ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 34

สรุปบท บทที่ 34 ลิ้มรสความลำบากของคน: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

ตอน บทที่ 34 ลิ้มรสความลำบากของคน จาก ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 34 ลิ้มรสความลำบากของคน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ที่เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

องค์ชายสามสีหน้าเคร่งขรึม ไอเย็นแผ่ซ่านไปทั่วโถงหน้า

ฉู่เชียนหลีอมยิ้มแล้วมองตาเขา รอยยิ้มของเธอตั้งแต่แรกจนจบยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

เซียวจวินยี่ที่อยู่ข้างกายกลับรู้สึกหัวใจเต้นแรง กดดันจนแทบจะหายใจไม่ออก

นานครู่หนึ่ง องค์ชายสามกัดฟันพูดเสียงเหี้ยม พูดเล็ดลอดไรฟัน: “ข้าประหยัดอดออมเอง!”

“องค์ชายสามช่างจิตใจดียิ่งนัก ราชวงศ์มีตัวอย่างที่ดีเช่นนี้ ต้องทำให้เกิดกระแสอดออมในราชสำนักอย่างแน่นอน”

ฉู่เชียนหลีปรบมือให้องค์ชายสามด้วยความจริงใจ หลังจากนั้นสายตาของนางมองไปที่ฉู่หลิงเซวียน

“น้องสาว เจ้าบอกว่าเจ้ารักองค์ชายสาม เช่นนี้เวลานี้เขาจะเริ่มลิ้มรสความลำบากของคนแล้ว เจ้าควรที่จะร่วมทุกข์กับเขาหรือไม่?"

ฉู่หลิงเซวียนใจสั่น นางอยู่ดีกินดีตั้งแต่เล็ก เคยลำบากเสียที่ไหน?

แต่ตอนที่เห็นหน้าองค์ชายสาม นางย่อมไม่อาจปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้จึงแสดงสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหนักแน่น

“ข้าย่อมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับองค์ชาย”

“เยี่ยมจริงๆ!” ฉู่เชียนหลีปรบมืออีกครั้ง “วางใจเถอะ เจ้ากับข้าอยู่ใกล้กัน ข้าย่อมดูแลเจ้าอย่างดีแน่นอน”

ภายในใจของฉู่หลิงเซวียนเปี่ยมไปด้วยความคับแค้นใจ: เจ้าจำเป็นต้องเสแสร้งทำเป็นใจดีด้วยหรือ?

ฉู่เชียนหลีวางทองคำแท่งในมือกลับเข้าไปในหีบ

“ผู้คนตื่นตระหนก แค่เพราะต้องการเศษเงิน เงินทองเหล่านี้ ดันเป็นสิ่งคลายทุกข์ให้กับผู้คน”

องค์ชายสามผู้สูงศักดิ์ แสร้งทำตัวบริสุทธิ์ปราศจากกิเลสและแสร้งทำตัวสมถะ มาทั้งชีวิต เกรงว่าเขาคงคิดไม่ถึง เขาที่มีฐานันดรศักดิ์สูงส่งเช่นนี้ จะพ่ายแพ้ให้กับเงินไม่กี่หมื่นตำลึงเงิน

“ได้ คนโลภอย่างข้า จะไม่อยู่ในจวนที่ปราศจากกิเลสขององค์ชายสามแล้ว ป้องกันไม่ให้พื้นที่บริสุทธิ์เช่นนี้ แปดเปื้อนกลิ่นเหม็นของเงิน เจ้าขี้เหร่ สั่งให้คนมายกเงิน พวกเรากลับกันเถอะ”

“ขอรับ” เฟิ่งเสวียนตู้ตอบ ยกมุมปากขึ้น ภายในใจเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกชื่นชม

แผนการนี้ของฉู่เชียนหลีใช้ได้อย่างถูกทำนองคลองธรรม จัดการคนอย่างหยุนชิงกุยที่เจ้าแผนการ แสร้งทำตัวเป็นคนดี ไม่มีสิ่งใดทรมานยิ่งกว่าเอาเขามาเปิดโปงอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้แล้ว

สมกับเป็นมารดาของลูกชายเขาจริงๆ!

เทียนชูพาคนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว คนกลุ่มหนึ่งยกหีบทองคำออกไปด้วยความเร่งรีบ

เซียวจวินยี่รีบพาซูจิ่นจือตามไป

“จิ่นจือ พวกเราก็ไปกันเถอะ”

ฉู่เชียนหลีออกไปจากจวนองค์ชายสาม เรียกเซินเป่ามาหาทันที

เซินเป่าพาเจ้าขาวมา หลังจากนั้นโผเข้าไปในอ้อมกอดของฉู่เชียนหลี

“ท่านแม่ พวกเรารีบไปกันเถอะขอรับ เมื่อครู่เจ้าขาวเห็นพ่อของยายปีศาจมาแล้ว”

ฉู่เยี่ยนชิง?

“จ๊ะ”

เซียวจวินยี่พาซูจิ่นจือเดินมา เห็นเซินเป่าและวิหคหิมะตัวนั้นที่อยู่ข้างๆ แทบไม่อาจละสายตา

“จิ่นจือ เจ้ารีบไปเถอะ ไปเจอน้องสาวของเรา”

ซูจิ่นจือขมวดคิ้วเป็นปม: “อย่าพูดจาเหลวไหล”

“พวกเราเป็นมิตรสหายที่สนิทสนมกัน ของของเจ้าก็คือของของข้า หากวันนี้เจ้าไม่แนะนำข้าให้น้องสาวของเจ้ารู้จักอย่างเป็นทางการ หนึ่งเดือนต่อจากนี้ ข้าจะตามรังควานเจ้าไม่หยุด”

ซูจิ่นจือเลิกคิ้วขึ้น ริมฝีปากซีดขาวกระตุกมุมปากขึ้น ภายในใจเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขารีบสาวเท้า ขวางตรงหน้ารถม้าของฉู่เชียนหลี

ฉู่เชียนหลีเปิดม่านรถม้า มองคนหนุ่มตรงหน้าอย่างพิจารณา

เขาสวมชุดเรียบง่าย สีหน้าซีดขาวดุจหิมะ รูปร่างซูบผอม เวลานี้เหตุเพราะเดินเร็วเล็กน้อย ทำให้หายใจหอบหืด ทุกครั้งที่หายใจ คล้ายแผงอกกระเพื่อมขึ้นลง

ซูจิ่นจือ ท่านผู้พี่จากครอบครัวท่านลุงของร่างเดิมฉู่เชียนหลี

ในความทรงจำ ครั้งแรกที่เจอซูจิ่นจือ เขายังเป็นพลทหารผู้มีอนาคตก้าวไกล ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเข้มดวงตาทอประกาย สวมชุดนักรบสีดำนั่งอยู่บนรถม้า จมูกเป็นสัน ริมฝีปากเยือกเย็น ราวกับกระบี่เย็นเฉียบออกจากฝัก เปี่ยมไปด้วยความเปล่งประกาย

ทว่าทั้งหมดนี้ กลับถูกร่างเดิมทำลายทิ้งด้วยความหน้ามืดตามัว

สัมผัสถึงความหวาดกลัวที่แผ่ซ่านมาจากร่างเดิม ภายในใจของฉู่เชียนหลีฉายความเยือกเย็น

หากตนเรียกวิญญาณได้ จะต้องเรียกวิญญาณของร่างเดิมมาแน่นอน แล้วควักลูกตานางออกมาล้าง

สำหรับคนเลือดเย็น ใช้วิธีการไม่ชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศอย่างองค์ชายสาม ร่างเดิมรักสุดหัวใจ ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับซูจิ่นจือที่ปกป้องนางแทบเป็นแทบตายอย่างซูจิ่นจือ ร่างเดิมกลับรู้สึกหวาดกลัว?

คนเราสามารถตาบอดได้ แต่ใจห้ามบอด

“บิดาของลูกเจ้าล่ะ?”

“โชคร้ายอายุสั้น”

เฟิ่งเสวียนตู้จ้องเขม็ง ริมฝีปากใต้หน้ากากเม้มตรงด้วยความไม่พอใจ

เขายังแข็งแรงดี!

ซูจิ่นจือมองหน้าฉู่เชียนหลี เม้มปากแน่น: “เจ้าไม่ควรกลับมา!”

รอยยิ้มบนใบหน้าฉู่เชียนหลียังคงไม่เปลี่ยนแปลง : “ข้าเองก็ไม่อยาก แต่ว่าชีวิตบีบบังคับ”

ใครบ้างที่ไม่อยากอยู่ว่างๆ ใช้ชีวิตยามแก่ชราอย่างสงบสุข นี่ก็อาศัยร่างเดิม ออกมาจัดการกับปัญหาหลังการขายไม่ใช่หรือ?

“ข้าไม่สนใจว่าเจ้ากลับมาทำไม ข้าเพียงจะเตือนเจ้า ทางที่ดีที่สุดทำตัวดีๆ หน่อย อย่าไปยุ่งเรื่ององค์ชายสามและฉู่หลิงเซวียนอีก” น้ำเสียงของซูจิ่นจือเคล้าไปด้วยการตักเตือน

“เกรงว่าจะไม่ได้”

นางเพิ่งทำให้ร่างเดิมเห็นธาตุแท้ของอค์ชายสามเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังไม่ได้เปิดโปงธาตุแท้ของเขา ร่างเดิมยังไม่ตายใจ เช่นนั้นนางก็ต้องยุ่งต่อไป

ซูจิ่นจือคิดว่าฉู่เชียนหลียังคงรักองค์ชายสาม หน้าอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง ภายใต้อารมณ์ที่แปรปรวน ใบหน้าซีดขาวแดงระเรื่ออย่างสุขภาพไม่ดี

“ก่อนหน้านี้เจ้ายังโง่เขลาไม่พออีกหรือ? ตระกูลซูยังถูกเจ้าทำร้ายไม่พออีกหรือ? ท่านพ่อของข้าไม่ใช่แม่ทัพใหญ่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว ครึ่งตัวล่างของท่านพิการ ลาออกจากข้าราชการ ไม่อาจสนับสนุนองค์ชายสามได้อีก! ข้าเองก็กลายเป็นคนไร้ประโยชน์! เจ้าคิดอยากจะทำเช่นไรข้าไม่สนใจ แต่หากเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้า คนตระกูลซูไม่อาจช่วยเจ้าได้แล้ว!”

นัยน์ตาของฉู่เชียนหลีเคลื่อนไหวเล็กน้อย กระทั่งเวลานี้ ซูจิ่นจือยังคงพูดว่าไม่อาจช่วยแล้ว ไม่ใช่ไม่สนใจ

ร่างเดิม เจ้าช่างสารเลวจริงๆ!

“ท่านผู้พี่ ไม่ได้เจอกันนาน อย่าโมโหใหญ่โตสิเจ้าคะ เวลานี้ข้ารู้ความมากแล้ว”

“หากเจ้ารู้ความจริงๆ เช่นนั้นควรจะหายไป! ไม่ใช่พาลูกกลับมาเมืองหลวง แล้วทำร้ยาตระกูลฉู่!”

ซูจิ่นจือตะคอกด้วยความโมโห

ลมปราณรอบตัวเฟิ่งเสวียนตู้เย็นยะเยือก นัยน์ตาฉายความอาฆาต ยกมือขึ้น ฟาดฝ่ามือออกไป

คนนี้มีสิทธิ์อะไรมาบงการฉู่เชียนหลี?

“หุบปาก!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี