ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 40

สรุปบท บทที่ 40 เจ้าอย่าเสียใจทีหลัง: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

สรุปเนื้อหา บทที่ 40 เจ้าอย่าเสียใจทีหลัง – ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

บท บทที่ 40 เจ้าอย่าเสียใจทีหลัง ของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

แววตาของฉู่เชียนหลีสั่นไหว ในที่สุดนางก็เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว

“องค์ชายสามถูกลอบสังหาร ศาลบรรพบุรุษตระกูลอู๋ไฟไหม้?”

“ถูกต้อง!”

ท่าทีของนางอู๋ตอนที่มองฉู่เชียนหลี ปวดใจยิ่งนัก

“เจ้าไม่ต้องปิดบังแล้ว พ่อของเจ้าและข้า มั่นใจแล้วว่าเจ้าเป็นคนทำเรื่องนี้ เมื่อคืน เพราะเรื่องของเจ้า พ่อของเจ้าถูกเรียกเข้าวังหลวง ยุ่งตลอดทั้งคืน วันนี้เจ้ายังทำให้เขาโมโหเช่นนี้อีก ไม่เจียมตนจริงๆ”

“องค์ชายสามตายแล้ว?”

“สามหาว!” ฉู่เยี่ยนชิงพูดตำหนิ “ฉู่เชียนหลี ลำพังตัวเจ้าไม่อยากมีชีวิตก็ไม่เป็นเช่นไร แต่อย่าทำให้ทั้งจวนเฉิงเสี้ยงต้องเดือดร้อนไปกับเจ้า องค์ชายสามมีฝ่าบาทคอยปกป้อง ย่อมรอดพ้นจากอันตราย”

ฉู่เชียนหลีจิปากเล็กน้อย ทำหน้าเสียดาย

“ข้านึกว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรเสียอีก!”

“ลูกทรพี ฝ่าบาทมีรับสั่งแล้ว ให้ข้าพาเจ้าเข้าวังหลวงเพื่อรับโทษ ไม่ว่าวันนี้เจ้าจะเป็นหรือตาย ข้าล้วนไม่สนใจ!”

ฉู่หลิงเซวียนจับผ้าเช็ดหน้าแน่น นัยน์ตาฉายความดีใจ

ฉู่เชียนหลี ครั้งนี้ เจ้าตายแน่นอน!

ฉู่เชียนหลีได้ฟัง แววตาฉายความเย้ยหยันที่เยือกเย็น

“เข้าวังหลวงเพื่อรับโทษ? ที่แท้ก็เพื่อสิ่งนี้นี่เอง ฉู่เฉิงเสี้ยง ท่านพูดมาตามตรงว่าจะตีฆ่าปานตาย แล้วพาข้าไปตายในวังหลวงก็สิ้นเรื่อง เหตุใดต้องหยิบยกเรื่องกตัญญูมาพูดด้วย?”

ฉู่เยี่ยนชิงถูกพูดความในใจออกมา สีหน้าเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม

เขาตั้งใจจะเฆี่ยนตีฉู่เชียนหลีก่อน แล้วค่อยพานางเข้าวังหลวง อาศัยโอกาสนี้เค้นเรื่องโสมเสวียนม่วงและยาหนิงลู่ ตามด้วยลงโทษฆ่าปิดปาก......

“ฉู่เชียนหลี จารชนที่จับได้ในจวนองค์ชายสามและจวนตระกูลอู๋ ล้วนสารภาพว่าเจ้าเป็นคนสั่ง อีกทั้งพวกเขายังมีของแทนตัวเจ้าอีกด้วย”

“เจ้ารับผิดดีๆ ฝ่าบาทอาจจะเห็นแก่ที่เจ้าไปรับผิดในวังหลวง ละเว้นโทษตาย แต่หากเจ้ายังไม่สำนึกผิด เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าทำลายญาติมิตรเพื่อคุณธรรม”

“ฉู่เฉิงเสี้ยง ท่านคิดดีแล้ว? จะให้ข้าเข้าเฝ้าฝ่าบาทในวังหลวงจริงๆ หรือ?” ฉู่เชียนหลียกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

“โทษนี้ เจ้าต้องรับ!”

ฉู่เชียนหลียิ้ม ชั่วขณะหนึ่งดวงตาทอประกาย สีหน้ารื่นรมย์

“ข้ายังคงคำถาม สิ่งที่ตนเลือก แม้ต้องคุกเข่าก็จะยืนกรานทำต่อไปได้ ข้าจะติดตามท่านเข้าวังหลวง”

แววตาของเฟิ่งเสวียนตู้เคลื่อนไหว: “เชียนหลี?”

ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้นมองเฟิ่งเสวียนตู้ ดวงตาคู่ใสทอประกายรอยยิ้ม

“เจ้าขี้เหร่ ข้าฝากเจ้าดูแลเซินเป่าสักระยะหนึ่งได้หรือไม่?”

นางเข้าวังหลวงไม่เป็นไร แค่เกรงว่าฉู่เยี่ยนชิงและนางอู๋จะอาศัยโอกาสนี้ลงมือกับเซินเป่า

“แน่นอน ข้าจะปกป้องเขาเป็นอย่างดี อีกเรื่องหนึ่ง หากเจ้ายินยอม......”

“โอกาสดีเช่นนี้ ข้าอยากจะได้ยิ่งนัก!”

ฉู่เชียนหลียิ้ม นัยน์ตาของนางแฝงความหมายลุ่มลึก

มองสีหน้าของฉู่เชียนหลี ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจิตใจของฉู่เยี่ยนชิงจึงสั่นเทา แผนการที่เดิมทีมั่นคงยิ่งนัก คล้ายไร้ซึ่งความมั่นใจขึ้นมากะทันหัน

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขารีบขจัดความกังวลทุกอย่าง

ครั้งนี้ เขาวางแผนอย่างรอบคอบ แม้ฉู่เชียนหลีจะพูดจาฉะฉานเพียงใด ก็ไม่อาจแก้ตัวได้

ฉู่เชียนหลีเรียกเซินเป่า อุ้มขึ้นมาแล้วยื่นให้เฟิ่งเสวียนตู้อุ้ม

“เซินเป่า เชื่อฟังเจ้าอาขี้เหร่นะลูก แม่ไปจัดการคนสารเลวทั้งสองคนก่อน แม่จะรีบกลับมาโดยเร็ว”

เซินเป่าพยักหน้าด้วยความเชื่อฟัง: “เซินเป่าจะรอท่านแม่ขอรับ”

“ดีมาก” ฉู่เชียนหลียีผมเซินเป่า หันไปมองฉู่เยี่ยนชิง “ฉู่เฉิงเสี้ยง เตรียมรถม้าเถอะ?”

“เจ้าเป็นคนผิด ควรจะเดินเข้าวังหลวง”

ฉู่เชียนหลีเอามือกอดอก สีหน้าไร้อารมณ์ : “อ่อ เช่นนั้นไม่ไปแล้ว”

ไกลขนาดนี้ ให้นางเดินไป?

ฝันกลางวันหรือเปล่า?

“เจ้า......”

“ไม่ว่าท่านจะพูดอย่างไร ข้าก็ไม่มีวันเดินไป”

“ใครก็ได้......”

ฉู่เชียนหลีสะบัดแส้ในมือ: “เหตุใดต้องทำเช่นนี้ด้วย?” ”

นึกถึงโศกนาฏกรรมหน้าจวนเฉิงเสี้ยงในวันนั้น องครักษ์ดันกันไปมา ไม่มีใครกล้าเดินมาด้านหน้า

แววตาฉู่เยี่ยนชิงเคร่งขรึม สะบัดแขนเสื้อ: “เตรียมรถม้าให้นาง!”

“ขอรับ”

องครักษ์โล่งอก ไม่ต้องลงไม้ลงมือเป็นการดีที่สุด

ฉู่เชียนหลีหัวเราะเย้ยหยัน:ทำเช่นนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง

รอให้ฉุ่เชียนหลีขึ้นรถม้าแล้วออกไป ฉู่หลิงเซวียนรีบกระตุกแขนเสื้อของนางอู๋ มองไปที่เซินเป่า

ประตูวังหลวง รถม้าที่แขวนสัญลักษณ์ตัวอักษรฉู่ค่อยๆ หยุดลง

ฉู่เชียนหลีกระโดดลงจากรถม้า มีองครักษ์เดินเข้าไปมาหาทันที พานางไปค้นตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า

นัยน์ตาฉู่เยี่ยนชิงเปี่ยมไปด้วยความเยือกเย็น

เขารอฉู่เชียนหลีก่อปัญหาอย่างไม่เกรงกลัว เข้าวังหลวงเช่นนี้ทหารรักษาพระองค์ต้องสังหารนางอย่างแน่นอน

ฉู่เชียนหลีหันไปมองฉู่เยี่ยนชิงแล้วยิ้ม ตามทหารรักษาพระองค์ไปอย่างให้ความร่วมมือ

“หึ!”

ฉู่เยี่ยนชิงหัวเราะหึในลำคอ แล้วเดินเข้าไปในวังหลวงก่อน

ฉู่เชียนหลีถูกพาตัวเข้าไปในห้องตามลำพัง ทหารรับใช้สี่คนเดินเข้ามา กวาดมองนางด้วยแววตาเหี้ยมโหด ถึงขึ้นที่ว่ามีคนแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก กลืนน้ำลาย

รูปโฉมและหุ่นของคุณหนูใหญ่ฉู่คนนี้ ในเมืองหลวงไม่มีผู้ใดเทียบนางได้จริงๆ

ฉู่เชียนหลีจิปาก ขยับนิ้วมือเล็กน้อย เข็มสี่อันปรากฏขึ้นบนนิ้วมือ

“อ่อนหัดจริงๆ ไม่สนุกเลย”

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ฉู่เชียนหลีจัดแขนเสื้อ หันไปมองคนที่ขดตัวอยู่ในมุมกำแพง ทหารรับใช้ที่กลายเป็นเหมือนดินโคลน

“ตรวจสอบเสร็จแล้ว?”

“......ขอรับ ขอรับ คุณหนูไว้ชีวิตด้วยเถอะ......”

“ยังไม่นำทางอีก?”

“ขอรับ!”

ทหารรับใช้ทั้งสี่คนลุกขึ้น กลัวว่าหากชักช้า จะเผชิญกับความทรมานราวกับตกนรกอีกครั้ง

ราบรื่นตลอดทาง

ฉู่เชียนหลีเดินไป พร้อมกับมองวิวทิวทัศน์ในวังหลวงอย่างอารมณ์ดี

แคว้นตงเสวียนตระกูลหยุนซื่อเพิ่งได้ครอบครองใต้หล้า ให้ความสำคัญกับความผ่าเผย

ทั้งวังหลวงยิ่งใหญ่อลังการ สร้างอย่างวิจิตรา แม้กระทั่งดอกไม้ทั้งสองข้างทาง ล้วนเป็นสีเหลืองและสีม่วง เคล้าไปด้วยความสง่างาม

อย่างรวดเร็ว ทหารรับใช้พาฉู่เชียหลีมายังตำหนักไท่เหอ

ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้นมองบันไดสูงตระหง่าน รวมถึงองครักษ์น่าเกรงขามที่สวมชุดเกราะทั้งสองคน แววตาของนางนิ่งสงบไร้ซึ่งคลื่น

วินาทีต่อมา เสียงเรียกดังก้องไปทั่วทางเดินในวังหลวง

“รับสั่งให้ฉู่เชียนหลีเข้าเฝ้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี