ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 49

สรุปบท บทที่ 49 ตระกูลมาหรือ รอไปก่อนเถอะ: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

ตอน บทที่ 49 ตระกูลมาหรือ รอไปก่อนเถอะ จาก ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 49 ตระกูลมาหรือ รอไปก่อนเถอะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี ที่เขียนโดย เย็นอวี่ฟังหัว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อซูจิ่นจือเห็นว่าฉู่เชียนหลีปลอดภัยแล้ว เกลียวคลื่นในแววตาของเขาก็มลายหายไป

“เจ้า......”

ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว......

“แค่กๆ......”

เสียงพยายามข่มเสียงไอได้ดังลอยออกมาจากด้านในห้อง ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่ว่าจะพยายามหยุดอย่างไรก็หยุดไม่ได้

สีหน้าของซูจิ่นจือแปรเปลี่ยน เขาพยายามลุกขึ้น แล้วพยายามออกแรงวิ่งเร็วๆ เข้าไปที่เตียง

ฉู่เชียนหลีวิ่งตามซูจิ่นจือเข้าไปติดๆ กลิ่นราและกลิ่นยาลอนคละคลุ้งผสมผสานเข้ากระแทกจมูก โต๊ะเก้าอี้แตกกระจายอยู่บนพื้น ถ้วยน้ำชาตกลงสู่พื้นแตกละเอียด เศษถ้วยชาและชามข้าวที่แตกละเอียดมีคราบเลือดเลอะเปื้อนอยู่

“แค่กๆ......แค่กๆ......”

“ท่านพ่อ!”

ซูจิ่นจือรีบเดินไปที่เตียง อารมณ์ของเขาแปรปรวน สีหน้าของเขาซีดขาวลงเรื่อยๆ ราวกับกำลังจะล้มลงกับพื้นทุกเมื่อ

บนเตียงมีผู้ชายคนหนึ่งที่ร่างกายผอมแห้งราวเศษไม้นอนซมอยู่บนเตียง สีหน้าของเขาซูบตอบ ดวงตาลึกบุ๋มลงไป แก้มทั้งสองข้างปูดโปน แวบแรกที่เห็นให้ความรู้สึกน่าสยดสยอง

ในตอนนั้นเขาไออย่างหนัก เสียงลมหายใจของเขาราวกับเครื่องสูบลมที่พุพัง

ฉู่เชียนหลีปวดใจอย่างมาก ความเจ็บปวดของร่างเดิมได้เอ่อล้นขึ้นมาออกมาจากหัวใจของนาง

ซูยี่เป็นน้าของร่างเดิม แต่ก่อนเขาเป็นแม่ทัพผู้ที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ไม่มีใครกล้าต่อกรกับเขา ไม่ว่าศัตรูหน้าไหนเคยได้ยินชื่อของเขาต่างต้องหวาดผวา

ในตอนนั้นเขาเป็นบุคคลผู้ซึ่งสวมชุดเกราะเหล็กนั่งอยู่บนหลังม้า มีความโดดเด่นโชติช่วงเสียยิ่งกว่ากว่าแสงอาทิตย์

แต่ตอนนี้แค่หายใจยังยากลำบากสำหรับเขา

ร่างเดิม นี่เป็นผลที่เกิดจากการกระทำของเจ้า

ซูยี่ไอยาวอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกระอักเลือดสีเข้มออกมา ตอนนั้นอาการคันคอของเขาถึงจะบรรเทาลงได้บ้าง

เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วมองไปทางฉู่เชียนหลีที่ยืนอยู่ข้างเตียง แววตาของเขายังคงคล้ายอยู่ในภวังค์

“ชิงหย่า......”

ซูจิ่นจือกุมมือของซูยี่เอาไว้แน่น แล้วพยุงเขาให้ลุกขึ้นมานั่งแล้วกล่าวเตือนเสียงเบาว่า

“ท่านพ่อ นี่ไม่ใช่ท่านอา แต่เป็นเชียนหลีลูกสาวของท่านอา”

ซูยี่ตาโต หลังจากนั้นพักหนึ่งสายตาของเขาก็จ้องเขม็งไปที่เดียว ก่อนจะปรากฏความยินดีก่อตัวขึ้นในดวงตาของเขา

“เชียนหลี......”

เมื่อโดนสายตาเช่นนั้นจับจ้อง หัวใจของฉู่เชียนหลีก็เริ่มสั่นคลอน ราวกับถูกสิ่งของบางอย่างกระแทก แม้ว่าจะไม่เจ็บแต่ก็รู้สึกปวดร้าว

ในตอนนั้น เธอแยกไม่ออกอีกต่อไปว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากร่างเดิมหรือว่ามาจากตัวนางเองกันแน่

“ท่านลุง ข้าเอง”

“ดี......เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว ดี......ดียิ่ง”

สีหน้าของซูยี่สับสน เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะยกริมฝีปากยิ้ม แต่แววตาของเขากลับมีน้ำตาคลอและไหลเอ่อล้นมาตามแก้มที่ผอมแห้งของเขา

ฉู่เชียนหลีหลุบตาต่ำ และกำหมัดเอาไว้แน่น

หลายปีมาแล้ว นางรู้สึกอีกครั้งหนึ่งว่าขอบตาของตัวเองร้อนผ่าว ราวกับกำลังจะร้องไห้

นางพยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเอง นางคว้ามือหยิบขวดกระเบื้องแล้วเทยาออกมาก่อนจะยื่นไปข้างหน้า

“ท่านลุง ข้าพอมียาเหลืออยู่บ้าง ท่านรีบกินเข้าไปเถิด ตอนนี้รักษาร่างกายให้แข็งแรงเอาไว้สำคัญที่สุด”

ท่าทางของซูยี่และซูจิ่นจือตอนนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบก็รู้ว่าคนทั้งสองนี้อยู่ในสภาพที่อ่อนแออย่างมาก

ซูยี่ส่ายหน้าช้าๆ

“เชียนหลี น้าทำผิดต่อเจ้า ยาที่เจ้าให้น้าเอาไว้ เดิมทีน้าคิดจะเก็บเอาไว้ให้เจ้า แต่คิดไม่ถึงว่า......คิดไม่......แค่กๆ......”

สีหน้าของซูยี่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“ท่านพ่อ ไม่ใช่ความผิดของท่าน ข้าเองที่ไม่ดี ตอนที่กลับมา ข้าไม่รู้ว่ามีคนตระกูลอู๋แอบสะกดรอยตามมาด้วย”

“ท่านลุง ท่านพี่ พวกท่านไม่ต้องโทษตัวเองหรอก หากจะถามหาสาเหตุจริงๆ คงเป็นเพราะข้าไปทำร้ายอู๋ฉีก่อน ถึงได้นำพาความวุ่นวายอย่างอื่นตามมา ต้องโทษที่ข้าต่างหาก”

ฉู่เชียนหลีกล่าว

“เชียนหลี......”

ซูยี่คล้ายตั้งท่าจะพูดต่อ แต่ฉู่เชียนหลีกลับก้าวมาข้างหน้าแล้วนั่งลงบนเตียง แล้วส่งยาให้เขา

“ท่านลุง เรื่องอื่นๆ เดี๋ยวเราค่อยมาว่ากันก็ได้ ท่านกับท่านพี่ต้องรีบกินยาก่อน”

“แต่ของดีอย่างนี้ หากนำมาใช้กับพวกเราคงสิ้นเปลืองเปล่าๆ เจ้าควรที่จะเก็บเอาไว้ดีกว่า......”

“ใต้เท้าซู ตั๋วเงินที่ท่านให้ข้าก่อนหน้านี้ ข้ายังไม่เคยใช้ เอาเงินส่วนนี้ไปเช่าโรงเตี๊ยมอาศัยอยู่ก่อนได้ เดี๋ยวข้าจะส่งคนมาจัดการที่เรือนแห่งนี้ให้เอง”

เซียวจวินยี่ส่งตั๋วเงินที่เปียกเหงื่อในมือของตัวเองให้

“ท่านลุง......” ฉู่เชียนหลีตะลึง เพราะได้ใช้เงินไปซื้อของสำหรับต้มยาแล้ว แล้วเงินจะยังเหลืออยู่ได้อย่างไร

เซียวจวินยี่เม้มริมฝีปาก สายตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย

นั่นเป็นเงินที่ได้มาจากการแลกของหมั้นหมายที่ใต้เท้าซูมอบให้ฮูหยินในอดีต เขาไม่กล้าใช้มันไปซื้อยากินด้วยซ้ำ แต่กลับให้เขานำไปใช้สืบข่าวของฉู่เชียนหลี เพราะหวังว่าจะช่วยฉู่เชียนหลีกลับมาได้

ซูยี่ส่งตั๋วเงินให้ฉู่เชียนหลีทันทีอย่างไม่มีความรู้สึกใด

“เชียนหลีรับไว้เถิด”

ฉู่เชียนหลีรับมาแล้วรู้สึกได้ถึงอารมณ์บางอย่างของเซียวจวินยี่ แววตาของนางจึงคล้ายคิดบางอย่างอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายเพียงรับเงินเอาไว้

ในตอนนั้นเอง เทียนชูที่คอยเฝ้าอยู่ด้านนอกก็ได้เดินเข้ามารายงาน

“คุณหนูใหญ่ อู๋ฉง นายท่านอู๋ได้พาอู๋ฉีมาขออภัยโทษ”

ซูจิ่นจือกัดฟัดแน่น ก้นบึ้งในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

หากเขายังพอมีแรงเหลือเมื่ออย่างแต่ก่อน เขาคงสังหารคนตระกูลหลีทิ้ง

ฉู่เชียนหลีเหลือบตาขึ้น แววตาของนางค่อยๆ แข็งกระด้างเย็นชาขึ้นมาเรื่อยๆ

“มาได้เวลาพอดี ท่านลุง ท่านพี่ พวกท่านรออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปพบคนตระกูลอู๋เสียหน่อย”

วันนี้ที่มีนางอยู่ด้วย หากคนตระกูลอู๋ยังกล้าวางโตโอหังอีก นางจะจัดการพวกเขาให้ไม่ได้กลับไปอีก

“เชียนหลี!” ซูยี่รีบออกปากห้าม “เจ้าคนเดียวจะรับมือได้อย่างไร”

ฉู่เชียนหลีชะงักไป จากนั้นจึงนึกออกว่า ตัวเองเพิ่งจะเสแสร้งเป็นสาวน้อยน่าสงสาร หากออกไปตอนนี้ ท่านลุงคงไม่วางใจแน่ แต่หากให้ท่านลุงออกไปด้วย แล้วคนตระกูลอู๋ทำให้โมโหขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร

สายตาของเฟิ่งเสวียนตู้วิบไหว เขาก้าวออกมาข้างหน้า ท่าทางของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งแรงผึ่งผายขึ้นในทันที เขาเก็บกลอนประตูที่ร่วงอยู่บนพื้นขึ้นมา จากนั้นจึงลูบเบาๆ แล้วจรดเล็บฝังรอยเอาไว้ในนั้น

“ใต้เท้าซูไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะคอยคุ้มกันเอง”

ซูยี่หยุด เพราะตอนนั้นเขาเพิ่งสังเกตเห็นเฟิ่งเสวียนตู้ที่ใส่หน้ากากอยู่บนใบหน้า

ท่าทางที่มีพลังและน่าเกรงขามนี้ ตัวเขาในยุครุ่งเรืองเท่านั้นที่จะสามารถทำได้ หากต้องเผชิญหน้ากับคนตระกูลอู๋จริงคงไม่มีปัญหาอะไร

“เช่นนั้นต้องรบกวนองค์ชายด้วย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี