคยไปซีซวนมาก่อน?”

หลี่เฉวียนเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง คุณหนูใหญ่แค่สัมผัสข้อมือก็รู้แล้ว?

สีหน้าของซูยี่ดูจริงจัง พวกเจ้าพูดเองหรือให้ข้าไปสืบ? สิ่งที่ข้าตสืบมาอาจไม่ถูกต้อง ถ้าข้าพลาดอะไรไปเพราะเหตุนี้ แล้วถูกผู้อื่นฉวยโอกาสได้รับอะไรไปอยู่ในมือแล้วใช้...”

“ท่านแม่ทัพ!” หลี่เฉวียนอดไม่ได้ “ข้าพูด เมื่อห้าปีก่อน ท่านแม่ทัพเกิดเรื่อง ท่านชายก็ถูกทำลายกำลังภายในไป พวกข้าจึงแอบสืบหาผู้ที่ทำร้ายท่านแม่ทัพและท่านชาย ต่อมาก็สืบพบเบาะแสบางอย่างจึงไปซีซวน”

ดวงตาของฉู่เชียนหลีกระตุก “ท่านลุงและท่านผู้พี่ได้รับบาดเจ็บจากสายลับซีซวน?”

“จนถึงวันนี้นี้ก็ยังไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของแม่ทัพใหญ่ แต่อาการบาดเจ็บของท่านชายเกิดจากตำหนักยู่เอียนอ๋อง ไป๋หลี่เจิงไอ้เลวนั่นที่พาคนมาทำร้าย!” หลี่เฉวียนกล่าวอย่างโกรธจัด

“ไป๋หลี่เจิง...”

สีหน้าของฉู่เชียนหลีขรึมลง ตามความทรงจำเดิมของร่างเดิม อุบัติเหตุเกิดขึ้นที่พื้นที่ล่าสัตว์ เกิดจาดสายลับจริงๆ แต่ท้ายที่สุด ก็ตรวจออกมาไม่ได้ว่าสายลับเป็นของฝ่ายใด และราชวงศ์ก็ไม่ต้องการที่จะทำให้เรื่องใหญ่ แค่บอกว่าสายลับได้ซ่อนตัว เรื่องนี้ก็ผ่านไปทั้งอย่างนี้

ไม่นานหลังจากนั้น ซีซวนก็มาขอสันติภาพและทูตก็คือไป๋หลี่หงและไป๋หลี่เจิงสองพ่อลูก!

หลี่เฉวียนพยักหน้า “คุณหนูใหญ่ พวกข้าใช้เวลาสองปีในการสืบ สามารถแน่ใจได้ว่าต้องเป็นไป๋หลี่เจิง!”

ฉู่เชียนหลีมองหน้าเขา ดวงตาใสของนางเหมือนทะลุผ่านหัวใจ “ดังนั้นพวกเจ้าก็เลยไปแก้แค้นกันทันที?”

โจวเหลียวกำหมัดแน่นแล้วกระแทกโต๊ะอย่างแรง “ท่านแม่ทัพมีพระคุณต่อพวกข้า ท่านชายสวมชุดเกราะสู่สนามรบก็เป็นสหายของพวกข้าด้วย สมเหตุสมผลแล้ว พวกข้าต้องไปแก้แค้นอย่างแน่นอน! แต่พวกข้ายังไม่ทันได้แก้แค้นต่างก็เกิด อุบัติเหตุกันทีละคน พวกข้าอับอายและไร้ประโยชน์จริงๆ!”

หลี่เฉวียนและหลิวเฟยมองหน้ากันและก้มศีรษะลงอย่างไม่ยินยอม

“ไม่ นี่อาจเป็นการสมรู้ร่วมคิดเรื่องชั่วๆของพวกเขาอย่างหนึ่ง” ฉู่เชียนหลีส่ายหัว

“คุณหนูใหญ่ หมายความว่าอะไร!” โจวเหลียวตกใจ

หลี่เฉวียนและหลิวเฟยต่างก็มองนางด้วยความประหลาดใจ

“ไป๋หลี่เจิงวันนี้กล่าวได้อย่างชัดเจนแบบนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสนใจกับตระกูลซูและพวกเจ้าอยู่เสมอ รองแม่ทัพโจวร่างกายแข็งแกร่งและยังเป็นผู้ที่มีการต่อสู้ มีพลังภายในปกป้องร่างกาย เป็นไปได้อย่างไรที่จะได้รับบาดเจ็บถึงขนาดนี้จากคนงานที่ทำงานอยู่ที่ท่าเรือถึงขนาดนี้?”

ไป๋หลี่หงและไป๋หลี่เจิงสองพ่อลูกนี้ ต้องการกำจัดรากเหง้าของตระกูลซูและผู้ภักดีทั้งหมดของตระกูลซูอย่างสมบูรณ์!

“ไป๋หลี่เจิง เจ้าหมาตัวนี้!”

โจวเหลียวถลึงตาโตและยืนขึ้นทันที กำหมัดหงุดหงิดจนเกิดเสียง

“คุณหญิงใหญ่พูดมีเหตุผล ตอนนี้คิดดูแล้ว ก็มีข้อสงสัยอยู่ทุกหนทุกแห่ง” หลิวเฟยครุ่นคิดแล้วพยักหน้า

หลี่เฉวียนละรึกถึงเรื่องเก่า “ตอนนั้นพวกข้าได้รับข่าวว่าไป๋หลี่เจิงจะไปฝั่งตะวันออก เลยรีบตามไปทันที แต่คาดไม่ถึงว่าจะหลงเข้าไปในป่าไผ่และแยกจากกันกับหลิวเฟย ยิ่งนึกไม่ถึงว่าซีซวนจะมีคนที่เชี่ยวชาญควบคุมงูวงทอง หลังจากที่ข้าโดนกัด ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตัดมือและเท้าทิ้งเพื่อเอาชีวิตรอด โชคดีตอนที่หลบหนี ข้าเจอคนใจดีผู้หนึ่งที่ช่วยข้าหลบหนี แล้วยังช่วยข้าห้ามเลือดและรักษาบาดแผลได้ทันเวลา เลยช่วยชีวิตข้าไว้ได้”

ซูยี่พูดด้วยน้ำเสียงขรึม “เจ้าบอกว่าคนในซีซวนสามารถควบคุมงูวงทองได้?”

“ขอรับ”

“แล้วผู้มีพระคุณผู้นั้นที่ช่วยชีวิตเจ้าล่ะ ใช้วิธีใดในการช่วยเจ้าได้ทันเวลาตอนที่เจ้าตัดมือและเท้าออก?”

“ท่านชายผู้นั้นก็แค่ยื่นมือแตะร่างกายข้า แล้วป้อนยาให้ข้าเม็ดหนึ่ง หลังจากนั้นข้าก็เป็นลมไปและไม่รู้อะไรอีกเลย หลังจากฟื้นขึ้นมา ข้าก็ไม่เห็นเขาอีกเลย”

ฉู่เชียนหลีครุ่นคิดอย่างตั้งใจ วิธีนี้ ทำไมถึงฟังดูเหมือนเป็นผู้ฝึกตน?

ไม่ใช่บอกว่านี่คือโลกมนุษย์ไม่ใช่หรือ ทำไมผู้ฝึกตนถึงมีอยู่ทุกที่?

ซูยี่ฟังแล้ว แววตาของเขาดูประหลาดใจ “เชียนหลี เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?”

“ท่านลุง พบผู้บงการที่ทำร้ายท่านผู้พี่ให้ได้รับบาดเจ็บแล้ว แต่อาการบาดเจ็บของท่านลุงไม่มีเบาะแสอะไรเลย ก่อนหน้านี้ช้าพบว่าในร่างกายของท่านมีพลังเสวียนที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของท่าน เดิมทีข้าคิดว่าเป็นผู้ฝึกตนที่อยู่เบื้องซุนยู่จือและฉู่หานปี้ แต่ในความทรงจำของซุนยู่จือ ผู้ฝึกตนผู้นั้นไม่เคยปรากฏในตงเสวียนเลย แต่หญิงสาวที่นางรวบรวมได้ถูกส่งไปที่ชายแดนทั้งหมด”

“ชายแดน? เจ้าสงสัยซีซวน?”

“อาการบาดเจ็บของท่านผู้พี่เกิดจากไป๋หลี่เจิง ดังนั้นอาการบาดเจ็บของท่านลุงก็เกี่ยวข้องกับตำหนักยู่เอียนอ๋องด้วย?”

หลิวเฟยกล่าวเสริมว่า “ท่านแม่ทัพ คุณหนูใหญ่ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซีซวนมีราชครูผู้หนึ่งได้ปรากฏตัว เขามีอำนาจใหญ่โต สามปีก่อนตอนที่พวกข้าไป อำนาจของเขาอยู่เหนืออำนาจจักรพรรดิแล้ว ตำหนักราชครูก็มีบารมีสูงส่งในหมู่สามัญชน ว่ากันว่าแค่ศรัทธาและบูชาราชครู ในครูประจำชาติคุณสามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้ ตอนนั้นพวกข้าก็สงสัยตำหนักราชครู พยายามอย่างเต็มที่ก็ไม่สามารถเข้าไปสืบข่าวอะไรได้”

ฉู่เชียนหลีหรี่ตาลงเล็กน้อย และค่อยๆ หมุนกำไลหยกเลือดหงส์บนข้อมือ

“เมื่อห้าปีที่แล้ว เป็นเวลาที่บังเอิญจริงๆ”

“ไม่ใช่ว่าท่านชายเซี่ยวเกิดเรื่อง คือท่านชายเซียวอาเจียนอยู่ข้างถนนแล้วก็หลุมขนาดใหญ่ เขาวางมือหนุนกำแพง ทำให้จวนองค์ชายสามทลายลงครึ่งหนึ่ง”

ฉู่เชียนหลีเบิกตากว้างเล็กน้อย: หือ? ทำไมจู่ๆ เซียวจวินยี่เหมือนกลายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังล่องหน?

เทียนชูกล่าวต่อว่า “ตอนที่เกิดหลุมขนาดใหญ่ รถม้าที่ยู่เอียนอ๋องนั่งอยู่กำลังจะกลับไปก็ผ่านทางพอดีเลยตกลงไปในหลุม ยู่เอียนอ๋องหักแขนและไป๋หลี่เจิงซี่โครงหัก เมื่อกำแพงพังลง องค์ชายสามกำลังแอบพบฉู่หลิงเซวียน ศีรษะทั้งสองคนถูกทุบโดยบังเอิญ”

ซูจิ่นจือยืนค้างอยู่กับที่ “นี่...จริงหรือ?”

ทำไมมันฟังแล้วแปลกประหลาดกว่าเทพนิยายในหนังสือเสียอีก?

หรือเป็นเพราะได้ทานไก่ขนม่วง? แต่ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้นี่ ท่านผู้พี่และท่านลุงก็ทานด้วยและไม่เห็นมีพลังเหนือธรรมชาติอย่างกะทันหันนี่นา

“อือ จริงขอรับ”

ซูจิ่นจือมองฉู่เชียนหลีด้วยความสงสัย “เชียนหลี เจ้าว่าจวินยี่ ปนเปื้อนสิ่งไม่สะอาดหรือเปล่า?”

แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามีผู้ฝึกตนอยู่ แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อเกินไป

ฉู่เชียนหลีก็ไม่เข้าใจเช่นกัน “ก่อนหน้านี้ข้าดูท่านชายเซียวก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกตินี่นา ตอนนี้เราไปดูหน่อยไหม?”

ขณะที่กำลังพูดอยู่ คนใช้ของตระกูลเซียวก็รีบวิ่งเข้าไป หลังจากทำความเคารพต่อแต่ละคนแล้ว ก็กล่าวว่า “...ท่านชายซู จวิ้นจู่ ท่านชายของเราบอกว่าเขาจะกลับมาหลังจากเข้าวังร้องเรียนเสร็จแล้ว ทึกท่านอย่ากังวล”

“ร้องเรียน?”ซูจิ่นจือกล่าว

“ขอรับ ท่านชายของเราเป็นเพียงคนธรรมดา เป็นไปได้อย่างไรที่ถนนจะพังเพราะอาเจียนครั้งเดียวและกำแพงสูงทลายลงเพียงเพราะหนุนกำแพง? นี่เป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงของท่านชายของเราไม่ใช่หรือ? หลังจากที่องค์หญิงใหญ่ ท่านแม่ของท่านชายได้ยินเรื่องนี้ก็โมโหมามาก จึงพาคนเข้าวัง ไปชำระบัญชีกับท่านแม่ขององค์ชายสาม โดยกล่าวว่าองครักษ์ของจวนองค์ชายสามทำให้ท่านชายของเราตกใจกลัวไปหมดแล้ว”

ซูจิ่นจือรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ถ้าอย่างนั้นพวกขาจะรอที่นี่”

“งั้นบ่าวกลับไปก่อน”

หลังจากที่คนรับใช้ของตระกูลเซียวจากไป ฉู่เชียนหลียังคงกังวลเล็กน้อย “ท่านผู้พี่ เราไม่ต้องเข้าวังไปดูหรือ?”

“มีองค์หญิงใหญ่อยู่ที่นั่น ไม่มีปัญหาแน่นอน” น้ำเสียงของซูจิ่นจือแน่วแน่ สีหน้าแปลกเล็กน้อย “องค์หญิงใหญ่ผู้นั้นมีชื่อเสียงเรื่องการปกป้องคนของตน และยังไม่พูดถึงเหตุผลด้วย เพราะมีท่านผผู้นั้น ในเมืองหลวงนี้ไม่มีผู้ใดกล้ารังแกจวินยี่ ถ้ามีโอกาส เจ้าได้พบท่านผู้นั้นก็จะเข้าใจเอง”

“เมื่อมีโอกาสจะต้องพบท่านผู้นั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี