ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 156

สรุปบท บทที่ 156 ออกไป!: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

สรุปตอน บทที่ 156 ออกไป! – จากเรื่อง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

ตอน บทที่ 156 ออกไป! ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดยนักเขียน เย็นอวี่ฟังหัว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ช่วงเวลาถัดมา ฉู่เชียนหลีรู้สึกเพียงว่ามีเสียงเหวิง ๆ บาดหูดังอยู่ในสมอง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ตรงหน้ากลายเป็นทะเลเพลิงที่โหมกระหน่ำ

ท้องฟ้าถูกไฟเผาจนแดงก่ำ เมฆที่เป็นลูกคลื่นนั้นเต็มไปด้วยพลังมหาศาล

ลาวาปะทุขึ้นจากพื้นดิน ในการปะทุแต่ละครั้งทิ้งรอยลึกไว้บนพื้น

ความรู้สึกแสบร้อนเกิดขึ้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้นางหน้าซีดเผือด ตกอยู่ในภวังค์

เกิดอะไรขึ้น?

แล้วที่นี่มันคือสถานที่ใดอีก?

อีกด้านหนึ่ง เฟิ่งเสวียนตู้รู้สึกว่าร่างกายหยุดนิ่ง ทั้งการได้ยินก็หายไปในทันที แสงสีเงินเล็ก ๆ ปรากฏขึ้น ก่อตัวเป็นแม่น้ำสีเงินไหลยาว

จากนั้น เขาก็ค่อย ๆ จมลงไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด จนร่างของเขารวมเข้ากับแม่น้ำสีเงินนั้นในที่สุด

เวลาไหลไปไม่มีที่สิ้นสุดและไม่มีเสียงใดใด

ในห้วงเวลาอันยาวนาน ประมาทเพียงเล็กน้อย จะถูกบดขยี้ ถูกทำลายล้างอย่างสมบูรณ์

ด้านล่างกำแพงภูเขา ผู้อาวุโสใหญ่รับรู้ได้ถึงแรงผันผวนของค่ายกล สายตาเฉียบคมมองไป “ไม่ดีล่ะ!”

เซินเป่าเครียดขึ้นมาทันที “เจ้าปู่เฟิ่ง เป็นอะไรไป?”

ผู้อาวุโสใหญ่รีบกดอารมณ์ให้อยู่ในความปกติ “เซินเป่า เจ้าอาขี้เหร่กับท่านแม่ของเจ้าเจอเรื่องบางอย่างอยู่ เจ้ารออยู่ที่นี่ เจ้าปู่เฟิ่งเข้าไปช่วยพวกเขา เทียนชู!”

เทียนชูได้ยินเสียงเรียก ละเลยการคุ้มกันของซูจิ่นจือและคนอื่น ๆ ทันที แปรพลังเสวียน เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปยังตำแหน่งที่ผู้อาวุโสใหญ่อยู่

“ผู้อาวุโสใหญ่?”

“ดูแลองค์ชายเล็กให้ดี นายท่านติดกับดักแล้ว”

“ขอรับ”

ไฟที่โหมกระหน่ำ ฉู่เชียนหลีรู้สึกเหมือนกับว่าเลือดกำลังจะแห้งไปเพราะเปลวเพลิง

บนท้องฟ้ามีฟ้าร้อง ทุกเสียงสามารถทำให้หูหนวก ราวกับว่านางเข้ากันไม่ได้กับความแตกต่างของโลก มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่จะคืนความบริสุทธิ์ให้โลกใบนี้ได้

กลางอากาศ ดวงตาคู่หนึ่งก็สว่างขึ้น พร้อมด้วยความเย่อหยิ่งและดูถูกเหยียดหยาม

“สัตว์ร้าย ยังไม่รีบยอมจำนนอีกหรือ ยอมจำนนต่อข้า กลายมาเป็นอสูรเสวียนของข้า?”

ฉู่เชียนหลีมองไปที่ดวงตาคู่นั้น ความโกรธและความอยุติธรรมผุดขึ้นในใจ “บ้าอะไรเนี่ย?”

“หือ?”

แววตานั้นสั่นไหว จับตาสถานการณ์ในทะเลเพลิงให้ละเอียดยิ่งขึ้น

ในทะเลเพลิง ไม่ใช่จิ้งจอกอสูรเสวียนที่เขาต้องการกัดขัง แต่เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างผอมเพรียว ในเวลานี้ นางยืนตัวตรงอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิง ใบหน้างดงามนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา

ฉู่เชียนหลีรี่ตาลง ค่อย ๆ หยิบแส้ที่บริเวณเอวออกมา ชี่ทิพย์ที่ปะทุขึ้นมาหลอมรวมอยู่บนแส้ยาว

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคืออะไร แต่จับข้ามาขังไว้ในค่ายกล ช่างคิดเสียจริง!”

ในตอนนั้นค่ายกลที่นางใช้มือฉีกนั้นหากเอามาต่อกันสามารถพันรอบโลกได้สามรอบครึ่ง

ฉู่เชียนหลียืนขึ้น แส้ยาวในมือเหมือนสายฟ้า ฟาดลงไปที่ดวงตาคู่นั้นที่อยู่เหนือค่ายกล!

“เพี๊ยะ!”

ท้องฟ้าสีแดงเข้มแกว่งไกวเป็นระลอกคลื่น มีเสียงกรีดร้องลอยออกมา ดวงตาบนท้องฟ้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้ว เกิดความรู้สึกประหลาดขึ้นในใจ

ค่ายทิพย์ตรงหน้านั้นไม่มีรอยต่อ เห็นได้ชัดว่าอยู่ในระดับดี แต่คนที่ใช้ค่ายทิพย์กลับไม่สามารถต้านแส้ยาวของนางได้

“อือ? พลังอ่อนแอถึงเพียงนี้ กลับจะมาเล่นตุกติกกับคนอื่น?”

สถานที่หนึ่งหลังภูเขาไร้เงา ชายคนหนึ่งเอามือปิดตาและกรีดร้องโหยหวน มีเลือดไหลออกมาจากสองมือ เขารีบหยิบขวดยาออกมา กินยาเซียนไปหลายเม็ดติดต่อกัน จึงจะสามารถหยุดบาดแผลนั้นไว้ได้

“อาจารย์ไม่ได้บอกว่า ค่ายกลไร้ขอบเขตสามารถกระตุ้นเงาที่ลึกที่สุดในใจคนได้ ฆ่าจิตวิญญาณการต่อสู้ทั้งหมด ทำให้คนไม่สามารถต้านทานได้แม้เพียงเล็กน้อย? เหตุใดคนชั้นต่ำกลางค่ายกลเมื่อครู่ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย?”

ข้างกายชายหนุ่ม ฉู่หานปี้ที่แขนขาดไปหนึ่งข้างกำลังตื่นตระหนก มองศิษย์พี่สวีหยวนของตน จากนั้นก็เอ่ยปากขึ้นอย่างระมัดระวัง

“ขอรับ ข้าน้อยออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้!”

สวีหยวนรีบลากฉู่หานปี้ขึ้น หนีไปด้วยความตื่นตระหนก

การใช้พลังเสวียนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นมาขู่บังคับ ช่างแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าอาจารย์ ผู้ฝึกตนเช่นนี้คนหนึ่งซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาในป่าลึก อีกทั้งยังมีเซียนหญิงที่มีพลังแข็งแกร่งคอยอยู่ข้าง ๆ ไม่แน่อาจจะกำลังฝึกแบบ1-1อย่างมีความสุข

เขาอยู่ ๆ ก็พุ่งเข้าไป หมายคิดอยากจะจับอสูรทิพย์ของพวกเขา และยังไปรบกวนการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขของเขาอีก ไม่เหมือนการตอกรังแตนหรอกหรือ?

วิ่งออกไปหลายสิบลี้ ด้านหลังก็ไม่มีการเคลื่อนไหว สวีหยวนจึงได้หยุดฝีเท้าลงอย่างน่าเวทนา

สภาพของฉู่หานปี้หนักยิ่งกว่า มีคราบเลือดจากการถูกกิ่งไม้เกี่ยวตามร่างกาย รองเท้าหายไปหนึ่งข้างระหว่างการวิ่งหนี มองไปรอบ ๆ อย่างกังวลใจ

“ศิษย์พี่ น่าจะ... น่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้ว?”

“ยังดีที่ท่านอาวุโสคนนั้นไม่ได้ตามมา สวีหยวนคิดถึงค่ายกลไร้ขอบเขตที่เสียไป เจ็บปวดใจจนแทบกระอักเลือด “ศิษย์น้องฉู่ ศิษย์พี่ออกมาครั้งนี้ นั่นก็เป็นเพราะเจ้า! แม้แต่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งฝึกตนเจ้ายังไม่สามารถสู้ได้ ศิษย์พี่ข้าจึงได้ออกมาช่วยเจ้าระบายความโกรธ ดังนั้นการสูญเสียค่ายกลไร้ขอบเขต ก็เป็นความผิดของเจ้าด้วยเช่นกัน”

ฉู่หานปี้ใบหน้าขาวซีด “ศิษย์พี่ นี่...”

“นี่อะไร รอให้อาจารย์ออกมา ข้าจะต้องรายงานไปตามความเป็นจริงแน่! หึ!”

ฉู่หานปี้มองสีหน้าเย่อหยิ่งของสวีหยวน กัดฟันแน่น “ศิษย์พี่ ตอนนี้พวกเรารีบกลับไปเมืองหลวงของตงเสวียนเถอะ? เผื่อว่าท่านอาวุโสท่านนั้นจะตามออกมาอีก”

จับฉู่เชียนหลีได้ ส่งมอบให้อาจารย์ อาจารย์ต้องให้อภัยเขาแน่

“เช่นนั้นเจ้าจะยืนนิ่งอยู่ทำไม? รีบไปนำทางเสีย” สวีหยวนตระโกนอย่างโกรธเคือง

“ได้... ได้”

“ใช่แล้ว น้องหญิงคนนั้นของเจ้า ที่ชื่อฉู่เชียนหลีอะไรนั่น ใบหน้างดงามมากจริงหรือ?”

“เป็นเช่นนั้น ข้าติดตามอาจารย์มาเนิ่นนาน เห็นหญิงงามในเมืองมาก็มากมาย ไม่มีสักคนที่จะเทียบนางได้”

“ฮึ เห็นมาน้อยจึงได้ประหลาดใจ ต่อให้งามเพียงใดก็ไม่อาจงดงามได้เท่ากับเซียนหญิงที่อยู่ข้างกายท่านอาวุโสท่านนั้นหรอก?” สวีหยวนคิดถึงหญิงสาวงดงามคนนั้นที่ยืนอยู่กลางค่ายกล ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา

ซืด ครั้งนี้เสียเปรียบไปมากจริง ๆ หากรู้แต่แรกคงมองให้นานกว่านี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี