ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 148

สรุปบท บทที่ 148 ไม่มีอะไรยากในใต้หล้านี้ ตราบใดที่เต็มใจจะยอมแพ้: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

บทที่ 148 ไม่มีอะไรยากในใต้หล้านี้ ตราบใดที่เต็มใจจะยอมแพ้ – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

ตอนนี้ของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 148 ไม่มีอะไรยากในใต้หล้านี้ ตราบใดที่เต็มใจจะยอมแพ้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ฉู่เชียนหลีมองเซียวจวินยี่ที่ร้องไห้อย่างเงียบๆ นางไม่รู้ว่าเหตุใดตนถึงอย่าจะหัวเราะนัก นางช่างไม่มีจิตใจเมตตาเอาเสียเลย

“พี่เซียว เจ้าไม่เป็นอะไรจริงๆ หรือ?”

เซียวจวินยี่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่นจือ และเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเขา “ไม่เป็นไร แค่ความฝันมันได้ ดังนั้นจึงคิดจะหาวิธีเปลี่ยนมัน”

ตราบใดที่ยอมแพ้เร็วพอ ความล้มเหลวจะไม่มีวันตามเขาทัน

อีกด้านหนึ่ง ก็มีเสียงดังโวยวายดังขึ้นมา

“ข้าตักน้ำมาให้องค์ชายเล็ก ถังเล็กนี่ควรเป็นข้าหิ้ว!” โหลเชิ่งเอ่ยยืนกราน

ติงห่ายปฏิเสธอยู่ด้านข้าง “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าทำข้าสะดุด เจ้าจะได้ตักน้ำหรือไม่? ข้าฝึกฝนรอข้างบ่อมาสองชั่วยามแล้ว”

โจวเหลียวใช้โอกาสนี้เข้าไปตรงหน้าเซินเป่า “ท่านชายเซียว ข้าน้อยจะช่วยท่านหิ้วถังน้ำไปรดเหล่าเจ้าน้องโสมคน”

โหลเชิ่ง ติงห่ายหันกลับไปทันที “ไสหัวไป!”

บนเส้นทางการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานต่อหน้าองค์ชายเล็กเซินเป่า ถูกกำหนดให้เต็มไปด้วย “กลิ่นคาวเลือดอันคละคลุ้ง” !

ในเวลานี้หลิวเฟยลากหลี่เฉวียนไปข้างหน้าและปล่อยเขาไว้ตรงหน้าโหลเชิ่งและติงห่าย

“สองพี่น้อง หลี่เฉวียนน้องชายของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย ก่อนที่เขาจะตาย ความปรารถนาเดียวของเขาคือการได้รับใช้องค์ชายเล็ก รดน้ำให้โสมในทุ่ง ขอร้องพี่น้องทั้งสองให้โอกาสนี้ด้วยเถอะ!”

โหลเชิ่งและติงห่ายตะลึงงัน “นี่...”

หลี่เฉวียนที่ถูกพันด้วยผ้าทั้งตัว เขาพยายามทำให้ร่างกายของตัวเองตรงที่สุด ดูเหมือนคนที่ใกล้จะตายจริงๆ “ข้าขอร้อง...พี่น้อง...ทั้งสองล่ะ”

“แต่วันนี้วันเดียว?” โหลเชิ่งรู้สึกว่าต่อหน้าคนที่กำลังจะตาย เขายังต้องเกรงใจเพื่อให้เขาได้ตายตาหลับ

“ดี! ขอบคุณสองพี่น้องมาก!”

หลี่เฉวียนกระโดดขึ้นมาราวกับปลาคาร์พ รีบไปคว้าถังน้ำจากคนที่เดินตามหลังเซินเป่า จากนั้นเขาก็วิ่งไปทางทางเซินเป่าอย่างร่าเริง

“องค์ชายเล็ก วันนี้ข้าน้อยจะชดใช้ให้ท่าน”

หลิวเฟยวิ่งตามไป “องค์ชายเล็ก ให้ข้าน้อยอุ้มไปหรือไม่?”

เซินเป่าส่ายหัว ตอบกลับอย่างชาญฉลาด “ลุงหลี่ ลุงหลิว เซินเป่าเดินเองได้”

โหลเชิ่ง ติงไห่ตกตะลึง โธ่เอ๊ย!

พวกเราคือสุนัขรับใช้ พวกเจ้านี่ช่างไม่ใส่ใจเลยจริงๆ!

เซียวจวินยี่มองดูฉากนี้ อยู่ๆ ก็ตบมือราวกับนึกอะไรออก

“น้องเชียนหลี จิ่นจือ พวกเจ้าทำธุระต่อเถอะ ข้าจะไปหาเจ้าชมพู”

ที่แท้การเป็นน้องชายก็ต้องมีความรู้เช่นกัน เขาดูแลพี่ชมพูเป็นอย่างดี แล้วก็ให้คำแนะนำเล็กน้อย แก้ไขวิธีการที่เอาเขาขึ้นบิน เช่นนั้นการเป็นจอมยุทธ์ของตัวเองก็อยู่ไม่ไกลแล้วใช่หรือไม่?

เมื่อเห็นเซียวจวินยี่วิ่งไปอย่างตื่นเต้น ฉู่เชียนหลีก็หัวเราะออกมา “ผู้พี่ ข้าไม่คิดว่าพี่เซียวกับเจ้าชมพูจะเล่นสนุกกันขนาดนี้”

ซูจิ่นจือสะบัดแขนเสื้อที่เปื้อนน้ำตา และพูดอย่างจนใจ “องค์หญิงใหญ่รักจวินยี่มาก และไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าล่วงเกินเขา นิสัยของเขาก็ยิ่งไม่เอาถ่านมากขึ้นเรื่อยๆ”

“ไปเถอะ ข้ามีเรื่องอยากหารือกับผู้พี่และท่านลุง”

“ตกลง”

ซูหยินได้ยินว่าฉู่เชียนหลีอยากหารือ จึงรีบเดินเข้ามา

“เชียนหลี มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”

ฉู่เชียนหลีนั่งลงและเฟิ่งเสวียนตู้นั่งลงที่ข้างนาง

“ท่านลุง ดูจากสภาพของตระกูลอู๋แล้ว ฉู่หานปี้ไม่น่าจะกลับมาได้ซักพัก”

ถ้าเขามีวิธีแก้แค้นนาง เขาจะไม่ใช้ตระกูลอู๋มาสังหารนาง

ในสมุดเล่มนั้น ถ้าเป็นระดับปรมาจารย์ ระดับปรมาจารย์เสวียนทิพย์ หากไม่พยายามจนถึงที่สุด เมื่อถึงตอนนั้นจะเอาชนะวัตถุดิบเหล่านั้นได้อย่างไร?

ฉู่เชียนหลีมองทั้งสองที่เต็มไปด้วยปณิธานแห่งการต่อสู้ ในใจก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น “ขั้นตอนต่อไปคือการหาหินวิญญาณ ข้าจะไปเค้นถามไป๋หลี่หง...”

เฟิ่งเสวียนตู้หยิบซองจดหมายออกมาหนึ่งฉบับ วางไว้ในมือของฉู่เชียนหลี “เทียนซูสอบถามจนชัดเจนแล้ว ในนี้คือคำสารภาพของไป๋หลี่หง”

ฉู่เชียนหลีตกตะลึงทันที ก่อนจะกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เจ้าขี้เหร่ เจ้าช่างใส่ใจเหลือเกิน!”

เจ้าขี้เหร่กังวลกับสิ่งที่นางกังวล และคิดถึงสิ่งที่นางกำลังคิด

เฟิ่งเสวียนตู้มองสายตาที่ชัดเจนของนาง ริมฝีปากยกยิ้ม “เจ้ามีความสุขหรือไม่?”

“แน่นอน!”

“เช่นนั้นก็ดี”

ฉู่เชียนหลีเหยียดมือออกตบไหล่เฟิ่งเสวียนตู้แรงๆ จากนั้นก็เปิดจดหมายออกแล้วมองดูอย่างละเอียด ก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“หุบเขาไร้เงา?”

นี่นี่คือสถานที่ที่นางอยู่กับเซินเป่าเมื่อห้าปีก่อนไม่ใช่หรือ? หินวิญญาณของไป๋หลี่หง ได้มาจากหุบเขาไร้เงาหรือ?

เฟิ่งเสวียนตู้พยักหน้า “พอเห็นว่าเป็นสถานที่นี้ทำให้ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆ แต่พอคิดๆ ดูแล้วก็สมเหตุสมผล หุบเขาไร้เงามีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก อีกอย่างมีธารน้ำเยือกและน้ำพุร้อนบนหุบเขา และยังมีพืชประเภทเจ้าชมพูด้วย มองอย่างไรก็ไม่ใช่สถานที่ธรรมดา”

ฉู่เชียนหลีเอามือเท้าคาง และเม้มปากเบาๆ ความคิดล่องลอยไปไกล

เมื่อห้าปีที่แล้ว เหตุผลที่นางเลือกหุบเขาไร้เงาเพื่อตั้งรกราก เพราะรู้สึกว่าที่นี่มันดูสบายตาเป็นพิเศษ เมื่อรู้ว่านางตั้งครรภ์ในภายหลัง นางก็อยากไปในที่ที่ที่สะดวกสบายกว่าเพื่อบำรุงครรภ์ของนาง แต่สุดท้ายก็อยู่เพราะที่หุบเขานี้มีสมุนไพรทุกชนิด

ต่อมา ก็ปลุกพลังทิพย์ของนางโดยไม่ได้ตั้งใจ นางรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ในหุบเขาไร้เงา เพราะนางไม่ได้เดินบนเส้นทางฝึกตนอย่างเป็นทางการในขณะนั้น และไม่ได้อ่อนไหวพอกับความรู้สึกภายนอก ไม่อย่างนั้น นางคงพบหินวิญญาณตั้งนานแล้ว

“ท่านลุง เช่นนั้นพวกเราจัดบ่าวรับใช้มาเตรียมของให้เรียบร้อยแล้วออกจากเมืองหลวงในอีกสองวันเถอะ”

“ตกลง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี