ข่าวที่ว่าจวนแม่ทัพใหญ่ที่ปิดไปนานถูกเปิดขึ้นอีกครั้งราวกับลมกระโชกแรง กวาดไปทั่วทั้งเมืองหลวงในพริบตา
ในเวลาเดียวกัน ข่าวเลิกสัญญาหมั้นขององค์ชายสามและความกระสับกระส่ายของตระกูลชฉู่ก็ปะปนกันไปหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจเช่นกัน
แต่ไม่ว่าจะเป็นอันไหนก็ตาม ล้วนพูดชื่อของคนๆนั้นโดยไม่ได้นัดกัน
—— ฉู่เชียนหลี!
รถม้าค่อยๆ หยุดที่หน้าตำหนักอันสง่างาม เฟิ่งเสวียนตู้หลุบตาลง ลูบใบหน้าแดงระเรื่อเล็กๆของเซินเป่าในอ้อมแขนของตนเบาๆ
“เซินเป่า ได้เวลาตื่นแล้ว”
เซินเป่าลืมตาด้วยความงุนงง ในวินาทีถัดมาก็หลับตาลงอีกครั้ง มุดหัวของตนเข้าไปในอ้อมแขนของเฟิ่งเสวียนตู้
“เซินเป่าง่วงมากเลย”
“เซินเป่า เชื่อฟังนะ นอนตอนกลางคืน ดีไหม?”
เซินเป่าไม่ตอบดูเหมือนจะไม่ได้ยิน
เมื่อเฟิ่งเสวียนตู้กำลังคิดว่าจะปล่อยให้เขานอนต่ออีกสักพักหนึ่ง เซินเป่าก็ค่อยๆลุกขึ้นและตบแก้มของตนด้วยมือทั้งสองข้าง เผยรอยยิ้มนุ่มนวลออกมา
“เจ้าอาขี้เหร่ ข้าตื่นแล้ว”
เห็นเด็กที่เชื่อฟังเช่นนี้ แล้วยังเป็นลูกชายของตน หัวใจของเฟิ่งเสวียนตู้อ่อนยวบลง “เซินเป่า ยอดเยี่ยมมาก”
เซินเป่าหัวเราะอย่างอารมณ์ดีขึ้นในทันที จากนั้นจึงเอนตัวลงบนตักของเฟิ่งเสวียนตู้ขยับเข้าใกล้ท่านแม่ของตน
“ท่านแม่ยังหลับอยู่”
เฟิ่งเสวียนตู้หยิบเค้กสับปะรดชิ้นหนึ่งแล้ววางไว้ในมือของเซินเป่า
เซินเป่ายิ้มออกมาทันที แล้วนำเค้กสับปะรดมาใกล้ปลายจมูกของฉู่เชียนหลี
การหายใจคงที่ของฉู่เชียนหลีเปลี่ยนไปในทันใด นางยังไม่ลืมตาก็เอื้อมมือหยิบเค้กสับปะรดมาแล้วยัดเข้าไปในปากของตนทันที
“กลิ่นหอมมาก...”
“ท่านแม่ ท่านตื่นแล้ว”
แก้มของฉู่เชียนหลีป่องแล้วบิดขี้เกียจ พลังทิพย์ที่อุดมสมบูรณ์ในร่างกายค่อย ๆ ไหลอย่างง่ายดาย เส้นชีพจรที่ได้รับผลกระทบจากผลที่ทำได้ฟื้นฟูความแข็งแกร่งและเรียบเนียน ไม่มีร่องรอยของการบาดเจ็บเลย
“หือ?”
ฉู่เชียนหลีตรวจสอบสภาพร่างกายของตนอย่างละเอียด ในใจเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ตามหลักและเหตุผลแล้ว นางควรจะพักผ่อนสิบวันถึงครึ่งเดือนถึงจะหายไม่ใช่หรือ? ทำไมวันนี้แต่นอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาก็หายดีแล้ว?
“เจ้าขี้เหร่...”
ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นเฟิ่งเสวียนตู้กำลังขยับแขนของตนอย่างเงียบ ๆ ซึ่งเป็นแขนที่นางใช้หนุน
ในขณะนี้ นิ้วเรียวยาวของเขาวางอยู่บนชุดสีดำ เรียวยาวราวกับหยก ดูดีอย่างน่าประหลาด
“มีอะไรหรือ?”
เฟิ่งเสวียนตู้สังเกตได้ถึงการจ้องมองของนางเลยเงยหน้าขึ้นมอง
จูเชียนหลีกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เพิ่งรู้ตัวว่าตนเองมองนิ้วมือของผู้ชายคนหนึ่งจนเหม่อไป
“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่าตื่นมาเจ้ายิ่งขี้เหร่มากขึ้น...”
ฉู่เชียนหลีพูดจบ ก็คุกเข่าลงและโน้มตัวเข้าไปใกล้เฟิ่งเสวียนตู้อย่างกะทันหัน เอื้อมมือไปแตะขอบหน้ากากของเขา ความขี้เล่นในดวงตาของนางได้หายไป แทนที่ด้วยความจริงจังและความเคร่งขรึม
“ก่อนหน้านี้ หน้ากากของเจ้าเหมาะกับใบหน้าของเจ้า ขอบหน้ากากปิดรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเจ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำไมตอนนี้ถึงมีรอยแผลเลยออกมาล่ะ?”
กลิ่นหอมเย็นเข้ามาใกล้ ผ่านจากใบหน้าที่บอบบางเข้าไปทั่วร่างกาย ทำให้ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วยิ่งไร้เรี่ยวแรงมากกว่าเดิม
เฟิ่งเสวียนตู้เอนหลังโดยไม่รู้ตัว พิงผนังรถแน่น
“ข้า……”
ความรู้สึกเสียวซ่าแผ่ซ่านไปถึงก้นบึ้งของหัวใจตามแก้ม เฟิ่งเสวียนตู้รู้สึกได้ว่าหูของเขาร้อนผ่าว เม้มริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว
ฉู่เชียนหลีหยุดการกระทำ ช่วยเขาวินิจฉัยชีพจรของเขา จากนั้นขมวดคิ้วแน่น
“ร่างกายของเจ้าเป็นโรคอะไรกัน?”
ไม่ต้องพูดถึงว่าทักษะทางการแพทย์ของนางไม่มีใครทัดเทียมได้ นับได้ว่าไม่มีผู้ใดสู้นางได้ แต่นางไม่สามารถตรวจโรคของเฟิ่งเสวียนตู้ได้
เดิมทีคิดว่าเขาดีขึ้นแล้ว แต่ในชั่วพริบตา ร่างกายของเขาก็หมดพลังและเส้นลมปราณว่างเปล่า
ฉู่เชียนหลีหยิบขวดยาคืนจิตออกมาแล้วยื่นให้เฟิ่งเสวียนตู้โดยตรง “ว่างๆก็ทานยานะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...