ฉู่เชียนหลีเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จก็พลันเดินออกจากตำหนัก เหล่าพวกของซูจิ่นจือและเซียวจวินยี่ที่รออยู่ด้านนอกต่างพากันสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่
ซือ...
เฟิ่งเสวียนตู้ส่ายหัวเล็กน้อย แล้วยกมุมริมฝีปากขึ้นเบา ๆ
เขารู้อยู่แล้ว ฉู่เชียนหลีเหมาะกับสีแดงสดเช่นนี้มากที่สุด
“ท่านชายเซียว ท่านผู้พี่ พวกท่านมารออะไรกันอยู่ที่นี่หรือ?”
เซียวจวินยี่แก้มพลันแดงขึ้นในทันที ไม่กล้าที่จะสบตากับฉู่เชียนหลี เพียงแค่รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นโครมครามจนแทบจะกระเด็นออกมาอยู่รอมร่อ มือก็จับแขนเสื้อซูจิ่นจือไว้แน่น ดึงรั้งเสียจนแขนเสื้อของเขาแทบจะหลุดออกจากบ่า
ซูจิ่นจือรีบดันเขาออกไปอีกทางด้วยความรังเกียจ “วังหลวงก็ส่งหมายเชิญให้กับท่านพ่อและข้าด้วย ให้พวกเราไปที่งานเลี้ยงพร้อมกัน”
“เช่นนั้นก็พอดี ถือว่าเราไปกินเลี้ยงก็แล้วกัน”
ฉู่เชียนหลีเดินขึ้นไปด้านหน้าและอุ้มเซินเป่าขึ้น เดินออกมาเคียงข้างกันเฟิ่งเสวียนตู้
เซียวจวินยี่รู้สึกกังวลในใจ รีบร้อนดึงแขนเสื้อซูจิ่นจือเพื่อจะตามไป ผลคือ หลังจากที่เขาดึงคนข้างหน้าก็พลันหยุดเดินเสียอย่างนั้น
“รีบไปเถอะ น้องหญิงเชียนหลีก็... หืม?”
เซียวจวินยี่หันกลับมาในทันที เขาชะงักไปชั่วครู่ ยกมือขึ้นผลักซูจิ่นจือออกไปตามสัญชาตญาณ
ซูจิ่นจือยืนตรงอยู่ที่เดิม ร่างกายไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย
“จิ่นจือ เจ้า... เจ้า...”
ซูจิ่นจือยกริมฝีปากขึ้น พยักหน้าให้กับเซียวจวินยี่
“นี่... ฮ่า ๆ ๆ ดีจริง ๆ!” เซียวจวินยี่เปี่ยมด้วยความตื่นเต้น ทั้งยังเอื้อมมือออกไปลูบคลำซูจิ่นจืออีกด้วย
“ข้าก็ว่าอยู่ เมื่อครู่เห็นเจ้า ก็เห็นว่าสีหน้าของเจ้าดีขึ้นมากแล้ว คิดไม่ถึง... คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ! ดีมาก! ใช่แล้ว แล้วใต้เท้าซูล่ะ?”
ซูจิ่นจือเผยรอยยิ้มบนใบหน้า “ความลับ”
เซียวจวินยี่คือเพื่อนร่วมสาบานของเขา หากปราศจากการสนับสนุนจากเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ก็เกรงว่าตนจะไม่สามารถอดทนได้จนถึงวันนี้ ดังนั้น สำหรับเขา ไม่จำเป็นต้องปิดบังข้อมูลนี้
“เจ้าวางใจเถอะ ความลับนี้ข้าจะกลืนมันลงท้องไปเอง”
รถม้าสองคันเรียงกันเข้าไปยังพระราชวัง
ฉู่เชียนหลีอาศัยจังหวะที่ยังอยู่บนรถม้างีบหลับ เมื่อตื่นขึ้นเพียงครู่เดียวรถม้าก็มาถึงที่หน้าประตูวังที่มีทหารรับใช้คอยอยู่แล้ว
“ข้าน้อยคารวะคุณหนูใหญ่...”
“ไม่ต้องมากพิธี”
“บ่าวได้รับคำสั่งจากเกากงกง ให้มารอรับคุณหนูใหญ่ที่นี่ เพื่อนำทางให้ท่าน ป้องกันไม่ให้มีใครมาชนเข้าท่าน”
ฉู่เชียนหลีกำลังจะเดินเข้าไปด้านใน เสียงหวาน ๆ ก็ดังลอยมาทางด้านหลัง
“ท่านพี่?”
ฉู่หลิงเซวียนเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงรับใช้
บนใบหน้าของนางถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันอย่างงดงามไร้ที่ติ สวมชุดกระโปรงสีกลีบดอกบัวปักด้วยดิ้นทองเป็นลวดลายผีเสื้อนับร้อย ด้านนอกคลุมทับด้วยผ้าบางปักลายดอกกล้วยไม้
ในเวลานี้เป็นเวลาใกล้ค่ำ อาทิตย์อัสดงทอแสง บนผ้าคลุมบางปรากฏแสงสีทองส่องประกายมันทำให้นางทั้งดูนุ่มนวลและสดใส
“มองไกล ๆ เห็นรูปร่างคล้ายท่านพี่ คิดไม่ถึงว่าเป็นท่านพี่จริง ๆ เสียด้วย ว่าแต่เหตุใดวันนี้ท่านพี่ถึงได้ใส่ผ้าคลุมหน้าหรือ?”
ฉู่หลิงเซวียนมองฉู่เชียนหลี แววตาแฝงไปด้วยการหยั่งเชิง
หากนางมีโฉมหน้าเฉกเช่นฉู่เชียนหลี คงแทบจะรอไม่ไหวที่จะให้ทุกคนได้ยลโฉมได้ตามเกี้ยวทุกวันไป อย่างไรเสียก็จะไม่มีวันเอาผ้ามาปิดหน้าแน่นอน แต่ฉู่เชียนหลีกลับไม่เป็นเช่นนั้น หรือบนหน้านั้นมีสิ่งใดไม่หน้าดูหรือ?
คิดได้เช่นนั้น นางก็เดินตรงเข้าไปหาฉู่เชียนหลี
ตามระยะทางที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ของนาง ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้พิเศษที่พัดผ่านมาด้วย
ฉู่เชียนหลีกวาดตามองฉู่หลิงเซวียนที่บนร่างเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท นัยน์ตาแฝงไปด้วยความตกใจเล็กน้อย
กลิ่นหอมนั้นลอยออกมาจากถุงหอมที่อยู่บนตัวของฉู่หลิงเซวียน รวมกันอยู่ไม่กระจายหายไป แทรกซึมลึกเข้าไปในร่างกาย ที่สำคัญที่สุดคือภายในนั้นมี พลังแห่งจิตวิญญาณ แฝงอยู่ด้วย
ถึงแม้พลังแห่งจิตวิญญาณ นั้นจะอ่อนแอมาก แต่สำหรับผีเสื้อที่บอบบางแล้วนั้นก็สามารถได้กลิ่นโดยง่าย
ฉู่หลิงเซวียนใช้ดอกไม้ที่ถูก พลังแห่งจิตวิญญาณ ของนางส่งผลให้บานสะพรั่งมาทำเป็นเครื่องหอมหรือ?
ปรารถนาจะทำสิ่งใดกันแน่?
ดึงดูดผีเสื้อหรือ?
ฉู่เชียนหลียิ้มบาง ๆ “หากถอดผ้าคลุมออก เกรงว่าจะทำให้เจ้าขุ่นเคือง”
พูดจบ ปลายนิ้วก็ขยับเล็กน้อยพลังแห่งจิตวิญญาณที่หลบซ่อนอยู่ภายในถุงหอมนั้นก็ถูกเปลี่ยนเป็นพลังธรรมชาติในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...