ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 155

สรุปบท บทที่ 155 โลกแย่ลงทุกวัน คนกลุ่มหนึ่งกลับทำสิ่งนี้กับจิ้งจอก: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

สรุปเนื้อหา บทที่ 155 โลกแย่ลงทุกวัน คนกลุ่มหนึ่งกลับทำสิ่งนี้กับจิ้งจอก – ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

บท บทที่ 155 โลกแย่ลงทุกวัน คนกลุ่มหนึ่งกลับทำสิ่งนี้กับจิ้งจอก ของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เซินเป่าเรียกคืนสติ ทันใดนั้นนัยน์ตาก็พลันเป็นประกายวิบวับ รีบวิ่งเข้าไปหาจิ้งจอกหิมะ ปลุกปล้ำอยู่กับมันเช่นนั้น

“ปีศาจจิ้งจอก!”

“โอ้ว!”

ใจกลางป่า แววตาประหลาดใจของฉู่เชียนหลีกำลังมองเจ้าจิ้งจอกตัวใหญ่นั่น อุทานออกมา “อสูรเสวียนสามารถกลายร่างได้ด้วย?”

เฟิ่งเสวียนตู้เอ่ยปากอธิบาย “อสูรเสวียนระดับสี่เทียบเท่ากับการบำเพ็ญตนของปรมาจารย์มหาเสวียน ร่างเดิมจริง ๆ แล้วใหญ่มาก หากแต่อยู่ในสถานที่ที่พลังเสวียนไม่เพียงพอเท่านั้น จึงได้กลายเป็นวัยเยาว์เช่นนี้ เจ้าจิ้งจองที่อยู่ตรงหน้านั้นน่าจะเป็นจิ้งจอกน้ำแข็งที่กลายพันธุ์ จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์ เมื่อครู่ยังตัวเล็กนิดเดียว แม้แต่เซินเป่าก็ยังสู้ด้วยไม่ได้ น่าจะได้รับบาดเจ็บแล้ว”

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์คาดคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่ามันกลายร่างใหญ่ขนาดนี้แล้ว เจ้าลูกมนุษย์ตัวน้อยตรงหน้าไม่เพียงแค่ไม่กลัว อีกทั้งยังทุบมันแรงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

ทันใดนั้นมันก็หยุดอยู่ที่เดิม วิชาเสวียนแดนมายาเริ่มต้นอีกครั้ง ‘เจ้าเด็กน้อย ตายเสีย!’

เซินเป่ารู้สึกเหมือนมีบางอย่างผ่าเข้าไประหว่างคิ้ว ดูเหมือนว่าต้องการจะทำให้เขาหลับ แต่เขายังตีกับเจ้าจิ้งจอกไม่เสร็จ จะหลับไม่ได้!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เซินเป่าก็ปาดหน้าผากเบา ๆ สติก็กลับคืนมาในทันใด วิ่งไปข้างหน้ากอดอุ้งเท้าหน้าของเจ้าจิ้งจอกใหญ่และหงายหลังลงไปอย่างแรง เจ้าจิ้งจอกใหญ่ล้มลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็เดินขึ้นไปเยียบอยู่บนท้องของเจ้าจิ้งจอกใหญ่ปาดเหงื่อบนหน้าผากออก

“โอว!”

หืม! เหตุใดวิชาเสวียนจึงใช้ไม่ได้ ลูกมนุษย์แห่งโลกธุลีเหตุใดจึงน่ากลัวเช่นนี้?

“จิ้งจอกบ้า เจ้าจะยอมแพ้หรือไม่?”

“โอว!”

ลูกมนุษย์ ราชาจิ้งจอกจะเอาจริงแล้ว!

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์รวบรวมพลังเสวียนอีกครั้ง ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จนมีขนาดเท่า ๆ กับครึ่งตัวคน

เซินเป่าแอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ กลายร่างเสียใหญ่ถึงเพียงนี้รู้สึกไม่ค่อยสนุกแล้ว “เจ้า...”

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์สองมือเท้าสะเอว จากนั้นก็พ่นควันขาวพวยพุ่งไปยังพุ่มไม้ข้าง ๆ นาทีต่อมา พุ่มไม้นั้นก็ถูกแช่แข็งในทันใด

“จือ จือ!”

เจ้าเด็กบ้า กลัวหรือไม่เล่า? วันนี้ราชาจิ้งจอกจะแช่เจ้าให้แข็งเป็นก้อนน้ำแข็ง!

เซินเป่าสูดลมหายใจ จากนั้นก็หลับตาแล้วตะโกนเสียงดัง “ท่านแม่ เซินเป่าอยากทำจิ้งจอกตุ๋นโสมเขียวให้ท่านกิน!”

ความหนาวเย็นปกคลุมอย่างกะทันหัน

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์จู่ ๆ ก็รู้สึกไม่ดี ตามสัญชาตญาณของสัตว์บอกให้มันรีบหนีไป จากนั้นมันหันหลังกลับและวิ่งไปที่รังของมันโดยไม่แม้แต่จะคิด

นาทีต่อมา ร่างในชุดขาวพลันทิ้งตัวลงกลางป่า

ฉู่เชียนหลีหยิบแส้ยาวออกมา ฟาดลงไปที่จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์เต็มแรง

“ป้าบ!”

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์หลบได้ทัน ก้อนหินที่อยู่บนพื้นแตกกระจายเป็นฝุ่นผง

“โอว!”

ขนบนตัวจิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์แทบจะร่วงหมดอยู่แล้ว นี่มันตัวประหลาดอะไรอีก?

ฉู่เชียนหลีเห็นเจ้าจิ้งจอกใหญ่หลบไปได้ อดไม่ได้ที่จะเผยแววตาเป็นประกาย “สมแล้วที่เป็นอสูรเสวียนระดับสี่ จับความเคลื่อนไหวได้อย่างละเอียด”

เซินเป่ารีบปีนขึ้นมา เลียนแบบท่าทางเท้าสะเอวของเจ้าจิ้งจอกใหญ่แล้วหัวเราะเย้ยหยันด้วยหยิ่งผยองเป็นพิเศษ “เจ้าอย่าหนีสิ โสมเขียวเตรียมไว้แล้ว ขาดก็แค่เจ้าจิ้งจอกใหญ่เท่านั้น!”

ปีศาจจิ้งจอกที่สามารถขยายร่างให้ใหญ่ได้มีอะไรน่าภูมิใจกัน เขาคือปีศาจโสมคนที่มีท่านแม่คอยปกป้องต่างหาก!

เก่งกาจที่สุดในโลกหล้า!

ฉู่เชียนหลีหัวเราะเบา ๆ ปลายเท้าขยับเล็กน้อย และตามจิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์ไ

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์ไม่กล้าหยุดฝีเท้า วิ่งได้ข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต ไม่นานก็มาถึงที่หน้าผา เท้าทั้งสี่เหมือนลม วิ่งไปที่ถ้ำบนกำแพงภูเขา“จือ!”

มันหยุดลงที่ปากถ้ำ รูปลักษณ์ที่นุ่มนวลและน่ารักก่อนหน้านี้หายไปในทันใด ถูกแทนที่ด้วยรังสีแห่งความดุร้ายและทรงพลังแทน

ในถ้ำมีพลังเสวียนอุดมสมบูรณ์ มากพอให้มันนำมาใช้ ไม่ต้องกังวลใจว่าพลังเสวียนหมดไป

มนุษย์โง่เง่า วันนี้ราชาจิ้งจอกจะแช่แข็งพวกเจ้าทุกคน!

“ซือ!”

ควันขาวเต็มอากาศ ฉู่เชียนหลีก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก็พบว่าพื้นรองเท้าถูกหุ้มด้วยชั้นน้ำแข็งอย่างรวดเร็วและยึดตัวนางเอาไว้กับที่

“เอ๋?”

ฉู่เชียนหลีมองน้ำแข็งที่ขา มีแสงแวบเข้ามาในดวงตา จากนั้นก็พึมพำเสียงเบา “ถึงฤดูร้อนแล้ว เป็นฤดูกาลที่เหมาะจะกินน้ำแข็ง...”

จากนั้น พลังทิพย์ก็ปะทุขึ้นมา น้ำแข็งแตกออก กลายเป็นน้ำแข็งปั่นกระจายไปทั่ว

ฉู่เชียนหลีกำแส้ในมือขึ้น ม้วนเอาจิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์ที่พยายามพ่นไอเย็นอย่างเต็มกำลังเข้ามา แล้วโยนลงกับพื้นอย่างแรง

“จือจือ!”

พื้นดินสะเทือนภูเขาขยับ จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์นอนอยู่บนพื้นที่ถูกทุบจนกลายเป็นหลุมลึกรูปร่างจิ้งจอก

“เซินเป่าอย่ากลัว แบบนี้เจ้าจิ้งจอกใหญ่ก็เชื่องขึ้นแล้ว”

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์เคลื่อนไหวพลังเสวียนเพื่อให้หลุดพ้น แต่เชือกไม่เพียงไม่หลุดออก แต่กลับแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

“จือ จือ!”

มีบางอย่างผิดพลาดเป็นแน่!

ฉู่เชียนหลีเห็นเจ้าจิ้งจอกหนีไม่ได้แล้ว ก็หันหลังเข้าไปมองภายในถ้ำบนหน้าผา

“ข้าจะเข้าไปดู”

เฟิ่งเสวียนตู้เก็บยิ้มที่ริมฝีปาก ก้าวไปข้างหน้าและจับมือนางไว้ “ข้าไปกับเจ้า”

“ดีเลย”

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์ความเจ้าเล่ห์ฉายแวววับวาบในแววตา มันส่งเสียงแหลมสองสามครั้ง ดิ้นรนอย่างหนักราวกับว่าพยายามที่จะหยุดไม่ให้ทั้งสองคนขึ้นไป

มันเพิ่งพบว่า มีร่องรอยของใครบางคนเข้ามาในถ้ำ บางสิ่งบางอย่างถูกฝังอยู่ใต้ดิน ไม่ใช่ด้วยเจตนาดีอย่างแน่นอน เข้าไป เข้าไปให้หมด!

“ท่านแม่ เซินเป่าก็ไปด้วย”

“เจ้ากับเจ้าปู่เฟิ่งรออยู่ด้านนอก หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นในถ้ำด้านบน ท่านแม่ค่อยลงมารับเจ้า” ฉู่เชียนหลีพูดด้วยเสียงจริงจัง

“ก็ได้ เช่นนั้นเซินเป่ารอท่านแม่ ท่านแม่ต้องระวังตัวด้วย”

“อืม”

ฉู่เชียนหลีและเฟิ่งเสวียนตู้เคลื่อนตัวเข้าไปในถ้ำ แค่เพียงเหยียบเข้าไปในถ้ำ ก็ถูกแสงวิบวับเจ็ดสีทำให้ตกตะลึงจนต้องหยุดอยู่กับที่

ที่กลางถ้ำ เต็มไปด้วยหินทิพย์ บ้างก็โผล่พ้นกำแพงถ้ำ เปล่งแสงเรืองแสงออกมาบ้าง ภายในถ้ำทั้งหมดมีพลังทิพย์เข้มข้นจนถึงขีดสุด หายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ฉู่เชียนหลีก็สามารถรู้สึกได้ถึงระดับพลังทิพย์ภายในร่างกายที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น

“เป็นที่ที่ดีเสียจริง!”

ฉู่เชียนหลีเดินเข้าไปด้านใน ถ้ำนั้นทั้งสูงทั้งใหญ่ กว้างขวางและแห้งแล้ง นางกดลงกำแพงหิน พลังทิพย์ถูกส่งออกไปสำรวจ ทันใดนั้นสว่างก็ปรากฏขึ้นในดวงตาอีกครั้ง

กำแพงภูเขาเล็ก ๆ แห่งนี้ นอกจากเปลือกหินที่เผยให้เห็น แต่กลับเต็มไปด้วยหินทิพย์ซ้อนกันอยู่เป็นกอง

“รวยแล้ว!” ฉู่เชียนหลีตื่นเต้นจนกระโดดเข้าไปกอดเฟิ่งเสวียนตู้ “เจ้าขี้เหร่ หินทิพย์ หินทิพย์ทั้งนั้นเลย!”

เฟิ่งเสวียนตู้เอื้อมมือไปโอบเอวของนางไว้ ในใจก็ดีใจอย่างมากเช่นกัน “ดีจริง ๆ”

ทั้งสองไม่ได้สังเกตเห็น ค่ายกลอันหนึ่งกำลังค่อย ๆ สว่างขึ้นใต้เท้าของพวกเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี