ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 53

สรุปบท บทที่ 53 นับว่าให้เงินเจ้าล่วงหน้าก็แล้วกัน: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

บทที่ 53 นับว่าให้เงินเจ้าล่วงหน้าก็แล้วกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

ตอนนี้ของ ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 53 นับว่าให้เงินเจ้าล่วงหน้าก็แล้วกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

จะไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด!

ประโยคนี้ดังขึ้นมาเสียงดัง ซูยี่รู้สึกว่าหัวใจของเขาสั่น มีรอยยิ้มที่น่าพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เหี่ยวแห้งของเขา

ซูจิ่นจือสะอื้นหนักขึ้น ความหวังในดวงตาเปลี่ยนจากภาพลวงตากลายเป็นการจ้องมอง ในที่สุดก็ทำลายความมืดที่ปกคลุมอยู่ในหัวใจของเขามาเป็นเวลานาน ส่องสว่างรอยแผลที่เน่าเปื่อยมาเป็นเวลานาน

อู๋ฉงตกตะลึงอยู่กับที่ จ้องมองไปยังฉู่เชียนหลี อยากจะฉีกนางออกจากกันทั้งเป็น

“เจ้า……”

เกาหลินมองไปยังอู๋ฉีซึ่งเป็นลมไปด้วยความเจ็บปวด ขยิบตาให้กับทหารรักษาพระองค์ ก็มีคนก้าวไปข้างหน้าและลากอู๋ฉีขึ้นมาทันที

“สิ่งที่คุณหนูใหญ่พูด บ่าวเชื่ออยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามฝ่าบาทต้องการดูหลักฐาน ดังนั้นคนๆนี้ยังคงต้องนำตัวกลับไป”

มีเพียงผ่านการตรวจสอบแล้ว ฝ่าบาทถึงจะเชื่อประสิทธิภาพที่แท้จริงของยาคืนจิตได้

ฉู่เชียนหลีพยักหน้า “อืม”

ได้จัดการเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เกาหลินรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ

“และลานเรือนนี้ ดูไม่ดีเลย หลังจากที่ฝ่าบาทรู้ว่าลานเรือนของคุณหนูฉู่ในจวนเฉิงเสี้ยงถูกทำลายลง ก็ทรงกังวลเรื่องมาก ดังนั้นพระองค์ได้ทรงสั่งให้แก้ผนึกจวนแม่ทัพใหญ่เดิม คุณหนูใหญ่สามารถย้ายไปอยู่ที่นั่นพร้อมใต้เท้าซูและท่านชายซูก่อนได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูจิ่นจือเงยหน้าขึ้นทันที มีความปีติยินดีผุดขึ้นมาในดวงตาของเขา

จวนแม่ทัพใหญ่ บ้านของเขา!

ในที่สุดพวกเขาก็สามารถกลับบ้านได้แล้วหรือ?

ดวงตาของฉู่เชียนหลีเต็มไปด้วยความซึ้งใจ

“ขอบใจพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาท ฝากบอกฝ่าบาทด้วย ข้าจะตั้งใจศึกษาสูตรยาที่อาจารย์เหลือไว้ให้อย่างตั้งใจ และพัฒนายาที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายให้มากขึ้นโดยเร็วที่สุด”

“ฝ่าบาทจะต้องอารมณ์ดีมากเมื่อรู้ความคิดนี้ของคุณหนูใหญ่”

ทันใดนั้น ร่างของอู๋ฉีกระตุกครู่หนึ่งและกระอักเลือดออกมา

หลังจากนั้น ประสาทสัมผัสทั้งห้า จมูกและปากเริ่มหลั่งเลือดออกมาอย่างช้าๆ

ดวงตาของฉู่เชียนหลีเย็นชา “เกากงกง ผลข้างเคียงของการบังคับทานยาคืนจิตออกมาแล้ว”

เกาหลินตกใจและตระหนักในใจว่า ฉู่เชียนหลีคนนี้พูดความจริงจริงๆ

“คุณหนูใหญ่ งั้นบ่าวจะพาอู๋ฉีกลับไปก่อนและกลับไปรายงานต่อฝ่าบาท”

ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ รีบนำกลับไปถึงจะจัดการให้เสร็จได้ดี

“อื้อ”

ทหารรักษาพระองค์ลากอู๋ฉีจากไป

อู๋ฉงรีบก้าวไปข้างหน้าสองก้าว มองไปยังเกาหลินอย่างอ้อนวอน

“เกากงกง ลูกชายข้าอายุน้อยและโง่เขลา โปรดขอให้กงกงพูดคำดีๆสองสามประโยตต่อฝ่าบาทให้ด้วย อย่างน้อยก็อย่าให้เขาเสียชีวิต!”

เกาหลินหันกลับไป มองอู๋ฉงด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

“ใต้เท้าอู๋ รีบกลับไปรอที่ตำหนักของเจ้าเถอะ พระราชประสงค์ของฝ่าบาทจะไปถึงในเร็ว ๆ นี้แล้ว”

พูดจบเขาหัวเราะเยาะเย้ยและจากไปอย่างรวดเร็ว

อู๋ฉงหยุดนิ่งอยู่กับที่ พระราชประสงค์? เวลานี้จะมีพระราชประสงค์อะไร?

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉู่เชียนหลีก็ยิ้มให้เขา “อย่างที่ใต้เท้าอู๋พูดในวัง ข้าเป็นคนที่จดจำความแค้นไม่ลืม ใจแคบ และจะแก้แค้น ในเมื่อข้าบอกแล้วว่าข้าจะไม่ให้อภัยเจ้า ดังนั้นก็ต้องหาโอกาสแก้แค้นกลับไป”

“เจ้า... เจ้าหมายความว่ายังไง?”

“ถ้าอยากรู้ขนาดนี้ บอกเจ้าก้ได้ อู๋ฉีเป็นคนแรกแต่ไม่ใช่คนสุดท้าย พวกเจ้าทุกคนในตระกูลอู๋ ที่เคยทำร้ายข้าและลุงของข้า แม้แต่คนเดียวข้าก็จะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด!”

อู๋ฉงเบิกตากว้างขึ้นทันที ความเกลียดชังและความกลัวที่รุนแรงได้กลืนกินเขาไปในทันที เขากดหน้าอกแน่นและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก

“นายท่าน!”

คนรับใช้ของตระกูลอู๋ก้าวไปข้างหน้าอย่างประหม่าและรีบพยุงเขาขึ้น

อู๋ฉงมองไปยังฉู่เชียนหลี ดวงตาแดงก่ำของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ฉู่เชียนหลี!”

ฉู่เชียนหลียืนนิ่งอยู่กับที่ เฟิ่งเสวียนตู้ซึ่งเงียบอยู่ตลอดก้าวไปข้างหน้าแล้วกล่าวออกมา

“เทียนชู โยนคนออกไป!”

ฉู่เชียนหลีดึงแขนเสื้อของเฟิ่งเสวียนตู้และใช้สายตาบอกเขาเรื่องเงินห้าสิบก้อน

เฟิ่งเสวียนตู้หยิบเงินขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ พรึบ พรึบ แท่งเงินก็พุ่งเข้าหาอู๋ฉง

“เงินห้าสิบก้อน นับว่าเป็นเงินที่ให้ตระกูลอู๋ล่วงหน้าก็แล้วกัน”

เงิน...เงิน?

เฟิ่งเสวียนตู้สูดหายใจเข้าลึกๆ สุดท้ายก็เอื้อมมือไปขยี้ข้าของนางอย่างอดใจไม่ไหว

“ข้าให้พวกเขาเตรียมชาหมิงเซียงกั๋วไว้มากๆหน่อย!”

ผ่อนคลายประสาท หล่อเลี้ยงเส้นเอ็นชีพจร กลัวว่าช่วงนี้จะห่างจากพวกนี้ไม่ได้

ฉู่เชียนหลีกะพริบตาอย่างเกียจคร้าน เดิมทีต้องการจะบอกว่าเจ้าขี้เหร่ลอยแล้ว แต่ได้รับการปลอบโยนจากความอบอุ่นของฝ่ามือ หลับตาลง แล้วหลับไป

เฟิ่งเสวียนตู้มองนาง เอื้อมมือออกไปช่วยนางจัดผมเบาๆ เมื่อเห็นนางขมวดคิ้วด้วยความทรมาน สายตาอดไม่ได้ที่จะหยุดมองนาง

วินาทีถัดมา เขากำมือของฉู่เชียนหลีไว้แน่น รวบรวมพลังเสวียนเล็กน้อยที่เขาเพิ่งฟื้นขึ้นมาในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ แล้วส่งไปให้นาง

หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่เชียนหลีเลิกเลิกคิ้วด้วยความสบาย หลับสบายยิ่งขึ้น สีหน้าก็ฟื้นฟูขึ้นมาก

เฟิ่งเสวียนตู้เอนตัวพิงกำแพงรถม้าอย่างอ่อนแรง รู้สึกถึงพลังเสวียนที่ว่างเปล่า แล้วถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ

เขาอาจจะบ้าไปแล้ว ไม่อย่างนั้น ทำไมเขาถึงไม่อยากเห็นไม่สบายและมีความคับข้องใจสักนิดล่ะ?

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป แผลเป็นบนใบหน้า ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ฉู่เชียนหลีพลิกร่าง แก้มวางอยู่บนมือของเฟิ่งเสวียนตู้พอดี

เฟิ่งเสวียนตู้ถอนหายใจอีกครั้ง รักษาท่าทางของเขาไว้เหมือนเดิมเพื่อไม่รบกวนนาง

เปิดม่านออก หัวกลมของเซินเป่ายื่นเข้ามา

“เจ้าอาขี้เหร่ ท่านแม่...”

“ชู่ว!” เฟิ่งเสวียนตู้โบกมือให้เขาขึ้นมาในรถม้า มือข้างที่ว่างกอดเขาไว้ในอ้อมแขน

“ท่านแม่ของเจ้าแค่เหนื่อยนิดหน่อย ตอนนี้ผล็อยหลับไปแล้ว ให้นางงีบหลับดีๆ พวกเราอย่ารบกวนนาง ตกลงไหม?”

เซินเป่ามองไปยังแก้มของฉู่เชียนหลีที่กลับมาแดงระเรื่อ ก็รู้สึกกโล่งใจ พิงอยู่ในอ้อมแขนของเฟิ่งเสวียนตู้อย่างเชื่อฟัง

“อืม เจ้าอาขี้เหร่ เซินเป่าก็ง่วงแล้วเหมือนกัน”

“งั้นเจ้าก็นอนเลย ข้าเฝ้าพวกเจ้าเอง”

“เจ้าอาขี้เหร่...”

“หือ?” เฟิ่งเสวียนตู้หลุบตาลงต่ำ

“เจ้าดีจังเลย...” เซินเป่าขยับปากเล็กๆ เขาหลับตาผล็อยหลับไปแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี