บทที่ 43 ไม่มีอะไรน่าเสียใจเท่าเรื่องนี้ – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ตอนนี้ของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 43 ไม่มีอะไรน่าเสียใจเท่าเรื่องนี้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
สิ้นเสียงของฉู่เชียนหลี แววตาของฮ่องเต้ก็คมปลาบขึ้น และเปล่งประกายขึ้นมาทันที
“ฉู่เชียนหลี เจ้าพูดความจริงหรือ”
“ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันเติบโตมาจากต่างจังหวัด ไม่รู้จักคำพูดสละสลวยมากนัก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ข้าอยู่กับองค์ชายสามเมื่อก่อนหรือว่าอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทตอนนี้ ทุกอย่างที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง”
“ยาหนิงลู่เม็ดเล็กๆ จะมีประสิทธิภาพมากขนาดนั้นเชียวหรือ”
“นี่เป็นของที่อาจารย์ของหม่อมฉันให้แก่หม่อมฉันเอาไว้เพื่อรักษาชีวิต หากองค์ชายสามไม่บาดเจ็บร้ายแรง หม่อมฉันไม่มีทางแบ่งมาให้อย่างแน่นอน”
ฉู่เชียนหลีหลุบตาต่ำลงเล็กน้อย ใบหน้างดงามของนางปรากฏความเสียใจ
“ยามีทั้งหมดสิบเม็ด อาจารย์บอกเอาไว้ว่า หากใช้ให้ดีจะช่วยรักษาชีวิตของหม่อมฉันกับลูกได้อย่างแน่นอน”
สายตาของฝ่าบาทยิ่งแหลมคมขึ้น “มีแค่สิบเม็ดเองรึ แล้วตอนนี้ยังเหลืออีกกี่เม็ด”
“เมื่อห้าปีก่อน ตอนที่ข้าโดนทำร้ายจนบาดเจ็บ ตกลงไปในหน้าผา ท่านอาจารย์พยายามช่วยรักษาชีวิตของข้าเอาไว้จึงใช้ไปหนึ่งเม็ด ต่อมาที่จวนเฉิงเสี้ยง หม่อมฉันให้องค์ชายสาม น้องฉู่หลิงและองครักษ์อีกหกคน ทั้งหมดรวมเป็นแปดเม็ด ตอนนี้จึงเหลือเพียงเม็ดเดียวเพคะ”
ทุกคนที่อยู่ในพระตำหนักต่างชะงักค้าง เพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
ของสำคัญขนาดนั้น ของล้ำค่าที่สามารถช่วยชีวิตคนได้ กลับถูกใช้ไปอย่างทิ้งๆ ขว้างๆ แบบนี้หรือ
ฉีเฟยรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีจึงรีบถามออกไปว่า
“ฉู่เชียนหลี หากยาหนิงลู่มีประสิทธิภาพเช่นนั้นจริงๆ แล้วทำไมเจ้าถึงกล้าออกมาใช้ง่ายๆ”
ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปที่ฉีเฟยอย่างไม่เข้าใจ
“ทูลพระชายา หม่อมฉันได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าหม่อมฉันรักองค์ชายสาม เพื่อที่จะช่วยชีวิตเขา ทำไมจะใช้ไม่ได้ล่ะเพคะ”
ฉีเฟยชะงักไปคล้ายถูกบางอย่างกระแทกเข้าอย่างจัง สีหน้าของนางราวกับกลืนตะปูลงไปจนอวัยวะข้างในถูกทำลายบาดเจ็บ
“แล้ว......องครักษ์คนอื่นๆ ล่ะ”
คนพวกนั้นควรค่าต่อการยอมสิ้นเปลืองยาเพื่อช่วยชีวิตเชียวหรือ
“องค์ชายสามเคยกล่าวเอาไว้ว่า เขาชอบผู้หญิงใจดีมีเมตตาเป็นที่สุด ในเมื่อข้าสามารถช่วยคนพวกนั้นได้ ข้าย่อมต้องช่วย การรักษาภาพลักษณ์ในใจของเขาถือเป็นเรื่องสำคัญจนหม่อมฉันยอมได้”
ฉู่เฉียนหลีเลียนแบบท่าทางมาจากร่างเดิม หลังจากกล่าวอย่างกระซิบกระซาบแล้ว สีหน้าก็เริ่มซีดขาว แล้วถอนหายใจลึกเพื่ออดกลั้นความเกลียดชังลงไป
เฮ้อ เพราะต้องการขุดหลุมฝังแท้ๆ เลยต้องพูดคำพูดโง่ๆ พวกนี้ออกมา ลำบากใจจะแย่
ฉีเฟยแทบสำลัก เมื่อนึกย้อนถึงฉู่เชียนหลีในอดีต ก็มีหลากหลายคำพูดที่ติดอยู่ในคอ
คนโง่ๆ แบบนางคงทำเรื่องราวเช่นนี้ได้จริงๆ
ฉู่เชียนหลีถอนใจเบาๆ
“คิดไม่ถึงเลยว่า หม่อมฉันทุ่มเทไปมากมายขนาดนี้ แต่ในสายตาขององค์ชายสามกลับไม่มีคุณค่าอะไร”
ฉู่เยี่ยนชิงไม่รู้ว่าควรจะแสดงออกอย่างไรดี เขาเคยคิดว่าโสมเสวียนม่วงเป็นของล้ำค่ามากที่สุดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมีความรู้น้อย และตาไม่ถึงเช่นนี้
หากรู้แบบนี้แต่แรก เขาคงไม่ทำเรื่องราวออกมาจนเป็นอย่างเช่นวันนี้
เปลือกตาของฉู่เชียนหลีสั่นไหว ก่อนที่น้ำตาใสๆ จะไหลออกมา
“หม่อมฉันยอมเสียของล้ำค่าของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตขององค์ชายสาม เหตุใดช่วงเวลาเพียงข้ามคืนหม่อมฉันถึงจะเกิดความรู้สึกเกลียดชังขึ้นมาแล้วส่งคนไปฆ่าองค์ชายได้เล่าเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันรู้จุดอ่อนของเขา หากต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ คงไม่ทำเรื่องง่ายๆ ทำร้ายกันซึ่งหน้าแบบนี้”
เธอจะต้องเด็ดหัวขององค์ชายสามให้ได้
ในช่วงเวลาตอนนั้น ฮ่องเต้ไม่สนใจเรื่องมือสังหารอีกต่อไป แต่กลับสนใจเพียงเรื่องยาหนิงลู่เท่านั้น
“เจ้ายังมียาหนิงลู่เหลืออีกหนึ่งเม็ดงั้นหรือ”
ฉู่เชียนหลีเหลือบตาขึ้น และพยายามหยุดน้ำตาของตนเอง
“ฝ่าบาททรงไม่เชื่อในประสิทธิภาพของยาหนิงลู่ใช่หรือไม่เพคะ อย่างนั้นลองหานักโทษที่ต้องโทษประหารสักคนและให้เขากินเข้าไป จากนั้นหม่อมฉันจะเอามีดสั้นกรีดไปที่ร่างของเขาสัก 20 – 30 แผล รับรองว่าเลือดของเขาจะต้องไหลนอง แต่ไม่ตายอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรคนที่ทำผิดถึงขึ้นต้องโทษประหารคงจะต้องผิดร้ายแรง แทงเขาไม่กี่ทีหม่อมฉันคงดูไม่ใช่คนโหดร้ายเกิดไปหรอกกระมังเพคะ”
ฮ่องเต้ องค์ชายสามและฉู่เยี่ยนชิง “......”
สมองของแม่นางฉู่เยี่ยนชิงมีปัญหาหรือไม่
ยาสำคัญขนาดนั้น จะเอามาทดลองกับนักโทษประหารอย่างนั้นหรือ
แต่ดูเหมือนว่าฉู่เชียนหลีจะไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดแปลกอะไร
“แม้ว่าตอนนี้ หม่อมฉันไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อองค์ชายสามอีกต่อไปแล้ว แต่หม่อมฉันก็ไม่อยากให้เขาเข้าใจนิสัยของหม่อมฉันผิด”
ในใจขององค์ชายสามตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกละอายใจ
ใช่แล้ว ตั้งแต่ฉู่เชียนหลีกลับมาอีกครั้งก็ทำเรื่องแปลกประหลาดหลายๆ อย่าง แถมนิสัยของนางยังเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
โดยเฉพาะรูปโฉมหน้าตา จากหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์ใบหน้ามีปาน กลับกลายเป็นผู้หญิงที่งดงามหาใดเปรียบและเด็ดเดี่ยวแข็งแกร่ง หากไม่ใช่คนที่มีความสามารถจริงๆ คงไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมอย่างนี้ได้
ฮ่องเต้มองไปที่องค์ชายสามกับอู๋ฉงด้วยแววตาล้ำลึก
“ข้าได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว และคิดว่ามีความพิกลซ่อนอยู่จึงได้เชิญเจ้าเข้ามาที่วัง แต่ก็เพียงเพื่อต้องการสอบถามเรื่องราวทั่วๆ ไปเท่านั้น หลังจากนี้ เรื่องเรื่องนี้จะถูกโอนย้ายไปที่กรมคดีอาญา เพื่อให้ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้อง”
ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิด้วยสีหน้ายินดี
“ขอบพระทัยฝ่าบาท หม่อมฉันคิดเอาไว้แล้วว่าฝ่าบาทจะต้องไม่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับเสียหาย ขอให้ฝ่าบาทรักษาพระวรกายให้ดี อายุยืนหมื่นปี หากเป็นเช่นนี้แล้ว ตงเสวียนจะต้องสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอนเพคะ”
ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดัง แล้วกล่าวอย่างไม่ได้คิดอะไรว่า
“เจ้าเด็กคนนี้ พูดจาตรงไปตรงมาดี อายุขัยคนเราสวรรค์เป็นผู้กำหนด จะอายุยืนหมื่นปีได้อย่างไร”
“ไม่กระมัง หากสวรรค์เป็นผู้กำหนด จะมีคำพูดที่ว่าลิขิตฟ้าไม่สู้มานะตนหรอกหรือ หม่อมฉันมีโสมเสวียนม่วงร้อยปีอยู่หลายเม็ด ขอถวายให้ฝ่าบาทเอาไว้ใช้บำรุงร่างกาย ฝ่าบาทจะต้องอายุยืนหมื่นปีอย่างแน่นอน”
คำพูดนี้แทงหัวใจของฉู่เยี่ยนชิง สีหน้าของเขาหมองหม่น
โสมเสวียนม่วงร้อยปี? แถมยังมีหลายเม็ดอีกด้วย
เขาคิดว่าฉู่เชียนหลีจะเก็บโสมเสวียนม่วงเอาไว้เพื่อเป็นของรักษาชีวิตตน หากไม่ประสบเรื่องร้ายแรงถึงชีวิตจะไม่นำออกมาใช้
แต่ใครจะคิดว่าโสมเสวียนม่วงที่หาได้ยากยิ่ง ดูเป็นของไม่สำคัญกับนางเท่าไหร่นัก ถึงมอบให้คนอื่นอย่างไม่คิดอะไรเช่นนี้ หากรู้แต่แรก……
สิ่งที่คนเราเสียดายมากที่สุดคืออะไร นั่นก็คือการที่โยนความผิดถึงตายให้กับคนคนหนึ่งแล้ว กลับมารู้สึกทีหลังว่าคนคนนั้นเป็นคมในฝัก ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปมีเรื่องด้วย
“ฮ่าๆ” ฮ่องเต้หัวเราะออกมาอีกครั้งด้วยสีหน้าเบิกบานอารมณ์ “ดี ข้าจะรับน้ำใจของเจ้าเอาไว้ ทุกวันนี้เด็กที่มีจิตใจดี ตรงไปตรงมาอย่างเจ้ามีเหลือไม่มากแล้ว”
“ฝ่าบาทพูดล้อเล่นแล้ว หากหม่อมฉันดีอย่างที่ว่าจริง ทำไมองค์ชายสามถึงรังเกียจหม่อมฉันได้ถึงขนาดนั้น”
ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างขมขื่น
“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันบังอาจขอพระราชทานอนุญาตอีกครั้ง ได้โปรดอนุญาตให้หม่อมฉันถอนหมั้นกับองค์ชายสามด้วยเถิด แต่นี้เป็นต้นไปขออวยพรให้เขากับน้องสาวของหม่อมฉันรักกันจนแก่เฒ่า เคียงข้างกันตลอดไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...