สายตาของฮ่องเต้แน่นิ่งไป
หยุนชิงกุยรีบกล่าวออกมาทันที “เสด็จพ่อ ลูก......ลูกเองก็ไม่คาดคิด เรื่องการสังหารที่เกิดขึ้นเมื่อวานจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างชัดแล้ว......”
“ช่างเถิด” ฮ่องเต้ไม่ปล่อยให้หยุนชิงกุยกล่าวจบ “การแต่งงานของชายหญิงเดิมทีทั้งสองฝ่ายก็ควรมีใจให้กัน ในเมื่อเจ้ากับเชียนหลีไม่มีพรหมลิขิตต่อกัน วันนี้นางเองก็ยินดีทำตามความปรารถนาของเจ้า เช่นนั้นข้าจะเป็นคนตัดสินให้เอง การหมั้นหมายของพวกเจ้าทั้งสองให้สิ้นสุดลงแต่เพียงวันนี้”
องค์ชายสามรู้สึกแน่นหน้าอก ความหนาวสะท้านได้แล่นปราดไปทั่วร่างของเขา
เสด็จพ่อยอมรับปากด้วยหรือ
เช่นนั้นในประเทศตงเสวียนแห่งนี้ เขาก็จะเป็นองค์ชายเพียงคนเดียวที่ถูกยกเลิกงานแต่งงั้นหรือ
แล้วต่อจากนี้เขาจะมีที่ยืนต่อไปอีกหรือ
ฉู่เชียนหลีชะงักไปชั่วคราว เธอยืนเงียบอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่จะได้สติกลับมาแล้วทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“หม่อมฉัน......ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”
เธอกล่าวออกมาช้าๆ อย่างเจ็บปวดพร้อมความโล่งใจ
“องค์ชายสามเป็นเพียงคนเดียวที่หม่อมฉันเคยรักสุดหัวใจ หม่อมฉันเอาแต่คิดที่จะทุ่มเททุกอย่างแต่กลับไม่เคยรู้เลยว่ายิ่งพยายามมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ท่านเกลียดหม่อมฉันมากเท่านั้น”
องค์ชายสามจ้องเขม็งไปที่ฉู่เชียนหลี ผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไรอีก แค่นี้เขายังขายหน้าไม่พออีกหรือไง
“อาจารย์เคยบอกเอาไว้ว่า หากเราชอบใครสักคน ต่อให้เขาร้ายกาจแค่นี้ก็ยังมองว่าโดดเด่น แต่หากไม่ชอบใครขึ้นมา ต่อให้น่ารักเหมือนแมวก็รังเกียจแม้ขนของมันที่ร่วงหล่น ก่อนหน้านี้หม่อมฉันไม่เชื่อ แต่ตอนนี้หม่อมฉันเชื่อแล้วเพคะ”
“เจ้า......”
เมื่อเห็นดวงตาที่ชื้นไปด้วยคราบน้ำตาของฉู่เชียนหลี สีหน้าของหยุนชิงกุยก็ยิ่งเลอะเลือน ผู้หญิงคนนี้เป็นฉู่เชียนหลีผู้ขี้ขลาดและไร้ประโยชน์คนนั้นจริงหรือ
ฉู่เชียนหลีแสดงละครอย่างเอาจริงเอาจัง จึงถอนหายใจยาวออกมา
“ฝ่าบาท หม่อมฉันเสียกิริยาแล้ว ยาหนิงลู่กับโสมเสวียนม่วงอยู่ที่จวนเฉิงเสี้ยงที่นอกวัง หม่อมอฉันจะออกไปเอาเดี๋ยวนี้เพคะ”
ฮ่องเต้รีบกล่าวสนับสนุน “ดี แต่เนื่องจากเป็นของที่ล้ำค่ามาก แถมยังมีคนพยายามใส่ร้ายเจ้าเมื่อครู่นี้อีก ไม่แน่อาจจะพุ่งเป้าไปที่โสมเสวียนม่วง ข้าจะส่งทหารรักษาพระองค์ร้อยนายออกไปอารักขาเจ้า จะได้เอาของกลับเข้ามาในวังได้อย่างปลอดภัย”
“เพคะ ฝ่าบาท”
ฉู่เชียนหลีเดินมุ่งหน้าออกไปด้านนอกได้เพียงสองก้าว ก็หันไปมองทางอู๋ฉง
“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันลืมเรื่องตระกูลอู๋ไปเลย ศาลบรรพชนตระกูลอู๋หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนสั่งเผา แต่หม่อมฉันทำร้ายอู๋ฉีจริงเพคะ......”
“เจ้าเป็นคนตรงไปตรงมา จึงอาจจะบุ่มบ่ามไปบ้าง วันหน้าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
ตอนนี้ในใจของฮ่องเต้คิดถึงแต่ยาหนิงลู่และโสมเสวียนม่วง อย่าว่าแต่คนที่ไม่มีใครรู้จักอย่างอู๋ฉีเลย ต่อให้เป็นเจ้าตระกูลฉีโดนแทงตาย เขาก็ไม่สนใจอีก
“เพคะ วันหน้าหม่อมฉันจะคิดให้ดีก่อนจะลงมือ”
ฉู่เชียนหลีหันไปยิ้มเย้ยให้อู๋ฉี ก่อนจะหันตัวแล้วก้าวเดินออกไปอย่างพลิ้วไหวสง่างาม
ในพระตำหนัก ฉีเฟยตกอยู่ในภวังค์ เพราะตอนแรกคิดว่าฉู่เชียนหลีต้องตายแน่ๆ แต่สุดท้ายนางกลับรอดปลอดภัย แถมยังพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดีได้อีกด้วย
“ฝ่าบาท......”
“พระฉีเฟย” สายตาอันเฉียบคมของฮ่องเต้ค่อยๆ เลือนหายไป “เจ้าเองก็ควรสั่งสอนองค์ชายสามให้ดี ตามความเห็นของข้า ฉู่เชียนหลีนอกจากจะมีเรื่องนิสัยที่เป็นคนตรงไปตรงมา เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดีตรงไหน”
สีหน้าของพระชายาซีดขาว
ฝ่าบาทไม่ไว้หน้านางกับองค์ชายสามเลยหรือ
หากเรื่องนี้ถูกพูดต่อๆ ออกไป คนอื่นๆ คงคิดว่านางกับองค์ชายสามตาไม่ถึง
“......เพคะฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ดีเองเพคะ”
“ฉู่เฉิงเสี้ยง เจ้ามีอะไรอยากจะพูดหรือไม่”
“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมสั่งสองเชียนหลีได้ไม่ดีพอ นางจึงเสียมารยาทกับองค์ชายสามเช่นนี้ นับว่า......”
“เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว”
หัวใจของฉู่เยี่ยนชิงหนาวสะท้าน เขาได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขายังไม่ทันจะกล่าวจบกลับถูกฝ่าบาทตัดบทไปเสียก่อน
“พ่ะย่ะค่ะ”
อารมณ์ของฉู่เยี่ยนชิงกับองค์ชายสามหมองหม่นถึงขีดสุด แล้วออกไปจากพระตำหนักไปด้วยอาการล่องลอย หลังจากนั้นจึงเหลือบไปเห็นฉู่เชียนหลีที่ยืนรออยู่ด้านนอก
ฉู่เชียนหลียืนพิงราวบันไดอยู่ รูปร่างของเธอสง่างาม แต่ยืนด้วยท่าทางสบายๆ นางค่อยๆ ยกแขนขึ้น นิ้วอันเรียวยาวของนางมีนกน้อยตัวหนึ่งเกาะอยู่
ริมฝีปากของเธอขมุบขมิบ ราวกับกำลังพูดอะไรบางอย่าง
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินออกมา เธอจึงแหงนหน้ามอง เธอยกแขนขึ้น นกน้อยจึงส่งเสียงแล้วบินหนีไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...