ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 151

ฉู่เชียนหลีและเฟิ่งเสวียนตู้เข้าไปในเขาไร้เงา ฝีเท้าเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นตามทาง ร่างเบานั้นมุ่งหน้าไปทางเชิงเขาอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้ได้เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว อุณหภูมิภายในเขาไร้เงาอบอุ่นทว่าเย็นสบาย

ฉู่เชียนหลีเป็นคนที่ไม่ทนร้อยเป็นที่สุด การเดินทางในสองวันนี้ต่างก็แสดงท่าทีเกียจคร้านไม่อยากจะเคลื่อนไหว ในเวลานี้ยิ่งเข้าใกล้ธารน้ำเยือกที่อยู่ในหุบเขา บรรยากาศก็ยิ่งเย็นสบายมากขึ้น ทำให้นางดูคึกคักขึ้นมาเป็นพิเศษ

กลางหุบเขา ร่างผอมบางเดินซวนเซอยู่สองก้าวก็กระอักเลือดออกมา หลังจากนั้นก็ล้มลงที่ด้านข้างของธารน้ำเยือก

ฉู่เชียนหลีและเฟิ่งเสวียนตู้มาถึงที่บริเวณปากทางเข้าหุบเขาแล้ว ทั้งสองตัดสินใจหยุดฝีเท้าลงและเดินเข้าไปช้า ๆ อย่างไม่ได้นัดหมาย

“ฮ่า ๆ” อยู่ดีดีฉู่เชียนหลีก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “เจ้าขี้เหร่ อยู่ดี ๆ ข้าก็คิดถึงตอนที่เจอเจ้าครั้งแรกขึ้นมา ตอนนั้นเมื่อมองเจ้าจากด้านหลัง ช่างดูเป็นชายหนุ่มที่งดงามเหลือเกิน”

เฟิ่งเสวียนตู้เหลือบตา เขาได้ปล่อยวางเรื่องรูปร่างหน้าตาของเขาในตอนนี้ไปแล้ว “พอเห็นด้านหน้าก็ไม่ใช่แล้วหรือ?”

“ตอนนั้นข้าเพียงแค่มองครั้งเดียว จากนั้นก็ไม่กล้ามองหน้าเจ้าตรง ๆ อีก”

สำคัญคือตอนนั้นยังขาดความกล้าอีกเล็กน้อย แต่พอพูดถึงแล้ว สภาพของเจ้าขี้เหร่ในตอนนี้พอเคยชินแล้ว ก็รู้สึกว่าดีทีเดียว

“ว่าจะย่างปลาเงินธารน้ำเยือก ข้าจะให้โอกาสเจ้าลองพูดใหม่อีกครั้ง” เฟิ่งเสวียนตู้พึมพำออกมาเบา ๆ ในตอนนี้ไม่มีคนอื่นอยู่ เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นอย่างมาก คำพูดคำจาก็สบาย ๆ ตามไปด้วย

ฉู่เชียนหลีเกลีบดการปวดเท้าเพราะเดินทาง จึงได้ลากแขนเสื้อของเฟิ่งเสวียนตู้ เอามือคล้องไว้ที่ไหล่ของเขา “เจ้างาม เจ้างามที่สุด!”

เฟิ่งเสวียนตู้ยกริมฝีปากขึ้น เดินช้าลงเพื่อให้ตรงจังหวะก้าวเท้าช้า ๆ ของนาง “อืม”

“เช่นนั้นข้าจะกินปลาเงินธารน้ำเยือกย่างห้าตัว”

“ย่างให้เจ้าหกตัว”

เขา ตี้จวินหงส์ผู้สูงส่ง ต้องไม่ธรรมดา

ฉู่เชียนหลีลูบท้องตัวเอง “อ๋า หกตัวกินไม่ไหว”

“ไม่ย่างแล้ว” เขาก็มีอารมณ์เหมือนกัน

“กินไหว หกตัวก็หกตัว!”

“อื้ม ” เฟิ่งเสวียนตู้ตอบรับอย่างพึงพอใจ

แบบนี้ถึงจะถูก เป็นผู้ชายก็ต้องครองอำนาจในงานใหญ่ ๆให้ได้!

ฉู่เชียนหลีกำลังพยายามกลั้นขำอยู่ข้าง ๆ ทันใดนั้น มีกลิ่นคาวเลือดลอยมาแตะที่ปลายจมูก

“เหมือนจะมีบางอย่างไม่ปกติ”

เฟิ่งเสวียนตู้ขมวดคิ้ว เขาหาข้ออ้างให้ได้ออกมากับฉู่เชียนหลีตามลำพังด้วยความยากเย็น นี่ยังจะถูกรบกวนอีกหรือ?

ทั้งสองคนรีบสาวเท้าเดินหน้า ตรงที่ไกล ๆ ฉู่เชียนหลีมองเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่ข้างลำธาร

คนคนนั้นตอนนี้อยู่ในอาการสลบไสล เสื้อผ้าบนร่างกายนั้นขาดหวิ่น มีรอยดาบฟาดฟันทุกที่บนร่าง เห็นได้ชัดว่าบาดแผลนั้นเพิ่งมีไม่นาน ยังมีเลือดสด ๆ ไหลออกมาอยู่เลย

ฉู่เชียนหลีรีบเดินขึ้นไป จากนั้นนัยน์ตาก็ฉายแววประหลาดใจ

คนคนนี้มองดูน่าจะอายุเพียง16-17ปี ใบหน้าเกลี้ยงเกลา กลมมน หากจะเรียกว่าเป็นหนุ่มหล่อก็ไม่ได้เกินจริงเลย เขาหลับตาอยู่ แต่ขนตางอนยาวนั้นก็ยังคงขยับเขยื้อนไม่หยุด ราวกับกำลังอยู่ในฝันร้าย

“ว้าว...”

ที่ริมธารน้ำเยือกเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรืออย่างไร? เดี๋ยวก็มีหนุ่มรูปงามตกลงมาอยู่เรื่อย?

เฟิ่งเสวียนตู้ยิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก ‘ว้าวนี่หมายความว่าอย่างไร?’

“คนที่ไม่รู้ที่มาที่ไป อย่าไปสนใจเลย”

“เจ้าขี้เหร่ เจ้าดูน้องชายคนนี้สิ แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนเลว” ที่สำคัญคือเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นแค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของถูก

ฉู่เชียนหลีคุกเข่าลง เอื้อมมือไปจับชีพจรให้ชายหนุ่มคนนั้น ทันใดนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หยิบเข็มทองออกมาช่วยรักษาเขา

ถึงแม้จะเป็นพิษหายาก แต่ก็สามารถถอนได้ เพียงแต่บาดแผลภายในร่างกายนี้ เหตุใดราวกับถูกโจมตีด้วยพลังเสวียน?

เฟิ่งเสวียนตู้สูดหายใจเข้าออก รู้สึกเพียงว่าอวัยวะภายในเริ่มเจ็บปวด

อะไรคือแค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนเลว? คนเลวยังสามารถเอาคำว่า ‘เลว’ แปะไว้บนหน้าได้ด้วยหรือ?

มู่ซิวหานรู้สึกถึงพิษในร่างกายทำงาน การหายใจค่อย ๆ ลำบากขึ้น เขารู้ดีว่าตัวเขาใกล้จะตายแล้ว แต่เขาไม่ยอมรับ

ฉากที่เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ถูกฆ่าปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาไม่หยุด ไฟที่ลุกท่วมผืนฟ้าเพียงแค่พริบตาเดียวก็ทำให้ทั้งเมืองจมลงสู่ทะเลเพลิง

“หนี หานเอ่อร์ รีบหนี...”

“ไม่ เสด็จพ่อ เสด็จแม่!”

ไฟที่ลุกโชน เลือดสดส่องประกายอยู่ตรงหน้าเขา แต่สิ่งที่เรียนมาหลายปีมานี้กลับใช้ในสถานการณ์จริงไม่ได้แม้แต่น้อย ช่วยไม่ได้แม้แต่คนที่สำคัญที่สุดของตน!

เขารู้สึกว่าร่างกายเย็นขึ้นเรื่อย ๆ ความหนาวเหน็บเข้ากระดูกนี้กำลังจะทำให้เลือดในร่างกายของเขาแข็งตัว

ความเคียดแค้นอันรุนแรงหลอมรวมกันอยู่ในใจ มู่ซิวหานพยายามอดทน ‘เขาตายไม่ได้ ไม่ใช่ความโลภของมนุษย์ แต่เป็นความแค้นที่ยังไม่ได้รับการชำระ ช่วยเขาด้วย... ใครก็ได้ช่วยเขาที...’

ทันใดนั้น พลังความอบอุ่นก็ถูกส่งไปทั่วทั้งร่างกาย จากนั้นพิษที่คอยกัดกินเขาอยู่ก็ถูกกดไว้ในทันที

มู่ซิวหานพยายามลืมตาขึ้น ในเวลาต่อมา ท้องฟ้าสีครามสดใสก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า

เขารับรู้ได้ว่าตนยังไม่ตาย ในใจก็รู้สึกดีใจขึ้นมา จากนั้นก็รีบร้อนพยายามพยงตัวลุกขึ้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและความดุร้าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี