ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 66

สรุปบท บทที่ 66 อดีตคู่หู: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี

สรุปตอน บทที่ 66 อดีตคู่หู – จากเรื่อง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดย เย็นอวี่ฟังหัว

ตอน บทที่ 66 อดีตคู่หู ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี โดยนักเขียน เย็นอวี่ฟังหัว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หยุนชิงกุยใจสั่นระรัว นึกถึงแผนเดิมของตน ในเวลานี้ หัวใจของเขาเต้นแรง เม็ดเหงื่อก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขาทันที

“เสด็จพ่อ...”

ในแผนการเดิมของเขา ณ เวลานี้ฉู่หลิงเซวียนได้ระบำถวายจบลง ฉีเฟยก็ได้รับคำสรรเสริญเยินยอจากทุกคน หากสามารถเล่นงานฉู่เชียนหลีได้สักรอบก็คงจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่

ดังนั้น ละครบทใหญ่ที่เขาให้คณะการแสดงม้าเตรียมมานั้น ก็เพื่อรอที่จะกระตุ้นฉู่เชียนหลี หลังจากนั้นก็ใช้อำนาจกดนางไว้ ทำให้ทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจนไม่ว่าฉู่เชียนหลีจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉู่หลิงเซวียนแม้แต่น้อย

แต่ในตอนนี้ สถานการณ์กลับตาลปัตร ฉู่เชียนหลีได้รับการใส่ใจเป็นพอเศษจากเสด็จพ่อ ให้เล่นงานนางในตอนนี้ หากมันไม่สำเร็จ นั่นจะเท่ากับเป็นการเติมน้ำแข็งเข้าไปบนสถานการณ์ที่ยากลำบากของเขาอีกชั้นในตอนนี้

ฮ่องเต้พยักหน้า “ก็ดี คึกคักเสียหน่อยจะได้ขับไล่โชคร้ายไปด้วย”

องค์ชายใหญ่หยุนชิงฝานเผยรอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดา “น้องสาม ยังไม่รีบให้พวกเขาเตรียมตัวอีกหรือ?”

หยุนชิงกุยทำได้เพียงพยักหน้ารับ “ ขอเชิญเสด็จพ่อ ท่านแม่และท่านผู้มีเกียรติทุกท่านไปรับชมที่หน้าตำหนัก”

จักรพรรดิสาวเท้าเดินออกไป ทุก ๆ คนต่างก็พากันเดินตาม

เซินเป่าจับมือของฉู่เชียนหลีไว้ เอ่ยปากถามด้วยความสงสัย “ท่านแม่ อะไรคือการแสดงม้าหรือ?”

เขาโตมากับฉู่เชียนหลีโดยใช้ชีวิตอยู่บนเขา เพิ่งออกมาได้ไม่นาน จึงไม่เคยได้ยินคำคำนี้

“การแสดงม้า มีต้นกำเนิดมาจากกองทัพ เดิมเป็นวิธีการฝึกทหาร ด้วยการขี่ม้า มีการนำเสนอศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลายและต่อมาได้เผยแพร่สู่ผู้คน รูปแบบก็มีความหลากหลายซับซ้อนยิ่งขึ้น ม้ากำลังควบและนักแสดงที่นั่งบนอานม้าสามารถขยับร่างกายไปทางซ้ายขวาทั้งสองข้างเพื่อหยิบจับดอกไม้ที่อยู่บนพื้น... รูปแบบการแสดงมีมากมาย ทุกแบบต่างเต็มไปด้วยความอันตรายเพื่อความตื่นเต้น ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นตาตื่นใจและเรียกเสียงปรบมือจากผู้คนได้”

เซินเป่าสายตาเป็นประกายยิ่งกว่าเดิม

“ท่านแม่ เซินเป่าอยากดู!”

“อื้ม อีกเดี๋ยวก็ได้ดูแล้ว”

ฉู่เชียนหลีรู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาที่บนตัวนาง เงยหน้าไปมองก็ปะเข้ากับหยุนชิงกุย สายตานั้นสั่นไหวเล็กน้อย ใจก็สั่นระรัวไม่หยุด

เหตุใดเจ้าคนนี้ถึงได้กระวนกระวายเช่นนี้? หรือเพราะในการแสดงการแสดงม้ามีแผนการอะไรซ่อนอยู่?

องค์ชายสามใช้โอกาสที่กำลังจัดเตรียมการแสดงอยู่นั้น ครุ่นคิดว่าจะบอกให้ยกเลิกแผนการดีหรือไม่ และทำให้การแสดงนี้ราบรื่นมากที่สุด แต่องค์ชายใหญ่หยุนชิงฝานกลับตามติดอยู่ข้างกายเขา ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก

อีกฝาก ซูจิ่นจือผลักซูยี่ไปอีกข้าง ไม่ได้มีความคิดว่าจะไปมุ่งดูที่ด้านหน้า ถึงอย่างไรการแสดงม้าก็เป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยอย่างมาก ก่อนหน้านี้ในกองทัพ นายทหารก็มักจะเรียกไปทำการทดสอบอยู่เสมอ ๆ ทุก ๆ ปีในกองทัพก็จะมักจะจัดงานแข่งขันมากมายนับไม่ถ้วน คึกคักเป็นอย่างยิ่ง

แต่นางในคนหนึ่งกลับเดินเข้ามาเพื่อนำทาง

“คุณหนูใหญ่ฉู่ องค์ชายสามได้จัดที่นั่งเพื่อดูการแสดงให้กับทุกท่านโดยเฉพาะ เชิญตามข้านายมาทางนี้เจ้าค่ะ”

ฉู่เชียนหลีได้ยินดังนั้น ในใจก็เกิดความระมัดระวังมากขึ้น

“ท่านลุง?”

ซูยี่พยักหน้า “ไม่เป็นไร ไปดูเสียหน่อยก็ได้”

“อื้ม ยามมืดลมหนาว ท่านลุงโปรดดูแลสุขภาพด้วย”

นางเกรงว่าหยุนชิงกุยจะยังมีแผนการอะไรอีก

“วางใจเถิด” ซูยี่ยิ้มบาง ๆ พร้อมกับพยักหน้า บอกเป็นนัย ๆ ว่า เขามีแผนรับมืออยู่ในใจ

ไม่ช้า บนลานว่างด้านหน้าตำหนัก ในพระราชวังทหารรักษาพระองค์ล้อมวงเป็นวงใหญ่ ในมือถือคบเพลิงทำให้ทั่วทั้งตำหนักนั้นสว่างไสวไปทั่วทั้งลาน

เมื่อเสียงฆ้องดังขึ้น คณะการแสดงม้าปรากฏขึ้นกลางจัตุรัสพร้อมกับม้า

“ฮู่!”

นักแสดงคือหนุ่มวัยเยาว์ เขาถือขวดอยู่ใบหนึ่ง เทอะไรบางอย่างเข้าไปในปาก จากนั้นก็จุดไฟเอามาไว้ตรงตำแหน่งเดียวกับปาก และพ่นไฟออกมาจากปากของเขาราวเมตรกว่า ๆ

“ดี!”

มีบางคนอดไม่ได้ที่จะตะโกนชมออกมา

เซินเป่านั่งอยู่บนแขนของเฟิ่งเสวียนตู้ เพียงแต่ตัวของเขาเตี้ย ถึงได้ไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ทำให้เจ้าตัวร้อนรนเป็นอย่างมาก

เฟิ่งเสวียนตู้ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ยกเขาขึ้นและปล่อยให้เขานั่งบนไหล่

“โม่เฟิง...”

เสียงพึมพำดังลอยเข้ามา

รอบข้างเสียงค่อนข้างดังมาก หากไม่ใช่ว่านาง แบ่งสมาธิเพื่อระแวดระวังไว้แล้วนั้น ก็ยากที่จะได้ยินเสียงของซูยี่ที่พึมพำอยู่ในลำคอ

“ท่านลุง เมื่อครู่ท่านพูดว่า...โม่เฟิง?”

หรือว่าท่านลุงจะรู้จักคนที่แสดงในคณะการแสดงม้า?

ซูยี่มีสายตาตื่นเต้น นิ้วกำพนักเท้าแขนเก้าอี้ไว้แน่น ริมฝีปากสั่นเทา น้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเขาในทันที

“โม่เฟิง ม้าตัวนั้น คือโม่เฟิง!”

ซูจิ่นจือสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ท่านพ่อ โม่เฟิงไม่ได้ถูกปลดจากการศึกแล้วเลี้ยงไว้ในกองทัพ โดยมีมืออาชีพคอยดูแลหรอกหรือ? เหตุใดถึงได้ปรากฏตัวอยู่ที่คณะการแสดงม้าได้ล่ะ?”

สำหรับทหาร ม้าศึกไม่ใช่สัตว์เลี้ยงธรรมดาทั่วไป นั่นคือพี่น้องที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขา ตั้งแต่เกิดจนถึงตาย ไม่มีวันทรยศ!

โดยเฉพาะคือโม่เฟิง ท่านพ่อหลังจากได้รับบาดเจ็บจนพิการในสนามรบ เป็นโม่เฟิงที่ประคับประคองเขา ค่อย ๆ เดินทีละก้าวผ่านจากทะเลทรายที่รกร้างว่างเปล่ากลับไปยังค่ายทหารในพระราชวัง!

นั่นคือช่วงเวลาที่ เกือกม้าของโม่เฟิงถูกบดจนแตกละเอียด บาดเจ็บไปถึงช่วงขา และไม่สามารถวิ่งได้อีกต่อไป!

ฉู่เชียนหลีได้ยินเช่นนั้น จู่ ๆ ก็หันไปมองทางหยุนชิงกุยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฝ่าบาท ความเยือกเย็นโอบล้อมไปทั่วทั้งตัวของนาง

เป็นเขา!

ถึงว่าตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้วที่ที่แววตาของเขามีอะไรผิดปกติไป ที่แท้คนที่เขาต้องการจ้องเล่นงานไม่ใช่นาง แต่เป็นท่านพ่อที่นางใส่ใจ!

หยุนชิงกุยรู้สึกได้ถึงสายตาของฉู่เชียนหลี รู้สึกว่าความเยือกเย็นได้ส่งไปถึงขั้วหัวใจ ทำเอารู้สึกเหมือนว่าจุดลมปราณของเขานั้นถูกแช่แข็งไปด้วย จึงทำได้เพียงบังคับให้ตนต้องย้ายสายตาไปมองที่อื่น

บนลานกว้าง การแสดงได้เริ่มต้นขึ้น

ผู้แข็งแกร่งสองสามคนผลัดกันทดสอบรอบ ๆ ตัวม้าดำ แต่ทันทีที่พวกเขาก้าวออกมา ม้าก็เริ่มพยศและต่อต้าน ไม่ยอมให้พวกเขาแตะต้องตัวมัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี