ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 44

สรุปบท บทที่ 44 สถานการณ์เปลี่ยนแปลง: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

ตอน บทที่ 44 สถานการณ์เปลี่ยนแปลง จาก ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 44 สถานการณ์เปลี่ยนแปลง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ที่เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

สายตาของฮ่องเต้แน่นิ่งไป

หยุนชิงกุยรีบกล่าวออกมาทันที “เสด็จพ่อ ลูก......ลูกเองก็ไม่คาดคิด เรื่องการสังหารที่เกิดขึ้นเมื่อวานจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างชัดแล้ว......”

“ช่างเถิด” ฮ่องเต้ไม่ปล่อยให้หยุนชิงกุยกล่าวจบ “การแต่งงานของชายหญิงเดิมทีทั้งสองฝ่ายก็ควรมีใจให้กัน ในเมื่อเจ้ากับเชียนหลีไม่มีพรหมลิขิตต่อกัน วันนี้นางเองก็ยินดีทำตามความปรารถนาของเจ้า เช่นนั้นข้าจะเป็นคนตัดสินให้เอง การหมั้นหมายของพวกเจ้าทั้งสองให้สิ้นสุดลงแต่เพียงวันนี้”

องค์ชายสามรู้สึกแน่นหน้าอก ความหนาวสะท้านได้แล่นปราดไปทั่วร่างของเขา

เสด็จพ่อยอมรับปากด้วยหรือ

เช่นนั้นในประเทศตงเสวียนแห่งนี้ เขาก็จะเป็นองค์ชายเพียงคนเดียวที่ถูกยกเลิกงานแต่งงั้นหรือ

แล้วต่อจากนี้เขาจะมีที่ยืนต่อไปอีกหรือ

ฉู่เชียนหลีชะงักไปชั่วคราว เธอยืนเงียบอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่จะได้สติกลับมาแล้วทำความเคารพอย่างนอบน้อม

“หม่อมฉัน......ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”

เธอกล่าวออกมาช้าๆ อย่างเจ็บปวดพร้อมความโล่งใจ

“องค์ชายสามเป็นเพียงคนเดียวที่หม่อมฉันเคยรักสุดหัวใจ หม่อมฉันเอาแต่คิดที่จะทุ่มเททุกอย่างแต่กลับไม่เคยรู้เลยว่ายิ่งพยายามมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ท่านเกลียดหม่อมฉันมากเท่านั้น”

องค์ชายสามจ้องเขม็งไปที่ฉู่เชียนหลี ผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไรอีก แค่นี้เขายังขายหน้าไม่พออีกหรือไง

“อาจารย์เคยบอกเอาไว้ว่า หากเราชอบใครสักคน ต่อให้เขาร้ายกาจแค่นี้ก็ยังมองว่าโดดเด่น แต่หากไม่ชอบใครขึ้นมา ต่อให้น่ารักเหมือนแมวก็รังเกียจแม้ขนของมันที่ร่วงหล่น ก่อนหน้านี้หม่อมฉันไม่เชื่อ แต่ตอนนี้หม่อมฉันเชื่อแล้วเพคะ”

“เจ้า......”

เมื่อเห็นดวงตาที่ชื้นไปด้วยคราบน้ำตาของฉู่เชียนหลี สีหน้าของหยุนชิงกุยก็ยิ่งเลอะเลือน ผู้หญิงคนนี้เป็นฉู่เชียนหลีผู้ขี้ขลาดและไร้ประโยชน์คนนั้นจริงหรือ

ฉู่เชียนหลีแสดงละครอย่างเอาจริงเอาจัง จึงถอนหายใจยาวออกมา

“ฝ่าบาท หม่อมฉันเสียกิริยาแล้ว ยาหนิงลู่กับโสมเสวียนม่วงอยู่ที่จวนเฉิงเสี้ยงที่นอกวัง หม่อมอฉันจะออกไปเอาเดี๋ยวนี้เพคะ”

ฮ่องเต้รีบกล่าวสนับสนุน “ดี แต่เนื่องจากเป็นของที่ล้ำค่ามาก แถมยังมีคนพยายามใส่ร้ายเจ้าเมื่อครู่นี้อีก ไม่แน่อาจจะพุ่งเป้าไปที่โสมเสวียนม่วง ข้าจะส่งทหารรักษาพระองค์ร้อยนายออกไปอารักขาเจ้า จะได้เอาของกลับเข้ามาในวังได้อย่างปลอดภัย”

“เพคะ ฝ่าบาท”

ฉู่เชียนหลีเดินมุ่งหน้าออกไปด้านนอกได้เพียงสองก้าว ก็หันไปมองทางอู๋ฉง

“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันลืมเรื่องตระกูลอู๋ไปเลย ศาลบรรพชนตระกูลอู๋หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนสั่งเผา แต่หม่อมฉันทำร้ายอู๋ฉีจริงเพคะ......”

“เจ้าเป็นคนตรงไปตรงมา จึงอาจจะบุ่มบ่ามไปบ้าง วันหน้าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”

ตอนนี้ในใจของฮ่องเต้คิดถึงแต่ยาหนิงลู่และโสมเสวียนม่วง อย่าว่าแต่คนที่ไม่มีใครรู้จักอย่างอู๋ฉีเลย ต่อให้เป็นเจ้าตระกูลฉีโดนแทงตาย เขาก็ไม่สนใจอีก

“เพคะ วันหน้าหม่อมฉันจะคิดให้ดีก่อนจะลงมือ”

ฉู่เชียนหลีหันไปยิ้มเย้ยให้อู๋ฉี ก่อนจะหันตัวแล้วก้าวเดินออกไปอย่างพลิ้วไหวสง่างาม

ในพระตำหนัก ฉีเฟยตกอยู่ในภวังค์ เพราะตอนแรกคิดว่าฉู่เชียนหลีต้องตายแน่ๆ แต่สุดท้ายนางกลับรอดปลอดภัย แถมยังพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดีได้อีกด้วย

“ฝ่าบาท......”

“พระฉีเฟย” สายตาอันเฉียบคมของฮ่องเต้ค่อยๆ เลือนหายไป “เจ้าเองก็ควรสั่งสอนองค์ชายสามให้ดี ตามความเห็นของข้า ฉู่เชียนหลีนอกจากจะมีเรื่องนิสัยที่เป็นคนตรงไปตรงมา เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดีตรงไหน”

สีหน้าของพระชายาซีดขาว

ฝ่าบาทไม่ไว้หน้านางกับองค์ชายสามเลยหรือ

หากเรื่องนี้ถูกพูดต่อๆ ออกไป คนอื่นๆ คงคิดว่านางกับองค์ชายสามตาไม่ถึง

“......เพคะฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ดีเองเพคะ”

“ฉู่เฉิงเสี้ยง เจ้ามีอะไรอยากจะพูดหรือไม่”

“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมสั่งสองเชียนหลีได้ไม่ดีพอ นางจึงเสียมารยาทกับองค์ชายสามเช่นนี้ นับว่า......”

“เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว”

หัวใจของฉู่เยี่ยนชิงหนาวสะท้าน เขาได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขายังไม่ทันจะกล่าวจบกลับถูกฝ่าบาทตัดบทไปเสียก่อน

“พ่ะย่ะค่ะ”

อารมณ์ของฉู่เยี่ยนชิงกับองค์ชายสามหมองหม่นถึงขีดสุด แล้วออกไปจากพระตำหนักไปด้วยอาการล่องลอย หลังจากนั้นจึงเหลือบไปเห็นฉู่เชียนหลีที่ยืนรออยู่ด้านนอก

ฉู่เชียนหลียืนพิงราวบันไดอยู่ รูปร่างของเธอสง่างาม แต่ยืนด้วยท่าทางสบายๆ นางค่อยๆ ยกแขนขึ้น นิ้วอันเรียวยาวของนางมีนกน้อยตัวหนึ่งเกาะอยู่

ริมฝีปากของเธอขมุบขมิบ ราวกับกำลังพูดอะไรบางอย่าง

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินออกมา เธอจึงแหงนหน้ามอง เธอยกแขนขึ้น นกน้อยจึงส่งเสียงแล้วบินหนีไป

ฉู่เชียนหลีหัวเราะเบาๆ “อวยพรให้ชีวิตราบรื่นอะไรพวกนั้น ดูจอมปลอมเกินไป หากข้าพูดออกมา องค์ชายก็คงไม่เชื่อ เช่นนั้นข้าขออวยพรให้องค์ชายไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ยากจนข้นแค้นตลอดชีวิตที่เหลือ นอนคิดถึงแต่ความดีของข้าทุกคืนต่อจากนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งนอนไม่หลับ”

นางต้องการทำให้หยุนชิงกุยได้รู้ว่า ชีวิตนี้ของเขาที่ได้พบเจอคนที่รักเขาด้วยใจจริง ตอนนี้ถูกเขาทำลายไปแล้วด้วยมือของเขาเอง

แววตาของหยุนชิงกุยกระตุก ใบหน้าอันอ่อนโยนของเขาแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว เขากัดฟันพลางกล่าวว่า “ฉู่เชียนหลี!”

“ความจริงใจของข้าทำให้องค์ชายตื้นตันมากงั้นหรือ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ วันข้างหน้าหากชีวิตท่านล้มเหลว ได้รับความทุกข์ใจแบบที่ฉู่เชียนหลีเคยประสบมาก่อน ท่านก็ลองสัมผัสมันดูบ้างก็แล้วกัน”

เมื่อฉู่เชียนหลีกล่าวออกมาจนจบ นางก็รู้สึกว่าหัวสมองของเธอปลอดโปร่ง ไม่ต้องใช้พลังทิพย์ในการข่มกลั้นอารมณ์ของร่างเดิมอีกต่อไป

ฮู้ ดูท่าการแก้แค้นเรื่องแรกจะประสบความสำเร็จนะ

อารมณ์ของฉู่เชียนหลีแจ่มใสขึ้นมา

“ฉู่เฉิงเสี้ยง หลังจากที่ข้าเข้ามาในวังแล้ว ฮูหยินอู๋กับฉู่หลิงเซวียนคงไม่ได้ยุ่งกับข้าวของของข้าใช่ไหม”

ฉู่เยี่ยนชิงเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เส้นเลือดในดวงตาจึงยิ่งเด่นชัดขึ้น

“หมายความว่ายังไง”

“ไม่ได้หมายความว่ายังไง ฮูหยินอู๋เพียงได้รับกิ่งต้นสนกระแทกเบาๆ เท่านั้น แต่อวัยวะภายในของนางกลับได้รับความกระทบกระเทือน เห็นบอกว่าชอบทำร้ายข้าวของ และอยากจะมายุ่งกับของของข้าไม่ใช่หรือ”

ฉู่เยี่ยนชิงนึกถึงนิสัยของนางอู๋ ตอนนั้นเขาจึงรู้สึกราวกับว่าถูกน้ำเย็นๆ ราดลงมาบนหัว ทำเอาเลือดในกายของเขาแข็งเป็นก้อน

“ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่”

“อย่างนั้นก็ดี เพราะข้าเอายาหนิงลู่กับโสมเสวียนม่วงไปแอบไว้ในสวน หากฮูหยินอู๋เข้าไปในสวนของข้าแล้วทำมันเสียหาย ไม่รู้ว่าจะต้องรายงานฝ่าบาทว่าอย่างไร”

ฉู่เยี่ยนชิงจ้องเขม็งไปที่ฉู่เชียนหลี และใช้สายตาบดขยี้นาง

หากไม่มีอะไรผิดพลาด นางอู๋คงลงมือกับเซินเป่าเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้สวนฝูยู่คงกำลังวุ่นวาย และฉู่เชียนหลีกลับเพิ่งบอกออกมาว่านางซ่อนยาหนิงลู่กับโสมเสวียนม่วงเอาไว้ในสวนฝูยู่

หากพาทหารรักษาพระองค์ไปด้วยมากมายขนาดนี้แล้วหาของไม่เจอ ฉู่เชียนหลีจะต้องใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือของนางอู๋

ถึงตอนนั้น จวนเฉิงเสี้ยงจะต้องลุกเป็นไฟเพราะความโกรธเกรี้ยวของฮ่องเต้

“เจ้า......เจ้าตั้งใจรออยู่ตรงนี้งั้นหรือ”

ฉู่เชียนหลีหัวเราะ “แน่นอน ข้ารอกลับจวนพร้อมกับฉู่เฉิงเซียง ตอนนั้นหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา คนอื่นจะได้ไม่โยนว่าเป็นความผิดของข้า หาว่าข้าวางแผนทำเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเองอีก ไปกันเถอะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี