ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 141

การกลับมาของสัมภาระก่อนหน้านี้ ทำให้ตระกูลซูทำของเล่นให้เซินเป่าได้จำนวนมาก

ซูหยินและซูจิ่นจือไม่จำเป็นต้องพูดถึง พวกเขารักเซินเป่าเหมือนกับดวงตาของตัวเอง ระดมสมองคิดหาของเล่นในวัยเด็กของตัวเองออกมา จนทำเป็นคันธนูเล็ก กริชเล็ก และหนังสติ๊กเล็กๆ

ผู้อาวุโสใหญ่เองก็ไม่ยอมน้อยหน้าคนอื่น พาเทียนชูและเทียนเสวียนไปค้นดูที่หอเทียนเสวียนจนทั่ว ทั้งยังเย้ยหยันว่าของในหอเทียนเสวียนนั้นน้อยเกินไป สุดท้ายก็ได้แต่สร้างลูกเจี๊ยบทิพย์ แท่งถูฟันทิพย์ ลูกกลมระเบิดทิพย์

แต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ โหลเชิ่งที่เพิ่งเข้าร่วมตระกูลซู

เขาสร้างตู้ปลาเล็กๆ อันประณีต และกังหันน้ำขนาดเล็กติดตั้งอยู่ภายใน แค่เทน้ำใส่ กังหันน้ำก็หมุนช้าๆ ทำให้เซินเป่าวางไม่ลงเลย ด้วยเหตุนี้ เขาจึงวิ่งไปที่แม่น้ำ เลือกปลาคาร์พตัวเล็กสองขึ้นมาอย่างระวัง และบอกว่าจะเลี้ยงไว้ให้มารดาใช้ทำซุป

โหลเชิ่งดีใจยิ่งนัก หลายวันมานี้เดินไปไหนในจวนก็กระฉับกระเฉง ยืดอกหน้าตั้งตรง ท่าทางดูภูมิใจยิ่งนัก

ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกเหลือเชื่อยิ่งนัก ลูกเจี๊ยบทิพย์ นอนกลิ้งอยู่ในน้ำ ทั้งยังเติมน้ำร้อนใส่ลงไปได้ด้วย มันดูไม่น่าสนุกหรือ?

เทียนซูและเทียนเสวียนมองดูอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

ผู้อาวุโสใหญ่ ใส่ลูกเจี๊ยบทิพย์ลงไปในน้ำ ตอนที่น้ำในอ่างเดือดแล้ว เจ้าแน่ใจนะว่ามันจะสนุก?

ยังมีแท่งถูฟันทิพย์นั่นอีก เด็กๆ เผ่าหงส์ชอบแปลงร่างมาก แต่นายน้อยเซินเป่าตอนนี้ยังเป็นมนุษย์ และอายุก็สามขวบครึ่ง แทบไม่เหมาะให้ใช้

และที่สำคัญลูกกลมระเบิดทิพย์นั่น เป็นของเล่นวิญญาณเชียวนะ คนธรรมดามาเตะมันกระดูกเท้าถึงกับหักได้ ผู้ฝึกตนเตะก็ยังต้องถอย มันไม่เหมาะจะเป็นของเล่นเลย ไม่เหมาะเลยจริงๆ

ผู้อาวุโสค่อนข้างเป็นคนปิดตัวเอง ฉู่เชียนหลีกลับดีใจมาก นำลูกเจี๊ยบทิพย์ไปใส่ในหม้อที่กำลังเดือด จากนั้นก็ขอให้ผู้อาวุโสใหญ่ช่วยประเมิน

ด้วยเหตุนี้ ผู้อาวุโสคงร้องไห้อย่างหนัก

หลังจากวันดีๆ ผ่านไปสามวัน เกาหลินก็มาที่จวนซู

“บ้าน้อยคารวะแม่ทัพใหญ่ซู คารวะจวิ้นจู่...”

ซูหยินเอ่ยว่า “เกากงกงไม่ต้องมากพิธี”

เกาหลินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าน้อยมาครั้งนี้ เป็นเพราะพระราชโองการจากฝ่าบาท อยากถามท่านแม่ทำและจวิ้นจู่ มีเวลาไปพบหน้าซุนยู่จือในห้องขังหรือไม่ขอรับ”

ฉู่เชียนหลีช้อนตาขึ้น “ท่านลุงสุขภาพไม่ค่อยดี อยู่ที่จวนเถอะ ข้าจะไปดูนางเอง”

ซูหยินไม่อาจวางใจได้ “เชียนหลี ลุงไม่เป็นอะไร ลุงจะไปกับเจ้า

“ท่านลุง ไปเจอของที่น่าขยะแขยงใจเช่นนั้น ไปคนเดียวก็พอแล้วเจ้าค่ะ ซุนยู่จือคนนั้นคิดว่าตัวเองยังเหลือศักดิ์ศรีเหลืออยู่เท่าไรกัน”

“เชียนหลี เจ้าจะไม่เป็นอะไรจริงๆ หรือ?”

“ไม่เป็นอะไร”

เฟิ่งเสวียนตู้เอ่ยปาก “ใต้เท้าซูวางใจเถอะ ข้าจะเข้าไปกับเชียนหลีด้วย”

ซูหยินมองเฟิ่งเสวียนด้วยสายตานิ่งสงบ ก่อนจะพยักหน้า “เช่นนั้นก็ดี”

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม คุกใหญ่จวนชุ่นเทียน

เสียงแหลมคมชัดของเกาหลินดังลอยมา “จวิ้นจู่ระวังใต้เท้า ข้าน้อยให้คนมาทำความสะอาดล่วงหน้าแล้ว แต่อย่างไรคุกนี่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่สะอาดอยู่แล้ว อย่างไรก็ขอให้จวิ้นจู่ระวังด้วย”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่”

ในห้องขัง ซุนยู่จือถูกจับขังเดี่ยว บนข้อมือ ข้อเท้า และคอมีโซ่ผู้เอาไว้ บนร่างกายมีบาดแผลไม่มากเท่าไร แต่กลับมีกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อได้ยินเสียงเท้า ซุนยู่จือก็สะดุ้งทันที ขดตัวเป็นหนอนด้วยร่างที่สั่นเทา เอ่ยด้วยความหวาดกลัว

“ข้าบอกไปแล้ว ข้าบอกไปหมดแล้ว จริงๆ ไม่มีอะไรปิดบังเลย ไม่ได้โกหก...”

“สตรีชั่วช้าช่างบังอาจจริงๆ เห็นจวิ้นจู่แล้วยังไม่รีบคุกเข่าคำนับอีก?”

ซุนยู่จือได้สติขึ้นมาทันที ก่อนจะช้อนตามองก็เห็นฉู่เชียนหลีสวมชุดกระโปรงสีขาว แววตาของนางก็สว่างวาบทันที

“เชียนหลี เจ้ามาช่วยข้าออกไปใช่หรือไม่? ข้าอยากออกไป ข้าไม่อยากอยู่ที่!”

นางคิดว่าตัวเองโหดเหี้ยวมากพอแล้ว หลังจากเข้าคุก ถึงได้รู้ว่าฝ่าบาทเลี้ยงองครักษ์ลับเหล่านั้นไว้ วิธีการทรมานเพื่อดึงคำสารภาพออกมานั้นโหดร้ายกว่านางหลายเท่า

ฉู่เชียนหลีมองพิจารณาซุนยู่จือครู่หนึ่ง ใบหน้าเย็นชาถึงขีดสุด “ไม่ผิด ข้ามาพอเจ้าออกไป”

ซุนยู่จือคุกเข่าลงพื้น ใบหน้าดดูดีใจจนแทบคลั่ง “ดี ดีเหลือเกิน!”

ฉู่เชียนหลีหยิบขวดลายครามออกมา แล้วส่งให้เกาหลิน “คุณชายเกา รบกวนท่านหาคนเอาสิ่งนี้ไปป้อนให้ซุนยู่จือด้วย”

“ขอรับ”

“นั่นอะไร?” ซุนยู่จือมีสีหน้าหวาดกลัว ช่วงเวลานี้ นางถูกบังคับให้กินยาพิษมากมาย เพียงเพื่อให้นางทุกข์ทรมาน สารภาพเพิ่มเติมออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี