อ่านสรุป บทที่ 47 ไม่ได้กลัวแค่แสดงความจริงใจก็เท่านั้น จาก ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว
บทที่ บทที่ 47 ไม่ได้กลัวแค่แสดงความจริงใจก็เท่านั้น คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ฉู่เยี่ยนชิงเดินย่ำเท้าออกไปด้วยความโมโห ฉู่หลิงเซวียนที่โดนทิ้งอยู่ตรงนั้นได้แต่ทำอะไรไม่ถูก
นางไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง จึงหัวเสียอย่างมากที่ฉู่เชียนหลีสั่งให้นางคุกเข่าถึงสามชั่วยาม แล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นยืน
ฉู่เชียนหลีหันไปมองค้อน แล้วใช้แส้ที่อยู่ในมือของตัวเองฟาดไปที่ขาของฉู่หลิงเซวียน
“ทำหูทวนลมกับคำพูดของข้าหรือ”
ฉู่หลิงเซวียนโดนตีจนร้องเสียงหลง ก่อนจะล้มพับลงกับพื้นอีกครั้ง
“ฉู่เชียนหลี เจ้ากล้าทำอย่างนี้กับข้าได้อย่างไร”
“เฮอะ ฉู่หลิงเซวียน หากเจ้าไม่มีจวนเฉิงเสี้ยงคุ้มหัวอยู่ ป่านนี้เจ้าคงตายไปแล้วไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ”
“เจ้า......บังอาจ!”
เมื่อเห็นฉู่หลิงเซวียนที่ยังคงมีทีท่าไม่เข้าใจสถานการณ์ ฉู่เชียนหลีก็ขี้เกียจจะเสียเวลาพูดกับนาง เพราะมีศัตรูอีกหลายรายที่นางต้องไปแก้แค้น
“วันนี้ถ้าเจ้ากล้าลุกขึ้นมา ข้าจะตัดขาเจ้า แล้วอย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน”
เมื่อฉู่เชียนหลีกล่าวจบ ก็มองไปทางเซินเป่า
“เซินเป่า เจ้าขี้เหร่อยู่ไหน”
เมื่อวานตอนที่ฉู่เยี่ยนชิงกับคนตระกูลอู๋รีบร้อนออกไป ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่น่าปกติ เมื่อรวบรวมเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเข้าด้วยกัน ผู้ที่เป็นต้นเหตุทำให้นางต้องเดินทางเข้าวังจะต้องเป็นเจ้าขี้เหร่
“เจ้าอาขี้เหร่บอกว่าท่านแม่เดินทางเข้าวังครั้งนี้ กลับออกมาจะต้องหิวแน่ๆ เจ้าอาก็เลยให้คนไปหาหมิงเซียงกั๋ว บอกว่าผลไม้ชนิดนั้นเหมาะกับการนำไปทำชา เมื่อดื่มแล้วจะทำให้ใจสงบลง”
ฉู่เชียนหลีหรี่ตาลงแล้วเดินเข้าไปจ้องหน้าเซินเป่า
เซินเป่าเบิกตากว้าง มือน้อยๆ ทั้งสองกำหมัดเอาไว้แน่น จนแทบจะกลายสภาพเป็นขนมเกลียวก้อนหนึ่ง
“เจ้าขี้เหร่ใช้อะไรติดสินบนเจ้า”
“เปล่านะขอรับ” เซินเป่ารีบส่ายหน้า โดยไม่กล้าหันไปสบตากับฉู่เชียนหลี ราวกับบนใบหน้าเขียนคำว่ารู้สึกผิดเอาไว้
“หรอ” ริมฝีปากของฉู่เชียนหลีหยีกยิ้ม รอยยิ้มของนางเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านแม่!”
เซินเป่ารีบคว้าแขนเสื้อของฉู่เชียนหลีเอาไว้ เมื่อนางค้อมตัวลงมาหาแล้วจึงหอมแก้มของนางฟอดใหญ่
เจ้าอาขี้เหร่ ข้าคงยอมตายเป็นเพื่อนท่านไม่ได้ ขอโทษด้วย!
“เจ้าอาขี้เหร่บอกว่า เขาอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยเหลือแต่กลับส่งผลร้าย ดังนั้นจึงรับปากกับข้าว่าจะช่วยข้าหาโสมหยกหิมะขาวที่ดีที่สุดมาเป็นน้องชาย เลยให้ข้ามาหลอกล่อท่านแม่ เพื่อไม่ให้โกรธเขา”
ฉู่เชียนหลียื่นมือออกไปหยิกจมูกน้อยๆ ของเซินเป่าเอาไว้ “โสมหยกหิมะขาวไม่กี่อันก็ซื้อตัวเจ้าได้แล้วหรือ”
“เปล่านะท่านแม่ เซินเป่ารักท่านแม่ที่สุดแล้ว ไม่มีทางทำให้ท่านแม่ไม่พอใจแน่นอน เซินเป่าสนับสนุนให้ท่านแม่ไปแก้แค้นเจ้าอาขี้เหร่”
ด้านนอกกำแพงเรือน เมื่อเฟิ่งเสวียนตู้ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองแม่ลูก ก็แอบถอนหายใจ
เด็กไว้ใจไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือ
ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ลูกก็ต้องเลือกแม่ของตัวเองอยู่แล้ว
ฉู่เชียนหลีได้ยินเสียงถอนหายใจนั้น จึงคว้าแส้ออกมา แล้วมองไปทางด้านทิศตะวันตกของเรือน
“เจ้าขี้เหร่ จะให้ข้าออกไปเชิญเจ้ามาเองไหม”
เฟิ่งเสวียนตู้ถอนใจ ก่อนจะกระแอมสองทีแล้วเดินเข้ามาในสวน
ตอนนั้นฉู่เชียนหลีจึงยิ้มออกมาอย่างน่าเคลิบเคลิ้ม ทว่าสายตากลับไม่มีรอยยิ้มปรากฏ
เฟิงเสวียนตู้เดินเอามือไพล่หลังออกมา ยังไม่ทันรอให้ฉู่เชียนหลีลงมือทำอะไร ก็ยื่นขวดหยกขาวอันสวยประณีตที่ซ่อนเอาไว้ด้านหลังออกมา
“หาหมิงเซียงกั๋วเจอแล้ว ใช้น้ำผึ้งหยกขาวผสมลงไป และเติมน้ำแร่ธารน้ำเยือก ทำให้รสชาติชุ่มคอ ความเปรี้ยวหวานกำลังพอดี แม้เหนื่อยมาทั้งวันแต่หากได้ดื่มลงไป จะช่วยรักษาอาการเหนื่อยล้าได้ดีที่สุด แถมยังช่วยบำรุงร่างกาย เจ้าอยากลองชิมดูหน่อยไหมล่ะ”
เกิดเป็นผู้ชาย ต้องแสดงความจริงใจในเวลาที่เหมาะสม นี่ไม่ถือว่าเป็นอาการกลัว!
ด้านนอกกำแพงเรือน เทียนเสวียนที่มีใบหน้าเขียวซ้ำเมื่อได้ยินดังนี้ก็ลื่นล้มหัวกระแทกเข้ากับกำแพง
นี่......นี่......
นี่คือนายท่านของพวกเขาจริงหรือ
ไม่จริง เขาไม่เชื่อ!
สวรรค์ก็ไม่ได้ถล่ม ศัตรูก็ไม่ได้ห้อมล้อม นายท่านของพวกเขาทำไมถึงทำเสียงอ่อนเสียงหวานโอ๋คนอื่นแบบนี้ได้
เทียนเสวียนมองด้วยสายดูหมิ่นเล็กน้อย แล้วพยายามเอาตัวออกห่าง
ผู้อาวุโสใหญ่คงทราบข่าวแล้วกระมัง ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสมีความอดทนดีหรือไม่ดี
ฉู่เชียนหลีหรี่ตาลง แววตาของนางเต็มไปด้วยความแคลงใจ
สายตาของเฟิ่งเสวียนตู้กระสับกระส่าย ก่อนจะเปิดฝาขวดหยกออกมา ตอนนั้นเองกลิ่นหอมชื่นใจก็โชยออกมา ทำให้คนน้ำลายสอ
สีหน้าของฉู่เชียนหลีเคร่งเครียด และยืนตัวแข็งทื่อ
“ยาที่ข้าให้พวกเขาไว้ล่ะ หรือว่าพวกเขาไม่ได้กิน”
หากได้กินยานั้น แค่อาการตกใจนิดๆ หน่อยๆ ไม่อาจทำอะไรพวกเขาได้
“ยา......ถูกแย่งไปแล้ว......” สีหน้าของเซียวจวินยี่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น “ความผิดข้าเองที่ได้รับข่าวช้าเกินไป หากรู้เร็วกว่านี้หน่อย......”
ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วแน่น สายตาของนางคมปลาบ ดูรูปการณ์แล้วตอนที่เธอถูกบังคับให้เข้าวังไปขออภัยโทษ อีกด้านหนึ่งตระกูลอู๋ก็ได้บุกไปก่อกวนท่านลุงกับพี่ชายของเธอ
นี่เป็นการวางแผนล่อให้นางเข้าไปตายในวัง จากนั้นจะกำจัดทุกคนที่เกี่ยวข้องกับร่างเดิมจนหมดสิ้น
“ตระกูลอู๋ตัวดี! วางแผนมาดีนักนะ!”
“อย่างนั้นท่านลุงกับพี่ชายของข้าตอนนี้เป็นอย่างไร”
“สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก ตอนแรกข้าตั้งใจจะอยู่ช่วย แต่ใต้เท้าซูกับจิ่นจือเป็นห่วงเจ้า จึงส่งข้ามาดูว่าเจ้ายังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่”
ฉู่เชียนหลีรู้สึกปวดใจ ถึงตอนนี้แล้ว ท่านลุงกับพี่ชายยังเป็นห่วงร่างเดิมอยู่
“เร็วเข้า ไปตระกูลซู”
“ดี”
ฉู่เชียนหลีพาเซินเป่ากับเฟิ่งเสวียนตู้เดินออกไปข้างนอก ส่วนเซียวจวินยี่รีบตามมาติดๆ
ภายในสวน ฉู่หลิงเซวียนที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น เมื่อเห็นฉู่เชียนหลีและคนอื่นๆ พากันรีบร้อนออกไป ก็กัดฟันอย่างเคียดแค้น
นางจะต้องรู้ให้ได้ว่าในวังเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แล้วค่อยหาทางคิดบัญชีกับฉู่เชียนหลี
ในขณะที่นางเตรียมจะลุกขึ้นยืน ชายวัยฉกรรจ์คนหนึ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยบวมเขียวม่วง ก็ดึงกระบี่ออกมาแล้วจ่อไปที่คอของฉู่เชียนหลิง
“คุณหนูรอง นายท่านสั่งเอาไว้แล้วว่าให้คุณหนูคุกเข่าสามชั่วยาม ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คุณหนูจะยังลุกไม่ได้”
“แกเป็นแค่บ่าว กล้าดีอะไรมาสั่งสอนฉัน” ฉู่หลิงเซวียนโกรธจัด
“กระบี่ไม่มีดวงตา”
“แก......คอยดูเถอะ!”
ฉู่เชียนหลีกลับไปแล้ว ท่านพ่อกับท่านแม่จะต้องส่งคนมาช่วยนางแน่นอน
ฉู่หลิงเซวียนมองโลกสวย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าฉู่เยี่ยนชิงกับนางอู๋ตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด ยิ่งไม่ต้องคิดว่าว่าจะมีอารมณ์มาเป็นห่วงนา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...